หลี่จุ่นยังไม่ค่อยเข้าใจจางเป่ยผู้นี้นัก
แต่การที่จางเป่ยปรากฏตัวอยู่ที่นี่ย่อมมิใช่เรื่องบังเอิญ ผู้เฒ่าที่ลาออกจากราชการไปบำนาญเกษียณแล้วแต่กลับมาปรากฏตัวอยู่ในสถานที่ที่สำคัญเช่นนี้ได้
มีความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียวคือหลี่เจิ้งเป็นผู้จัดแจงเท่านั้น
ฉะนั้นทัพเหยียนโจวนี้... หากคิดจะเอามา เกรงว่าคงต้องสู้กันเสียแล้ว
มีเพียงการซัดอีกฝ่ายให้พ่ายแพ้ถึงจะสามรถเจรจากันอีกครั้งได้ ไม่เช่นนั้นการพูดปากเปล่าคงไร้ประโยชน์ ลำพังแค่บอกว่าตัวเองเก่งแล้วใครจะเชื่อได้เล่า ?
เพราะถึงอย่างไรตอนนี้ทั้งสองฝ่ายก็มีฝีมือพอ ๆ กัน แม้ทัพเหยียนโจวจะขาดคนไปนับหมื่น แต่พวกเขามีเมืองอยู่
ก็ศึกป้องกันเมืองนี่นะ !
มีปราการธรรมชาติเป็นข้อดี
แน่นอนว่า
อีกฝ่ายเองก็กลัวเครื่องโยนหินของทัพแคว้นหนานเช่นกัน เพราะของประเภทนี้ไม่ได้เป็นเพียงเรื่องล้อเล่น เมื่อครั้งศึกด่านฝานหลง ของสิ่งนี้ก็ถูกนำมาใช้สู้จนเป็นที่รู้จักกันทั่ว !
แม้แต่โจวชิงที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่ทัพยอดฝีมือผู้ไร้เทียมทานยังทำได้เพียงเก็บความแค้นเอาไว้ในใจ ต่อให้ทัพเหยียนโจวของพวกเขาแข็งแกร่งสักแค่ไหน จางเป่ยจะโทษตัวเองสักเพียงใด แต่จะกล้าเทียบกับโจวชิงได้เชียวหรือ ?
เมื่อต้องเผชิญกับเครื่องโยนหิน แม้แต่ข้อดีของทัพเหยียนโจวก็กลายเป็นข้อด้อยไปได้ ยามถูกล้อมอยู่ภายในเมือง ถูกระเบิด แม้แต่หนียังไร้ที่ซึ่งจะหนีได้ด้วยซ้ำ !
กำแพงที่เดิมทีมีไว้เพื่อป้องกันศัตรู ก็กลายเป็นอุปสรรคในการหนีเอาตัวรอดไปเสียได้
หากจางเป่ยผู้นี้ยังไม่รู้จักประมาณตน ศึกครั้งนี้ก็ต้องดำเนินต่อไป这
เมื่อหลี่จุ้นครุ่นคิดดูแล้วก็รีบเรียกเซียวเจิ้นมากำชับ
“พี่เซียว ต้องรบกวนให้ท่านไปอีกรอบแล้ว ท่านไปแจ้งแก่ฝ่าบาทว่าคืนนี้ให้ประกาศแก่ทัพเหยียนโจว ให้ทัพเหยียนโจวบอกให้ชาวบ้านออกจากเมืองไปหลบหนีชั่วคราว”
“หากว่าทัพเหยียนโจวยังคงคิดจะใช้ชาวบ้านเป็นเกราะกำบังมนุษย์ เช่นนั้นก็ไม่ถือว่าเป็นความรับผิดชอบของทัพแคว้นหนานเราแล้ว พรุ่งนี้หากชาวบ้านไม่ออกจากเมือง คืนพรุ่งนี้ทัพเราจะบุกโจมตี ให้จางเป่ยไปคิดให้ดี !”
จะบุกโจมตีหรือ ?
เซียวเจิ้นได้ฟังแล้วสีหน้าก็ตื่นตระหนกไปครู่หนึ่ง ภายในใจรู้สึกกังวลไม่น้อย萧
นี่ท่านนายน้อยหมายความว่า... ต่อให้ทัพเหยียนโจวไม่ปล่อยให้ชาวบ้านออกจากเมืองมา ศึกครั้งนี้ก็ต้องรบอยู่ดีน่ะหรือ ?
“ขอรับ !”
เซียวเจิ้นไม่กล้าคิดอะไรมาก รีบรับคำสั่งแล้วเดินทางออกไป
ในเวลานี้เอง
ใช้ชาวบ้านเป็นตัวประกัน เพราะทัพศัตรูกลัวว่าจะเป็นการทำร้ายชาวบ้าน ย่อมต้องไม่กล้าบุกเข้าเมืองอยู่แล้ว
เมื่อคิดถึงสถานการณ์ในตอนนี้ พวกเขาย่อมเอ่ยอะไรไม่ออก แม้ว่าจะนึกไม่พอใจอยู่บ้าง แต่ก็ทำได้เพียงเงียบตอบเท่านั้น
“ทุกท่านคิดว่าอย่างไรบ้าง ?”
จางเป่ยเพียงแต่เหลือบมองเจียงเฟิงหากแต่ไม่ได้ตอบรับอันใดไป แต่เลือกที่จะใช้สายตากวาดมองไปยังผู้คน ณ ที่นั้นแล้วเอ่ยถาม
สายตาของเขาก็นิ่งสงบ แต่ก็ดูเย็นชาอยู่หลายส่วน
เมื่อได้ยินคำถามของจางเป่ย ทุกคนก็พากันมองหน้ากันและกัน
ภายในกระโจมทัพนิ่งเงียบไปหลายวินาที กุนซือเจี่ยงอิงสงจึงจำเป็นที่ต้องเอ่ยปากออกมา
“ใต้เท้า... ที่ใต้เท้าเจียงกล่าวมาก็ใช่ว่าจะทำไม่ได้นะขอรับ“
เหล่าผู้นำทัพเหยียนโจวยังคงนิ่งเงียบต่อไป
แต่คราวนี้จางเป่ยกลับคิ้วขมวดเสียยิ่งกว่าเดิม เขานิ่งเงียบไปอยู่ครู่ใหญ่ แล้วจึงส่ายหน้าอย่างหนักแน่น แล้วจู่ ๆ ก็เอ่ยถามขึ้นมา
“ทุกท่านรู้หรือไม่ว่าเหตุใดข้าจึงอยู่ที่นี่ ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
ปลดล็อคแล้วอ่านไม่ได้...
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...