องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 1100

ม่านตาของเฮยไหลไป่หลี่ค่อยๆ หดลงในทันที ปากอ้าออก ดูเหมือนว่าจะไม่ได้คาดหวังว่าจะมาเจอซั่งกวนหว่านเอ๋อร์ที่นี่

ใช่แล้ว!

หญิงสาวสองคนนี้ อีกคนคือซั่งกวนหว่านเอ๋อร์ อีกคนคืออวิ๋นเอ๋อร์

“น้องสาม ที่แท้ก็เจ้านั่นเอง”

เฮยไหลไป่หลี่ยิ้มแห้งอย่างขมขื่นออกมา “พวกเจ้ามาได้อย่างไร?”

ซั่งกวนหว่านเอ๋อร์ยิ้มบางๆ “ข้ามาหาท่าน ศิษย์พี่ใหญ่ เราไม่ได้เจอกันมาหลายปีแล้ว?”

ใบหน้าซื่อของเฮยไหลไป่หลี่ส่ายหัวเล็กน้อย “ข้าจำไม่ได้เลย ว่ากี่ปีมาแล้ว”

“ศิษย์พี่ใหญ่สิบสองปีมาแล้ว”

ซั่งกวนหว่านเอ๋อร์เอ่ยปาก “สิบสองปีก่อน ข้ารู้ว่าท่านยังมีชีวิตอยู่ จึงมาตามหาศิษย์พี่ ณ ตอนนี้ก็หาพบแล้ว แต่ข้าไม่คิดเลยว่าเหล่าลูกศิษย์จะคัดค้านการออกมาพบท่าน อีกทั้งยังไม่ยอมให้ล้างแค้นให้ปรมาจารย์เฒ่าของพวกเขาอีก

“ศิษย์น้องสาม เจ้ามาพบข้ามีเรื่องอันใดกันแน่?” แววตาของเขาเริ่มเปลี่ยนไป เปิดประตูออกไปชมภูเขา ไม่ต้องการพล่ามอะไรไร้สาระ

ซั่งกวนหว่านเอ๋อร์ถอนหายใจ

เมื่อมองไปยังศิษย์พี่ใหญ่ผู้ที่เคยปกป้องเขามาตลอด ในใจก็รู้สึกไม่ดีเอาเสียเลย

ด้วยการจากไปของปรมาจารย์เฒ่า ทั้งสำนักก็แตกแยกจากกัน เพราะว่าแนวคิดบางอย่างที่ไม่ตรงกัน จึงเดินแยกทาง กระจัดกระจายกันไป

ไม่มีการรวมกลุ่มอีกต่อไป

และบรรดาลูกศิษย์สำนักจิ่งของปรมาจารย์เฒ่า ก็ประสบกับการเปลี่ยนแปลงในชีวิตครั้งยิ่งใหญ่เช่นกัน

ศิษย์พี่เป็นหัวหน้าของสำนักจิ่งในตอนนี้ และเป็นหัวหน้าของสิบขุนพลของสำนักจิ่ง สั่งการและควบคุมคนนับร้อย!

สิบขุนพลสำนักจิ่งถูกโจมตีและสังหาร กองทัพเกือบทั้งหมดถูกกวาดล้าง ทว่าศิษย์พี่ของเธอกลับเป็นหนึ่งคนจากสิบที่เอาชีวิตรอดมาได้ ซึ่งไม่ง่ายเลยที่จะมีชีวิตรอดมาได้

“ศิษย์พี่ใหญ่ ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่ควรมาคุยกัน พวกเราไปหาที่อื่นกันเถิด”

ซั่งกวนหว่านเอ๋อร์กล่าว

เฮยไหลไป่หลี่ไม่ได้ปฎิเสธแต่อย่างใด เขาพยักหน้าตอบรับ

ผ่านไปไม่นาน

ณ โรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง

ซั่งกวนหว่านเอ๋อร์ขึ้นเสียง จ้องมองไปยังศิษย์พี่ใหญ่ของตน มีท่าทีโกรธเคืองเล็กน้อย!

เฮยไหลไป่หลี่กัดฟัน สีหน้าดูหมองหม่น อย่างไรเสีย เขายังคงส่ายหัวและกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มลึกว่า

“เมื่อเวลานั้นมาถึง ข้าจะลงมือเอง ข้าสาบานว่าจะล้างแค้นให้ปรมาจารย์เฒ่าจนตัวตาย ทว่าตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา หากเขาสิ้นชีวิตตอนนี้ จะมีบางอย่างที่ทั้งเจ้าและข้าไม่สามารถควบคุมได้...ยิ่งไปกว่านั้น รอบกายเขาล้วนเต็มไปด้วยผู้มีฝีมือ และยังมีขันทีเฒ่าผู้นั้นอยู่ด้วย ข้าและเจ้าจะไปจัดการเขาไหวหรือ?”

ซั่งกวนหว่านเอ๋อร์ได้ยินเช่นนั้นแล้วจึงยิ้มอย่างเย็นชา ทันใดนั้นนางก็ตบโต๊ะข้างๆ ไปหนึ่งฉาด!

ปัง!

เจ้าโต๊ะอันน่าสงสารที่ได้รับฝ่ามือพิฆาตของนางไปนั้น แตกออกเป็นเสี่ยงๆ แทบจะกลายเป็นผง!

“ศิษย์พี่ใหญ่ ท่านคิดว่าขันทีเฒ่าคนนั้นที่เกือบพรากชีวิตไปจากท่าน จะเป็นคู่ต่อสู้ข้าในตอนนี้ได้ไหม?”

ซั่งก่วนหว่านเอ๋อร์กล่าวอย่างใจเย็น

แววตาของเฮยไหลไป่หลี่หดตัวลง เขามองดูศิษย์น้องสามอย่างไม่เชื่อมั่นนัก เขาเอ่ยปาก น้ำเสียงฟังดูประหลาดใจเล็กน้อย

“น้อง น้องสาม...ศิลปะการต่อสู้ของเจ้าน่ะ...”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน