บรรยายในงานเงียบสงัดในทันใด
แขกเหรื่อที่อยู่ในงานต่างตกตะลึง และมองหลี่จุ่นที่สวมหมวกสานด้วยความประหลาดใจ
หวังโส่วหนิงและชุยเหวินก็ขมวดคิ้วในทันทีทันใด
ชุยอวี้ย่อมมีสีหน้าไม่พอใจเป็นธรรมดา แต่ด้วยศักดิ์ศรีและความสุขุม แม้จะถูกยั่วยุเช่นนี้ แต่ก็ไม่เสียมารยาทแม้แต่น้อย
“ไม่ทราบว่าคุณชายเฟิง... หมายความว่ากระไร” ชุยอวี้ถามพร้อมประสานหมัด
หลี่จุ่นหัวเราะอย่างร่าเริง แล้วหันหน้าไปทางหวังเยียนหรัน และพูดว่า
“ข้าได้ยินมานานว่าคุณหนูหวังเยียนหรันงดงามหยาดฟ้ามาดิน เป็นหญิงสาวที่เชี่ยวชาญด้านการค้าขาย และเปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์อันล้ำเลิศ”
ทันใดนั้นหวังเยียนหรันพลันก้าวถอยหลังเล็กน้อย และท่าทางดูเขินอายเล็กน้อย
เมื่อสิ้นเสียงนั้น
หวังโส่วหนิงและภรรยาก็พึงพอใจอย่างมาก
พูดถูก ลูกสาวสุดที่รักของพวกเขายอดเยี่ยมดังว่าจริงๆ
ไม่คาดคิดเลยว่าลูกชายของเฟิงอู่หังจะรู้จักลูกสาวของตนดีเช่นนี้ เป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจยิ่งนัก
ชุยอวี้ได้ฟังแล้วก็อ้าปากค้าง ชำเลืองมองหวังเยียนหรันแวบหนึ่ง จากนั้นพยักหน้าเห็นด้วยโดยไม่รอช้า
หลี่จุ่นมองชุยอวี้ด้วยรอยยิ้มจางๆ และพูดว่า
“เช่นนั้นคุณชายชุยคิดว่าคนประเภทไหนที่จะคู่ควรและเหมาะสมกับคุณหนูหวังเยียนหรัน คุณชายชุยคิดว่าคุณชายชุยมีคุณสมบัตินี้หรือไม่”
“นี่...”
ทันใดนั้นชุยอวี้ก็หน้าแดงขึ้นมาทันที และพูดไม่ออก
หากจะยืนกรานว่าเหมาะสมกันก็คงเป็นครอบครัววงศ์ตระกูลที่เหมาะสมกัน
อย่างไรเสียตระกูลชุยก็เป็นตระกูลที่ยิ่งใหญ่ รับราชการมายาวนานติดต่อกันสองราชวงศ์ มีพื้นเพครอบครัวที่มั่งคั่งร่ำรวย ไม่ใช่อัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายคนใดคนหนึ่งจะเทียบได้
ขนาดมีกินมีใช้เหลือเฟือ
แต่คนเรา...
จริงๆ แล้วก็ดู... ฝืนเกินไป
นี่เป็นเรื่องที่ทุกคนรู้ดี ใครๆ ก็รู้ว่ามีเพียงชายไม่กี่คนบนโลกนี้ที่เหมาะสมและคู่ควรกับหวังเยียนหรัน
แน่นอนว่าชุยอวี้ไม่ได้รวมอยู่ในนั้น
แต่เรื่องพรรณนี้... ขนาดตระกูลหวังเขายังไม่สนใจ แล้วพวกเขายุ่งอะไรด้วย
จริงอยู่ที่พวกเขาไม่ได้ยุ่ง แต่ตอนนี้จู่ๆ ก็มีเด็กหนุ่มคนหนึ่งพูดเช่นนี้ต่อหน้าทุกคน
แล้วจะทำอย่างไรได้บ้างล่ะ
“แต่ท่านพ่อ... คุณหนูหวังเยียนหรัน... ควรจะได้แต่งงานกับคนที่คู่ควรกับนางนะ...”
เฟิงอู่หังโกรธจัดจนเกือบกระโดดขึ้น จ้องหลี่จุ่นพลางตวาดว่า
“นางจะแต่งงานกับใคร คู่ควรกับคนประเภทไหนแล้วเกี่ยวอันใดกับเจ้า อย่ามาสร้างความวุ่นวายที่นี่”
พูดจบเขาก็ลุกพรวดขึ้น รีบประสานหมัดแสดงความขอโทษต่อพวกเขาสองคน และพูดว่า
“ขออภัยท่านทั้งสอง ข้าสั่งสอนลูกไม่ดีเอง ข้าจะพาเขากลับเดี๋ยวนี้ ข้าจะมาขอโทษอีกครั้งในวันหน้า”
แย่แล้ว อย่าเพิ่งกลับสิ
หลี่จุ่นเห็นเฟิงอู่หังแสดงเกินพอดีก็รู้สึกกลัวเล็กน้อย รีบพูดว่า
“แต่ท่านพ่อ ลูกกับจิ่งอ๋องเป็นสหายร่วมทุกข์ร่วมสุขกัน จิ่งอ๋องมีพรสวรรค์ด้านกลอนกวีเป็นเลิศ อีกทั้งรูปโฉมงดงาม เขาต่างหากที่เหมาะสมและคู่ควรกับคุณหนูหวังเยียนหรัน”
เมื่อสิ้นเสียงนี้
สีหน้าของทุกคนก็เปลี่ยนไปทันที
แม้แต่หวังเยียนหรันก็ตัวสั่นเล็กน้อย แทบยืนไม่มั่น
ส่วนสีหน้าของชุยอวี้ดูไม่ดีมาก
เฟิงอู่หังพูดแขวะในใจว่า... เจ้าเด็กนี่ช่างรู้จักพูดดีใส่ตัวจริงๆ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
ปลดล็อคแล้วอ่านไม่ได้...
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...