องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 1122

เฟิงอู่หังยึดเมืองอวี๋เจียงมาได้สำเร็จแล้ว มิหนำซ้ำยังทำลายทัพศัตรูไปเล็กน้อยด้วย ชิงเสบียงอาหารและหญ้าใช้เลี้ยงม้าที่สะสมเอาไว้มาจากมือพวกเขา นับว่าเป็นจำนวนไม่น้อยเลยทีเดียว

และมีส่วนหนึ่งถูกส่งมาแล้ว

นอกจากนี้

นาข้าวที่อยู่ใกล้กับเมืองอวี๋เจียง ก็ถึงฤดูกาลเก็บเกี่ยวแล้ว ขอแค่เก็บเกี่ยวเสบียงอาหารส่วนนี้มาด้วย เช่นนั้นแล้วตอนนี้ปัญหาเสบียงอาหารและหญ้าที่ใช้เลี้ยงม้าของทัพแคว้นหนานก็ได้รับการแก้ไขแล้ว

ไม่เพียงเท่านี้ ทางแคว้นหนานเองก็มีเสบียงอาหารและหญ้าที่ใช้เลี้ยงม้าสำรองอยู่เช่นกัน ฉะนั้นทัพแคว้นหนานนับว่าไร้ซึ่งความกังวลคอยกวนใจแล้ว

นอกเมืองเหยียนโจว

ฐานที่มั่นของทัพใหญ่

ทว่าหลี่จุ่นกับจักรพรรดินียังอยู่ที่นี่ไม่ได้ถอยกลับไป เมืองเหยียนโจวนี้นับว่าเป็นจุดสำคัญสุด ๆ หากพวกเขายังคิดถอยทัพกลับไปยังจวนชายแดนตะวันตก เช่นนั้นตอนนี้ยิ่งคืนให้ทัพศัตรูไปไม่ได้เป็นอันขนาด

“ทางท่านแม่ทัพเฒ่านับว่าสงบแล้ว ตอนนี้ยังไม่มีเหตุการณ์ไม่คาดคิดใด ๆ เกิดขึ้น”

ภายในกระโจมกลางกองทัพ จักรพรรดินีและหลี่จุ่นนั่งอยู่บนพื้น กำลังศึกษาแผนที่เดินทัพกันอยู่ จักรพรรดินีมองหลี่จุ่นทีหนึ่ง จากนั้นก็เอ่ยปากขึ้นว่า

นับตั้งแต่สารภาพความในใจตอนอยู่ภายในเมือง หลี่จุ่นก็รู้สึกสนิทสนมกับจักรพรรดินีมากขึ้น

ก่อนหน้านี้เวลาที่จักรพรรดินีอยู่ต่อหน้าเขาจะเรียกแทนตัวเองว่าจักรพรรดิอย่างข้า ทว่าตอนนี้กลับไม่ได้เรียกแบบนั้นแล้ว นางเรียกแทนตัวเองว่าข้า

กระทั่งตอนที่คนนอกไม่อยู่ ก็ไม่เรียกเขาว่ากุนซืออีก มิหนำซ้ำยังปลดผ้าคลุมหน้าของตัวเองออกอีกด้วย เผยใบหน้าที่แท้จริงต่อหน้าเขา

นี่ทำให้หลี่จุ่นไม่ชินอยู่นิดหน่อย ถึงอย่างไรใบหน้าของจักรพรรดินีนั้น ก็ช่างมีเสน่ห์เย้ายวนใจมากจริง ๆ...

แต่ทว่าก็ค่อย ๆ ชินไปอย่างช้า ๆ

เพียงแต่จู่ ๆ ท่าทีที่จักรพรรดินีมีต่อเขาก็เปลี่ยนไป ทำเอาเขาคิดยังไงก็ไม่เข้าใจสักที

แต่ว่าท้ายที่สุดจะว่าไปแล้วก็ถือว่าเป็นเรื่องดี

ถึงอย่างไรการชื่นชมความงามก็เป็นเรื่องปกติของมนุษย์ การชื่นชมสาวงามนั้นก็เป็นกมลสันดานของผู้ชาย

“อืม ขอแค่ทางท่านจอมทัพนั่นไม่มีปัญหา เช่นนั้นพวกเราก็ถือได้ว่าหมดห่วงแล้ว”

หลี่จุ่นพยักหน้า

มองแผนที่เดินทัพไปพลาง ท้ายที่สุดแล้วก็เสียดายอยู่นิดหน่อย ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า

“ช่างน่าเสียดายทัพเหยียนโจวนี้จริง ๆ จางเป่ยผู้นี้ไม่อยากสู้กับเรา เพราะหากต่อสู้กันขึ้นมา ไม่แน่ว่าตอนนี้ทัพใหญ่ทัพนี้อาจจะตกเป็นของเราไปแล้ว ตอนนี้ก็เหมือนกับเนื้อมันชิ้นหนึ่งจ่ออยู่ที่ปาก ทว่าทำได้เพียงแค่มองแต่กินลงไปไม่ได้ ช่างน่าเสียดายจริง ๆ”

นัยน์ตาของจักรพรรดินีดูไม่เป็นธรรมชาติอยู่นิดหน่อย มีสีหน้าละอายใจ

“เป็นไปได้มาก ดูท่าแล้วก่อนหน้านี้จางเป่ยคงขอความช่วยเหลือจากเจิ้นเป่ยอ๋องไป ฉะนั้นตอนนี้ทัพใหญ่ของเจิ้นเป่ยอ๋องมาถึงแล้ว แต่ว่า...”

“แต่ว่าอะไรหรือ?” จักรพรรดินีรีบเอ่ยถามขึ้น

หลี่จุ่นมองแผนที่เดินทัพ พลางศึกษาระยะทางตั้งแต่เมืองเหยียนโจวไปถึงอำเภอผิงอันอย่างละเอียด ในตอนนี้ถึงค่อย ๆ เอ่ยขึ้นว่า

“ดูจากจังหวะเวลาที่ทัพใหญ่ของเจิ้นเป่ยอ๋องมาถึงในตอนนี้ ตามเหตุผลแล้วจางเป่ยน่าจะขอความช่วยเหลือจากเจิ้นเป่ยอ๋องไปเมื่อสามวันก่อน...หากเจิ้นเป่ยอ๋องรีบมาหลังจากได้รับการขอความช่วยเหลือของจางเป่ยละก็”

แต่ว่าสามวันก่อน...

จางเป่ยถอยออกจากเมืองพอดี แล้วเรียกเจิ้นเป่ยอ๋องมาในเวลานี้ทำไมกัน?

น่าจะเพราะอยากให้ทัพใหญ่ของตัวเองเข้าไปในเมืองเหยียนโจวก่อน จากนั้นค่อยจับเต่าในไหรวมกับเจิ้นเป่ยอ๋อง แต่ว่าแผนนี้มันใช้ไม่ได้ผลแล้ว จางเป่ยไม่มีทางยังคิดเพ้อฝันกับแผนนี้

ในเมื่อใช้ไม่ได้ผล แม้ว่าทัพใหญ่ของเจิ้นเป่ยอ๋องจะออกเดินทางมาแล้ว ระหว่างทางก็น่าจะได้รับข่าวของจางเป่ยแล้วสิ!

นับว่าได้สูญเสียเมืองเหยียนโจวไปแล้ว เช่นนั้นการที่เจิ้นเป่ยอ๋องมาในเวลานี้ ก็ไม่ได้มีผลอะไรมากมายนัก

แต่เขาก็ยังมา...

นี่เพราะอะไรกัน?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน