องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 1136

สงครามนี้... กินเวลาเนิ่นนาน

การสู้รบในแต่ละครั้ง ก็ยิ่งลงมือรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ

รอจนเมื่อสงครามสงบลง... หวังเยียนหรันก็เหนื่อยจนไร้ซึ่งเรื่อยแรง หญิงสาวหอบเหนื่อย ซุกอยู่บนอกของหลี่จุ่น

สีหน้าที่อ่อนล้า แต่ก็เต็มไปด้วยความพึงพอใจ

ใบหน้าที่แดงก่ำไปจนทั่ว ชวนให้ดูทั้งน่ารักและงดงามในคราเดียวกัน

หลี่จุ่นลูบผมของหญิงสาวอย่างเบามือ สีหน้าดูเหม่อลอยราวกับอยู่ในห้วงฝัน

คราวก่อนตอนเจอเด็กสาวผู้นี้ นางยังคงมีความเป็นเด็กอยู่บ้าง แต่เมื่อได้พบกันวันนี้ กลับกลายเป็นสาวงามที่รูปร่างหน้าตางดงามยิ่งนัก

สัดส่วนโค้งเว้าตามที่ควรเป็นไปเสียทุกสัดส่วน

ตำแหน่งที่ใหญ่หรือเพรียวก็เป็นไปตามเหมาะสม

โดยเฉพาะความงดงามบนเตียงนี้ งดงามจนไม่อาจเอ่ยคำใดได้

ขณะที่หลี่จุ่นครุ่นคิดเรื่องเหล่านี้อยู่ในใจ หวังเยียนหรันก็หันกลับมาด้วยรอยยิ้มอันซุกซน นางขยับเข้ามาใกล้แล้วขบกัดริมฝีปากของหลี่จุ่นไว้เพื่อจุมพิต

เป็นการแสดงออกซึ่งความร้อนแรง ซึ่งความรักของนาง

เมื่อถอนริมฝีปากออก ดวงตาสองคู่ก็สอดประสานกัน

หวังเยียนหรันเลียปากของตนด้วยสีหน้าอิ่มสุข เอนกายอยู่ในอ้อมกอดของชายหนุ่มด้ยวยความสุข ก่อนจะเอ่ยถามด้วยเสียงอ่อนหวาน

“หลี่หลาง...นี่มันเกิดเรื่องอันใดขึ้นกันแน่ เหตุใดข้าจึงได้ยินท่านพ่อบอกว่าก่อนนี้เจ้าถูกลอบสังหาร... หรือท่านพ่อหลอกข้า ?”

หลี่จุ่นใช้มือลูบบั้นท้ายของหญิงสาว รู้สึกได้ถึงสัมผัสที่พึงพอใจ หวังเยียนหรันถึงกับครางออกมาเบา ๆ เสียงนั้นมีชวนให้หลงใหลยิ่งนัก

“เปล่า พ่อเจ้ามิได้หลอกเจ้า ก่อนนี้ข้าถูกลอบสังหารจริง... แต่ข้าเป็นคนจัดแจงขึ้นมาเอง”

หวังเยียนหรันฟังแล้วถึงกับตะลึงงัน หญิงสาวมองคนรักด้วยอาการนิ่งอึ้ง แม้แต่สีหน้าก็เต็มไปด้วยความตื่นตกใจทั้งยังเปี่ยมไปด้วยความหวาดกลัวและความกังวล

หลี่จุ่นเห็นเช่นนั้นก็ยิ้มรับ ใช้มือลูกบั้นท้ายของหญิงสาวอย่างเบามือ อีกมือหนึ่งก็หยิกสันจมูกของหญิงสาไว้ ก่อนจะเล่าเรื่องของตัวเองอย่างคร่าว ๆ ให้อีกฝ่ายฟัง

หวังเยียนหรันฟังแล้วก็ถึงกับหลั่งน้ำตา นึกสงสารจนจับใจ เมื่อได้ยินว่าแผลนั้นอยู่บนหน้าอกของอีกฝ่าย นางก็ยื่นมือไปลูบคลำมันทันที ไม่นานก็ลูบเจอรอยแผลเป็นนั้นเข้า

แม้แผลจะหายจนสนิทแล้ว แต่รอยแผลยังคงอยู่

“เจ็บหรือไม่ ?”

หญิงสาวลูกรอยแผลบนหน้าอกของหลี่จุ่นไปมา น้ำตารินไหลลงมา แม้แต่เสียงยังสะอื้นไห้

หลี่จุ่นส่ายหน้า ใช้มือประคองหน้าหญิงสาวเอาไว้แล้วจุมพิตเบา ๆ เพื่อปลอบประโลม

เป็นเวลาเนิ่นนานกว่าหวังเยียนหรันจะหยุดร้องไห้ หญิงสาวกอดคนรักไว้จนแน่น ราวกับกลัวว่าเขาจะเลือนหายไปกะทันหัน

ในใจของหวังเยียนหรันนึกต่อต้านขึ้นมา ความขัดแย้งขั้นสุดก่อเกิดขึ้นในใจของหญิงสาว

แต่สุดท้ายนางก็ทอดถอนใจแล้วเอ่ยขึ้นด้วยเสียงอ่อนโยน

“หลี่หลาง... เจ้า เจ้ารีบไปดูพี่เฟยเอ๋อร์เถิด นางรอเจ้าเสียจน... ทุกข์ทรมานเหลือเกิน...”

หลี่จุ่นสั่นไปทั้งตัว เมื่อมองดูคนในอ้อมกอด สายตาก็พลันแปรเปลี่ยน เปี่ยมไปหลากอารมณ์

เขาเงียบไปอยู่ครู่หนึ่งด้วยเกิดความซาบซึ้งขึ้นในใจ ก่อนจะค่อย ๆ เอ่ยขึ้นมาช้า ๆ

“ข้าผิดต่อเจ้ากับเฟยเอ๋อร์เอง ข้า...”

เขาอยากจะเอ่ยคำว่าขอโทษ ทว่าหญิงสาวกลับใช้มือของนางมาปิดปากคนรักไว้ในทันที ก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงอ่อนโยน

“อย่าพูดเช่นนี้เลย... ข้ากับพี่เฟยเอ๋อร์ยินยอมรอเจ้าด้วยหัวใจ”

ยินยอมด้วยใจหรือ ?

หลี่จุ่นหรี่ตามองพลางใช้มือของเขาจับบั้นท้ายของหญิงสาว เอ่ยถามด้วยเสียงหัวเราะในลำคอ

“แล้วเช่นนั้นเหตุใดเจ้าจึงแต่งงานกับผู้อื่นเล่า ?”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หวังเยียนหรันก็ถึงกับหน้าแดงก่ำ รีบอธิบายความเป็นมาด้วยความลนลานขึ้นมาทันที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน