รอยยิ้มนี้งดงามเกินไป ชวนให้ใจหวั่นไหวยิ่งนัก !
เขาเคยพบหญิงงามมามากมายนัก กระทั่งรอยยิ้มของเหล่าดาราสาวในอินเทอร์เน็ตที่เขาเคยเห็นในโลกอนาคต แต่ก็ยังสู้รอยยิ้มของจักรพรรดินีหญิงผู้นี้ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย !
มีเสน่ห์ยั่วยวน ชวนให้ใหลหลง !
ที่สำคัญที่สุดก็คือ...นี่คือรอยยิ้มที่เคอะเขินโดยธรรมชาติ ไร้ซึ่งการปรุงแต่งใด ๆ ทั้งสิ้น !
จักรพรรดิหญิงถูกหลี่จุ่นมองเสียจนหน้าแดงไปหมด จนจำใจต้องหันหน้าหนี ขณะที่หลี่จุ่นเองก็รู้สึกตัวได้ว่าตนเองเสียมารยาทไป จึงทำได้เพียงหันหน้าไปอีกฝั่งด้วยความเคอะเขิน
ผู้หญิงคนนี้หมายความว่าอย่างไรกันแน่ ?
จู่ ๆ ก็เปิดเผยใบหน้าที่เคยปกปิดมิดชิดให้ตนได้เห็น...
นี่นางทำอะไรกันอย่างนั้นหรือ ?
หลี่จุ่นแอบลอบถอนหายใจ รู้สึกได้ถึงความไม่สมจริง ด้วยคิดไม่ถึงว่าจักรพรรดินีหญิงจะไม่ได้ลงมือลงไม้กับตัวเอง
แต่เมื่อมาคิดดูก็นับว่าถูกต้องแล้ว เหมือนว่านางจะใจกว้างกับตนเองมาโดยตลอด ท่าทีก็ไม่เคยขาดคำว่าเคารพไปเลยแม้แต่น้อย
ดั่งสิ่งที่นางแสดงออกมา... ว่าปฏิบัติตนต่อผู้อื่นเช่นนี้
บรรยากาศภายในห้องเงียบงันไปในชั่วครู่จนเกิดความกระอักกระอ่วนขึ้นมาเล็กน้อย
“คือว่า...”
หลี่จุ่นเอ่ยปากด้วยหวังว่าจะแก้ไขสถานการณ์อันกระอักกระอ่วนนี้ เมื่อคิดดูแล้วก็เอ่ยขึ้น
“ฝ่าบาททรงวางใจเถิด... บัดนี้ฝ่าบาทต้องการหม่อมฉัน หม่อมฉันย่อมไม่มีทางไปจากฝ่าบาทแน่นอน”
แน่นอนว่าจะไปง่าย ๆ เช่นนี้ไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าเกิดว่าภายภาคหน้าทัพใหญ่ของแคว้นหนานนี้จะกลายเป็นของเขาเสียเล่า ?
ขืนไปเสียตั้งแต่ตอนนี้ไม่เท่ากับว่าเขาเสียขาดทุนมากหรือ ?
ถึงอย่างไรก็ไม่มีทางไปแน่นอน !
เมื่อจักรพรรดินีหญิงได้ยินดังนั้น แววตาก็เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มปริ่มสุข
“ท่านพูดจริง ๆ หรือ ?”
ไม่เพียงแต่น้ำเสียงของหญิงสาวที่อ่อนโยน แต่แววตายังเป็นประกายอีกด้วย
“ใช่... ใช่สิพ่ะย่ะค่ะ... ข้าย่อมต้องพูดจริงอยู่แล้ว” หลี่จุ่นพยักหน้ารับทันที
คราวนี้จักรพรรดินีหญิงจึงค่อยโล่งใจได้เปลาะหนึ่ง สีหน้าของนางเห็นได้ชัดถึงความโล่งใจ ก่อนจะเอ่ยถามอีกฝ่าย
“แต่ท่านจะไม่โทษข้าหรือ ? ข้ายังไม่ยอมฟังคำแนะนำท่านด้วยซ้ำ ในสถานการณ์เช่นนี้... ทำให้ท่านต้องลำบากใจเช่นนี้อีก”
จะโทษได้อย่างไรเล่า ?
ในเมื่อไม่มีทางที่จะโทษได้เลยนี่นา !
หรือจะให้ข้าจับท่านกดลงบนพื้น จากนั้นก็ลงโทษท่านสักคราหรือ ?
คืนนี้จะระเบิดเมือง !
หากว่าจางเป่ยยอมแพ้และยอมขึ้นกับทัพแคว้นหนานเสียก่อน เช่นนั้นทุกอย่างก็คุยกันได้ ศึกการระเบิดเมืองครั้งนี้ก็ย่อมไม่มีทางเกิดขึ้น
แต่ถ้าหากจางเป่ยต้องการสู้ เช่นนั้นเขาก็จะสู้ !
แต่ถ้าจางเป่ยผูกมัดชาวบ้านไว้กับตัวเอง ไม่ยอมให้พวกเขาออกจากเมือง เช่นนั้นหลี่จุ่นเองก็ไร้ซึ่งทางเลือก ทำได้แค่หยุดศึกการบุกเมืองขั้นสุดท้ายและถอยทัพกลับแต่เพียงเท่านี้
การบุกโจมตีเมืองโดยไม่สนใจความปลอดภัยของชาวบ้านนั้น แม้พูดง่ายแต่เมื่อจะทำขึ้นมาจริง ๆ ก็ถือว่าเป็นเรื่องยากในใจของหลี่จุ่นอยู่มาก
ถึงอย่างไรเขาก็มาจากสังคมที่สงบสุขในยุคหลัง แม้จะเคยผ่านสงครามชายแดนเหนือมาก่อน แต่ภายในใจก็ยังคงต่อต้านการรบราฆ่าฟันอยู่ดี ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการสังหารชาวบ้านที่อยู่ในเมืองนี้
ตอนที่หลี่จุ่นมานั้นไม่ได้พกสิ่งใดมาด้วย จึงไม่จำเป็นต้องเตียมตัวแต่อย่างใด เพียงแต่ปล่อยให้นกพิราบบินออกไป จากนั้นก็ทิ้งข้อความลับให้แก่คนของสมาคมเทียนตี้ พร้อมทั้งเรียกให้เซียวเจิ้นตามจักรพรรดินีออกมาด้วย
หลังพระอาทิตย์ตกดิน
จักรพรรดินีหญิงเขียนจดหมายขึ้น แล้วให้คนนำไปส่งที่หน้าประตูเมืองเหยียนโจว
จากนั้นก็ออกคำสั่งให้ทั้งกองทัพเตรียมพร้อมสำหรับการรบ !
นำเครื่องโยนหอนทั้งหมดมาตั้งเรียงแถวกันอยู่ด้านนอกเมือง
เหล่าทหารแต่ละทัพต่างก็พากันเคลื่อนย้ายก้อนหิน รวมถึงไหสุราที่บรรจุน้ำมันตุงเอาไว้
ของพวกนี้ล้วนแต่เตรียมพร้อมไว้นานแล้ว เพราะก่อนจะมาก็ได้เตรียมการไว้แล้วว่าจะบุกโจมตีเมืองเหยียนโจว !
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
ปลดล็อคแล้วอ่านไม่ได้...
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...