องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 1126

ผ่านไปสักพัก

หลี่จุ่นถึงออกจากหอหรูอี้ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด

จากข้อมูลที่สมาคมเทียนตี้สืบมาได้ ดูเหมือนการแต่งงานในครั้งนี้จะถูกจัดขึ้นอย่างเร่งรีบ ไม่มีพิธีสู่ขอด้วยซ้ำ ทันทีที่มีข่าวลือแพร่ออกมาก็กลายเป็นข่าวการแต่งงานเสียแล้ว

หลี่จุ่นตระหนักถึงประเด็นนี้ทันทีเมื่อได้รับข่าว

หากเป็นการหมั้นหมาย อวี้เซียงก็ต้องพูดว่าหมั้นหมาย แต่เขากลับได้รับข่าวว่าวันนี้หวังเยียนหรันจะแต่งงานออกเรือนแล้ว

มันกะทันหันเกินไป

ต้องไม่ปกติแน่นอน

พอสมาคมเทียนตี้เริ่มสืบก็สืบเจอเรื่องแต่งงานทันที ดูเหมือนจะมีความเกี่ยวข้องกับเมืองหลวงใหม่ ถึงแม้จะไม่มีหลักฐานยืนยัน แต่ก็อาจเป็นไปได้ว่าหลี่เจิ้งเป็นคนบงการงานแต่งงานในครั้งนี้

หวังโส่วหนิงสนับสนุนหลี่เจิ้ง ส่วนชุยเหวินเคยสนับสนุนหลี่เหวินจวินมาก่อน มีจุดยืนที่ไม่แน่นอน หากแต่งงานกับตระกูลหวังในตอนนี้ ก็เท่ากับว่าลงเรือลำเดียวกันกับหวังโส่วหนิง

สองตระกูลร่วมทุกข์ร่วมสุข

เมื่อพูดถึงชุยเหวิน ตระกูลชุยที่อยู่เบื้องหลังเขาก็ถือว่าไม่ธรรมดา ตระกูลชุยเข้ารับราชการในราชสำนักมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์ก่อน ท่านปู่ของชุยเหวินยังเคยดำรงตำแหน่งราชเลขานุการของราชสำนักในสมัยราชวงศ์ก่อนด้วย

หลังจากที่ราชวงศ์หลี่เข้ายึดครองราชบัลลังก์ ตระกูลชุยไม่ได้ล้มสลายไปพร้อมกับราชวงศ์ก่อน แต่กลับเลือกสวามิภักดิ์ต่อราชวงศ์หลี่

โดยพื้นฐานแล้ว แทบจะไม่ได้รับผลกระทบอะไรเลย

อิทธิพลของตระกูลชุยนั้นหยั่งรากลึก คนในตระกูลเข้ารับราชการเป็นจำนวนมาก มีส่วนร่วมในการค้าขายต่างๆ มากมาย... ถือเป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง

ตระกูลที่ยิ่งใหญ่เช่นนี้ เพียงแค่ฉลาดคิดฉลาดทำ ถึงแม้ราชวงศ์จะผลัดเปลี่ยนไปก็ไม่มีทางล้มสลายได้

แม้ว่าราชวงศ์หนึ่งจะล้มสลายก็ไม่เป็นไร

พวกเขายังสามารถเป็นขุนนางในราชวงศ์ใหม่ต่อไปได้ และยังคงรุ่งเรืองเช่นเดิม กระนั้นเมื่อก่อนพวกเขาจึงสนับสนุนหลี่เหวินจวิน

หลี่เหวินจวินผู้ที่ไม่มีผลประโยชน์หรือขัดแย้งในราชสำนักมากนัก

ดูสิ ตระกูลชุยนี้... ช่างฉลาดหลักแหลมเสียจริง

ก่อนหน้านี้ตระกูลชุยวางตัวเป็นกลาง แต่ด้วยอำนาจเบื้องหลังตระกูลชุยหลี่เจิ้งจึงอิจฉาตาร้อนเป็นธรรมดา กระนั้นจึงเป็นไปได้มากว่าหลี่เจิ้งเป็นคนยักใยอยู่เบื้องหลังการแต่งงานระหว่างตระกูลหวังและตระกูลชุยในครั้งนี้

การผูกมัดกับตระกูลหวังก็เหมือนผูกมัดกับตัวหลี่เจิ้งเอง ซึ่งจะทำให้หลี่เจิ้งได้รับการสนับสนุนจากตระกูลชุยมากยิ่งขึ้น ความมั่งคงในราชบัลลังก์ก็จะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นไปอีก

ถึงแม้จะไม่ได้รับการสนับสนุนจากตระกูลชุย แต่ก็ถือว่าอยู่ฝ่ายเดียวกันอยู่ดี

เมื่อถึงเวลา ไม่ว่าหลี่เจิ้งจะต้องการสนับสนุนองค์ชายองค์ใด ตระกูลชุยก็จะเป็นแรงหนุนสำคัญ โอกาสที่องค์ชายผู้นั้นจะได้ขึ้นครองบัลลังก์ก็จะสูงมาก

เช่นนั้นแล้ว แม้ว่าเฟิงอู่หังจะชั่วร้ายเพียงใดก็ไม่อาจฉีกหน้าคนที่มาด้วยความเป็นมิตร ยิ่งไปกว่านั้น นี่ยังเป็นวันมงคลของพวกเขายิ่งไม่ควรสร้างความวุ่นวาย

อัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายคิดแผนนี้ไว้แล้ว

หลี่จุ่นรู้ทันหมดแล้ว

ในเมื่อส่งบัตรเชิญมาแล้ว แล้วจะไม่ไปได้อย่างไร

หลี่จุ่นต้องการให้เฟิงอู่หังไปเพื่อยั่วยุอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้าย

“เจ้าหนุ่ม ข้าจะไปทำกระไร ข้าไม่รู้จักผู้ใดเลย จะไปทำห่าเหวกระไร” เฟิงอู่หังขมวดคิ้วพร้อมส่ายหน้า

หลี่จุ่นมองเฟิงอู่หังพลางพูดว่า

“ท่านอาวุโส พูดตามตรง... หวังเยียนหรันลูกสาวของอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายคือผู้หญิงของข้า ฉะนั้นจึงต้องให้ท่านอาวุโสไปคุม ข้าจะชิงผู้หญิงของข้าคืน”

“...”

เฟิงอู่หังมองหลี่จุ่นด้วยความตกตะลึง

ถึงกับอึ้งไปเลย