หลี่จุ่นให้จักรพรรดินีไปบอกแก่ทัพเหยียนโจว ให้ทัพเหยียนโจวขับไล่ชาวบ้านออกจากเมือง จากนั้นก็โจมตีเมือง
แต่กลายเป็นว่าหลี่จุ่นได้รับจดหมายพิราบสื่อสารในตอนดึกว่าอีกฝ่ายได้เชิญจักรพรรดินีไปพบที่นอกเมือง
หลี่จุ่นเห็นดังนั้นก็ถึงกับงงงันไปครู่หนึ่ง
จางเป่ยผู้นี้คิดจะทำอะไรกันแน่ ?
เล่นอะไรอยู่อย่างนั้นหรือ ?
พอได้ยินว่าผู้ที่นำทัพหลักของเหยียนโจวคือจางเป่ย หลี่จุ่นก็แจ้งไปยังสมาชิกของสมาคมเทียนตี้ภายในเมืองทันที ให้พวกเขาส่งจดหมายต่อไปยังอวี้เซียง ตรวจสอบดูว่าจางเป่ยผู้นี้เป็นอย่างไรบ้าง
เพราะหลี่จุ่นขาดความเข้าใจเกี่ยวกับคนผู้นี้ จึงยากต่อการลงมือ
ทว่า ถึงอย่างไรก็ต้องเอาชนะเหยียนโจวนี้ให้ได้โดยเร็ว นานสุดห้าวัน เร็วสุดไม่เกินสามวัน
หากเกินกว่าห้าวัน ทัพแคว้นหนานคงพบวิกฤติเรื่องเสบียงขาดแคลนเป็นแน่
ถึงตอนนั้น เกรงว่าจะทำได้เพียงถอยทัพกลับไปชั่วคราว
“จางเป่ยผู้นี้คิดจะทำอะไรกันแน่ ?”
หลี่จุ่นขมวดคิ้วพลางครุ่นคิด
ก่อนนี้เพิ่งจะเจรจาล้มเหลวไป มาตอนนี้อีกฝ่ายกลับเป็นฝ่ายเชิญไปเสียเอง
วิธีการเช่นนี้ยากต่อการทำความเข้าใจได้จริง ๆ !
“ตาแก่นี่ จะประมาทไม่ได้” หลี่จุ่นแอบคิดในใจ
ในเมื่อเขาสามารถนั่งตำแหน่งเจ้ากรมกลาโหมได้ แล้วยังมีอายุมากถึงเพียงนี้แล้ว ต้องเป็นพวกฉลาดเป็นกรดเป็นแน่แท้
จะประมาทไม่ได้ ต้องให้ความสำคัญ !
“ข้าอยากจะฟังนักว่ากำลังทำสิ่งใดอยู่กันแน่” หลี่จุ่นนึกวางแผนอยู่ในใจ ต่ตอบจักรพรรดินีไปเพียงว่าต้องรับมืออย่างระมัดระวัง รอดูสถานการณ์ไปก่อน
ในวันรุ่งขึ้น
เมื่อใกล้ถึงช่วงกลางวันแล้ว จักรพรรดินีก็เข้าเมืองมาด้วยตนเอง
นางมายังโรงเตี๊ยมเพื่อพบกับหลี่จุ่น
“ฝ่าบาท ทรงมาได้อย่างไรกันพ่ะย่ะค่ะ ?” หลี่จุ่นนิ่งอึ้งไปเล็กน้อย จากนั้นก็รีบเชิญจักรพรรดินีที่แต่งกายปลอมตัวมาให้เข้าไปภายในห้อง
จักรพรรดินีนั่งลงบนเก้าอี้ ดึงเอาผ้าคลุมหน้าออกดื่มชาที่หลี่จุ่นรินให้แล้วเอ่ยขึ้น
“ท่านกุนซือ วันนี้ข้ากับจางเป่ยได้เจรจากันอีกคราแล้ว เขารับปากว่าทัพเหยียนโจวจะยอมแพ้แก่ทัพของเรา แต่ต้องรอหลังจากเจ็ดวัน !”
เจ็ดวันให้หลังหรือ ?
หลี่จุ่นหรี่ตาแล้วเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ฝ่าบาท จางเป่ยน่าจะกำลังถ่วงเวลาอยู่น่ะพ่ะย่ะค่ะ”
จักรพรรดินีเหลือบมองเขาก่อนจะพูดขึ้น
“หากท่านกุนซืออยากทราบอะไรก็ถามได้เต็มที่ คนผู้นี้เคยรู้จักแม่ทัพเฟิงมาก่อน แม่ทัพเฟิงถือว่าพอรู้จักเขาอยู่บ้าง ตอนนี้ข้าเองก็พอจะรู้เรื่องราวเกี่ยวกับคนผู้นี้อยู่บ้าง”
หลี่จุ่นนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง ตาก็มองไปยังจักรพรรดินี จากนั้นก็เอ่ยถามขึ้น
“ฝ่าบาท แล้วความสามารถในการเป็นผู้นำทัพของคนผู้นี้เป็นอย่างไรบ้าง ?”
ในเมื่อสามารถเป็นถึงเจ้ากรมกลาโหมได้ เกรงว่าก็คงจะเก่งกาจเรื่องการรบมากเช่นกัน
ทว่า
จักรพรรดินีกลับส่ายหน้าปฏิเสธ
“เรื่องนี้ข้ากับแม่ทัพเฟิงยังไม่ค่อยเข้าใจดีนัก พวกเขามิได้รู้จักกันจากบนสนามรบ ทว่า จากที่ข้ารู้มา จางเป่ยผู้นี้มิเคยนำทัพออกรบมาก่อน แต่ที่คนผู้นี้สามารถขึ้นเป็นเจ้ากรมกลาโหมได้ เกรงว่าคงมีความรู้ด้านวิถีการรบที่ไม่เหมือนใคร จะประมาทมิได้เด็ดขาด”
หลี่จุ่นขมวดคิ้ว แต่ก็ทำได้เพียงพยักหน้าช้า ๆ “ฝ่าบาท เช่นนั้นแล้วคนผู้นั้นมีนิสัยอย่างไรบ้างหรือ ?”
“จากที่ท่านแม่ทัพเฟิงกล่าว เจ้ากรมกลาโหมจางผู้นี้ เบื้องหน้าดูเป็นคนอ่อนโยน แต่ก็มีช่วงเวลาที่มุทะลุใจร้อน แล้วยังมีอีกจุดหนึ่งคือจางเป่ยผู้นี้รักและปกป้องชาวบ้านยิ่งนัก ชาวบ้านล้วนแต่พูดถึงเขาในทางที่ดีทั้งสิ้น” เมื่อจักรพรรดินีครุ่นคิดแล้วก็เอ่ยตอบออกไป
ดีต่อชาวบ้านหรือ ?
เช่นนั้นก็น่าจะเป็นขุนนางที่ดีกระมัง
หรือไม่เช่นนั้น ตัวเองจะเป็นฝ่ายใช้ชาวบ้านเมืองเหยียนโจวมาข่มขู่เขาเสียเอง ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
ปลดล็อคแล้วอ่านไม่ได้...
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...