องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 1112

“ท่านกุนซือ เรื่องนี้ท่านคิดเห็นว่าอย่างไรบ้าง ?”

จักรพรรดินีเอ่ยถามหลี่จุ่น

สถานการณ์ไม่ตอนนี้จะชักช้าอีกไม่ได้เด็ดขาด ปัญหาเรื่องเสบียงได้กลายเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดของทัพแคว้นหนาน ไม่อาจเสียเวลากับทัพศัตรูได้อีก

หลี่จุ่นลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขามองไปยังจักรพรรดินีแล้วจึงค่อย ๆ เอ่ยขึ้น

“ฝ่าบาท หากว่าจางเป่ยผู้นี้รักและปกป้องชาวบ้านจริง เช่นนั้นก้เกรงว่าภายในสองวันนี้ คนผู้นี้คงจะส่งชาวบ้านออกนอกเมืองไปในทันที เพื่อมิให้ชาวบ้านต้องเจอกับสงคราม”

“ฉะนั้นแนวคิดของข้าก็คือ ขัดขวางการย้ายออกนอกเมืองของชาวบ้าน ใช้ความปลอดภัยของชาวบ้านกดดันจางเป่ย !“

“ว่าอย่างไรนะ ?”

สีหน้าของจักรพรรดินีเปลี่ยนไปในทันทีเมื่อได้ยิน ดวงตาทั้งคู่หรี่ลง มองดูหลี่จุ่นอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเองแล้วเอ่ยถามขึ้น

“ท่านกุนซือ จะทำเช่นนี้ไม่ได้เด็ดขาด ! ชาวบ้านคือรากฐานแห่งแคว้น หากพวกเราใช้ชีวิตของชาวบ้านเป็นตัวประกัน เกรงว่าวันหน้าต้องเกิดปัญหาตามมาไม่หยุดหย่อนแน่” !“

หลี่จุ่นฟังแล้วก็ถึงกับเอ่ยพลางหัวเราะ “ฝ่าบาท ก็แค่แผนเท่านั้นแหละพ่ะย่ะค่ะ หากอีกฝ่ายไม่เห็นแก่ชีวิตชาวบ้านเช่นนั้นพวกข้าก็ย่อมไม่อาจนำชีวิตชาวบ้านมาเป็นเรื่องล้อเล่นได้ แต่ถ้าอีกฝ่ายเป็นห่วงความปลอดภัยของชาวบ้านจริง เช่นนั้นความกังวลของทัพแคว้นหนานเราก็ถูกแก้ไขได้แล้วมิใช่หรือ ?”

แต่จักรพรรดินีก็ยังคงขมวดคิ้ว นางส่ายหน้าปฏิเสธในทันควัน

“ข้าไม่อาจเห็นด้วยกับสิ่งที่ที่ท่านกุนซือกล่าวเช่นนี้ได้ !”

หลี่จุ่นได้ฟังดังนั้นก็ถึงกับถอนหายใจ

ดูท่าแล้วจักรพรรดินีก็ยังคงเป็นจักรพรรดินีที่เขารู้จัก นางย่อมไม่ยอมตอบตกลงกับเรื่องพรรค์นี้เป็นแน่

หลี่จุ่นลองคิดทบทวนอยู่ครู่หนึ่ง ก็ทำได้เพียงเอ่ยออกไป

“ฝ่าบาท เช่นนั้นตอนนี้ก็เหลือเพียงวิธีเดียวแล้ว”

“เชิญท่านกุนซือกล่าวมาได้“ จักรพรรดินีมองไปยังหลี่จุ่น

หลี่จุ่นเว้นจังหวะอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดขึ้น “ในเมื่อฝ่าบาทเองก็เข้าเมืองมาแล้ว มิสู้ว่าอาศัยโอกาสนี้ เราสองสืบดูที่ฐานทัพศัตรูให้แน่ชัด ตามหาว่าจางเป่ยอยู่ที่ใด แล้วสังหารเขาเถอะพ่ะย่ะค่ะ !”

จักรพรรดินีฟังแล้วก็ขมวดคิ้วยิ่งกว่าเดิม หญิงสาวมองไปยังหลี่จุ่นโดยไม่เอ่ยคำใด

หลี่จุ่นเห็นดังนั้นจึงเอ่ยขึ้น “ขอแค่จางเป่ยตายไป เชื่อว่าคราวนี้ทัพเหยียนโจวจะไร้ซึ่งผู้นำอย่างแท้จริง ถึงตอนนั้นขวัญกำลังใจทัพก็จะเกิดความวุ่นวายขึ้น ไม่อาจต่อสู้ได้อีก !”

“เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว พวกข้าก็จะสามารถนำกำลังทัพเหยียนโจวนี้มาอยู่ในครอบครองได้ !”

“นี่...”

จักรพรรดินีเกิดความลังเลเสียแล้ว

แต่การที่ต้องเผชิญกับสงครามนี้ไม่ควรต้องใจอ่อนหรือเมตตาต่อใคร !

สำหรับหลี่จุ่นแล้ว ตอนนี้คือยุคสมัยแห่งสงคราม ไม่ว่าจะต้องใช้ชาวบ้านให้เกิดประโยชน์ หรือว่าสังหารจางเป่ยก็ตาม เหล่านี้ล้วนแต่ไม่มีเรื่องของความถูกผิดเข้ามาข้องเกี่ยว !

บางอย่างเป็นเพียงเพราะการศึก บางอย่างเป็นเพียงเรื่องของแพ้ชนะ

มีเพียงผู้ชนะที่จะมีสิทธิ์ตัดสินเรื่องถูกผิดได้ !

“ฝ่าบาท กระหม่อมขอถามพระองค์เพียงคำเดียว เรายังต้องการเมืองเหยียนโจวนี้อยู่หรือไม่ ? ทัพเหยียนโจวนี้ เรายังต้องการอยู่หรือเปล่า ?“

หลี่จุ่นเอ่ยนถามด้วยท่าทีจริงจัง

จักรพรรดินีอ้าปากค้าง นางมองไปยังหลี่จุ่นด้วยความรู้สึกสับสนยิ่งนัก

หญิงสาวเงียบไปอยู่พักใหญ่โดยไร้ซึ่งคำตอบ

จวบจนกระทั่งได้ยินเสียงถอนหายใจของหลี่จุ่น จึงเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเยาะเย้ยตัวนางเอง

“ใช่ ถึงอย่างไรข้าก็ไม่มีทางเทียบกับอาจารย์ของท่านได้อยู่ดี ข้ามองปัญหาจากภาพรวมไม่ได้อย่างเช่นนาง ข้าต้องยอมรับจริง ๆ ว่าท่านกับอาจารย์ของท่านเหมือนกันมาก”

“หากว่าไปตามโหงวเฮ้งแล้ว... ท่านกับอาจารย์ของท่านล้วนแต่เป็นคนที่สามารถทำการใหญ่ได้สำเร็จ ส่วนข้าน่ะหรือ ก็เป็นได้เพียงคนที่ถูกอาจารย์ของท่านฝืนผลักดันจนมาอยู่ตำแหน่งนี้ได้ก็เท่านั้น”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน