องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 1114

รอยยิ้มนี้งดงามเกินไป ชวนให้ใจหวั่นไหวยิ่งนัก !

เขาเคยพบหญิงงามมามากมายนัก กระทั่งรอยยิ้มของเหล่าดาราสาวในอินเทอร์เน็ตที่เขาเคยเห็นในโลกอนาคต แต่ก็ยังสู้รอยยิ้มของจักรพรรดินีหญิงผู้นี้ไม่ได้เลยแม้แต่น้อย !

มีเสน่ห์ยั่วยวน ชวนให้ใหลหลง !

ที่สำคัญที่สุดก็คือ...นี่คือรอยยิ้มที่เคอะเขินโดยธรรมชาติ ไร้ซึ่งการปรุงแต่งใด ๆ ทั้งสิ้น !

จักรพรรดิหญิงถูกหลี่จุ่นมองเสียจนหน้าแดงไปหมด จนจำใจต้องหันหน้าหนี ขณะที่หลี่จุ่นเองก็รู้สึกตัวได้ว่าตนเองเสียมารยาทไป จึงทำได้เพียงหันหน้าไปอีกฝั่งด้วยความเคอะเขิน

ผู้หญิงคนนี้หมายความว่าอย่างไรกันแน่ ?

จู่ ๆ ก็เปิดเผยใบหน้าที่เคยปกปิดมิดชิดให้ตนได้เห็น...

นี่นางทำอะไรกันอย่างนั้นหรือ ?

หลี่จุ่นแอบลอบถอนหายใจ รู้สึกได้ถึงความไม่สมจริง ด้วยคิดไม่ถึงว่าจักรพรรดินีหญิงจะไม่ได้ลงมือลงไม้กับตัวเอง

แต่เมื่อมาคิดดูก็นับว่าถูกต้องแล้ว เหมือนว่านางจะใจกว้างกับตนเองมาโดยตลอด ท่าทีก็ไม่เคยขาดคำว่าเคารพไปเลยแม้แต่น้อย

ดั่งสิ่งที่นางแสดงออกมา... ว่าปฏิบัติตนต่อผู้อื่นเช่นนี้

บรรยากาศภายในห้องเงียบงันไปในชั่วครู่จนเกิดความกระอักกระอ่วนขึ้นมาเล็กน้อย

“คือว่า...”

หลี่จุ่นเอ่ยปากด้วยหวังว่าจะแก้ไขสถานการณ์อันกระอักกระอ่วนนี้ เมื่อคิดดูแล้วก็เอ่ยขึ้น

“ฝ่าบาททรงวางใจเถิด... บัดนี้ฝ่าบาทต้องการหม่อมฉัน หม่อมฉันย่อมไม่มีทางไปจากฝ่าบาทแน่นอน”

แน่นอนว่าจะไปง่าย ๆ เช่นนี้ไม่ได้อยู่แล้ว ถ้าเกิดว่าภายภาคหน้าทัพใหญ่ของแคว้นหนานนี้จะกลายเป็นของเขาเสียเล่า ?

ขืนไปเสียตั้งแต่ตอนนี้ไม่เท่ากับว่าเขาเสียขาดทุนมากหรือ ?

ถึงอย่างไรก็ไม่มีทางไปแน่นอน !

เมื่อจักรพรรดินีหญิงได้ยินดังนั้น แววตาก็เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มปริ่มสุข

“ท่านพูดจริง ๆ หรือ ?”

ไม่เพียงแต่น้ำเสียงของหญิงสาวที่อ่อนโยน แต่แววตายังเป็นประกายอีกด้วย

“ใช่... ใช่สิพ่ะย่ะค่ะ... ข้าย่อมต้องพูดจริงอยู่แล้ว” หลี่จุ่นพยักหน้ารับทันที

คราวนี้จักรพรรดินีหญิงจึงค่อยโล่งใจได้เปลาะหนึ่ง สีหน้าของนางเห็นได้ชัดถึงความโล่งใจ ก่อนจะเอ่ยถามอีกฝ่าย

“แต่ท่านจะไม่โทษข้าหรือ ? ข้ายังไม่ยอมฟังคำแนะนำท่านด้วยซ้ำ ในสถานการณ์เช่นนี้... ทำให้ท่านต้องลำบากใจเช่นนี้อีก”

จะโทษได้อย่างไรเล่า ?

ในเมื่อไม่มีทางที่จะโทษได้เลยนี่นา !

หรือจะให้ข้าจับท่านกดลงบนพื้น จากนั้นก็ลงโทษท่านสักคราหรือ ?

คืนนี้จะระเบิดเมือง !

หากว่าจางเป่ยยอมแพ้และยอมขึ้นกับทัพแคว้นหนานเสียก่อน เช่นนั้นทุกอย่างก็คุยกันได้ ศึกการระเบิดเมืองครั้งนี้ก็ย่อมไม่มีทางเกิดขึ้น

แต่ถ้าหากจางเป่ยต้องการสู้ เช่นนั้นเขาก็จะสู้ !

แต่ถ้าจางเป่ยผูกมัดชาวบ้านไว้กับตัวเอง ไม่ยอมให้พวกเขาออกจากเมือง เช่นนั้นหลี่จุ่นเองก็ไร้ซึ่งทางเลือก ทำได้แค่หยุดศึกการบุกเมืองขั้นสุดท้ายและถอยทัพกลับแต่เพียงเท่านี้

การบุกโจมตีเมืองโดยไม่สนใจความปลอดภัยของชาวบ้านนั้น แม้พูดง่ายแต่เมื่อจะทำขึ้นมาจริง ๆ ก็ถือว่าเป็นเรื่องยากในใจของหลี่จุ่นอยู่มาก

ถึงอย่างไรเขาก็มาจากสังคมที่สงบสุขในยุคหลัง แม้จะเคยผ่านสงครามชายแดนเหนือมาก่อน แต่ภายในใจก็ยังคงต่อต้านการรบราฆ่าฟันอยู่ดี ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการสังหารชาวบ้านที่อยู่ในเมืองนี้

ตอนที่หลี่จุ่นมานั้นไม่ได้พกสิ่งใดมาด้วย จึงไม่จำเป็นต้องเตียมตัวแต่อย่างใด เพียงแต่ปล่อยให้นกพิราบบินออกไป จากนั้นก็ทิ้งข้อความลับให้แก่คนของสมาคมเทียนตี้ พร้อมทั้งเรียกให้เซียวเจิ้นตามจักรพรรดินีออกมาด้วย

หลังพระอาทิตย์ตกดิน

จักรพรรดินีหญิงเขียนจดหมายขึ้น แล้วให้คนนำไปส่งที่หน้าประตูเมืองเหยียนโจว

จากนั้นก็ออกคำสั่งให้ทั้งกองทัพเตรียมพร้อมสำหรับการรบ !

นำเครื่องโยนหอนทั้งหมดมาตั้งเรียงแถวกันอยู่ด้านนอกเมือง

เหล่าทหารแต่ละทัพต่างก็พากันเคลื่อนย้ายก้อนหิน รวมถึงไหสุราที่บรรจุน้ำมันตุงเอาไว้

ของพวกนี้ล้วนแต่เตรียมพร้อมไว้นานแล้ว เพราะก่อนจะมาก็ได้เตรียมการไว้แล้วว่าจะบุกโจมตีเมืองเหยียนโจว !

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน