ยามเมื่อหลี่จุ่นเดินออกจากห้อง ฟ้าก็มืดแล้ว
เขาเรียกหาลูกจ้างมาไถ่ถามจนรู้ว่าอวี้เซียงกลับมาแล้ว
จากนั้นก็ให้อวี้เซียงมาหาเขา
หวังเยียนหรันยังคงนอนหลับสนิท หญิงสาวหมดซึ่งเรี่ยวแรง ถึงอย่างไรนี่ก็เป็นครั้งแรกของนาง ยังไม่คุ้นเคยดี อีกทั้งความแข็งแกร่งทางร่างกายก็ไม่มากพอ
หลี่จุ่นนัดเจอกับอวี้เซียงในห้องข้าง ๆ
“คารวะท่านหัวหน้า !”
อวี้เซียงซึ่งสวมชุดคลุมยาวสีม่วงโค้งคำนับเมื่อเข้าพบหลี่จุ่น
หลี่จุ่นพยักหน้ารับแล้วจึงเอ่ยถามขึ้น
“ตระกูลหวังและตระกูลชุยมีท่าทีอย่างไรบ้าง ?”
“เรียนท่านหัวหน้า... อัครมหาเสนาบดีหวังและชุยเหวินทะเลาะกันที่เรือนตระกูลซุย จากนั้นอัครมหาเสนาบดีหวังและฮูหยินหวังก็ออกจากตระกูลซุยด้วยความโกรธ ตอนนี้ได้กลับไปที่จวนอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายหวังแล้ว”
นางแอบมองดูสีหน้าของผู้เป็นหัวหน้า พลันเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตอนที่นางกลับมาตอนแรกก็รีบมาหาเขาทันที แต่กลับได้ยินเพียงเสียงที่อันอ่อนโยนจากภายในห้องเท่านั้น ใบหน้าของหญิงสาวก็หน้าแดงระเรื่อขึ้นมา
คราวนี้นางก้มหัวลงต่ำกว่าเดิม
หลี่จุ่นยืนเอามือไพล่หลัง ขมวดคิ้วนั้น ก่อนจะคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยขึ้นช้า ๆ
“รีบส่งคนไปตรวจสอบที่ตระกูลชุยอีกที ตระกูลชุยต้องไม่ยอมปล่อยเรื่องนี้ไปง่าย ๆ อย่างแน่นอน !”
ดวงตาของหลี่จุ่นก็เริ่มฉายแววเย็นชาขึ้นเล็กน้อยในยามที่เขาพูด
หากตระกูลชุยไม่รู้จักประมาณตัว เช่นนั้นก็อย่าโทษเขาที่เลือกลงมือโดยไม่สนใจใคร !
ตระกูลใหญ่ที่แม้แต่หลี่เจิ้งก็ต้องการครอบครอง ถึงจะน่าเสียดายไปบ้างที่ต้องมาถูกทำลายไปเช่นนี้ แต่ถ้าหากยืนกรานที่จะพัวพันกับเรื่องนี้ต่อไป เช่นนั้นก็ต้องใช้กองทัพใหญ่มาปราบปราม
กวาดล้างตระกูลชุยให้หมดสิ้น...จากโลกนี้ !
หลี่จุ่นเองก็ใช่ว่าจะเป็นคนที่ไร้เหตุผล อีกฝ่ายต้องการแต่งงานกับหวังเยียนหรัน ก็ใช่ว่าจะเป็นการดูหมิ่นเขา อีกฝ่ายคงไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างเขากับหวังเยียนหรันมากนัก ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าเรื่องนี้หวังโส่วหนิงเป็นผู้เห็นด้วย ดังนั้นตระกูลชุยก็ไม่ได้ทำผิดอันใด
เพราะถึงอย่างไรมันเป็นเรื่องของความตกใจปลงใจกันทั้งสองฝ่าย
แต่การที่ไม่ผิดแต่กลับหาเรื่องทำผิด... นั่นละคือหายนะ !
“เจ้าค่ะนายท่าน !“ อวี้เซียงพยักหน้ารับทันที
คราวนี้หลี่จุ่นจึงหยุดนิ่งไปชั่วครู่ก่อนจะถามขึ้น "จริงสิ ท่านหญิงจ้าวเฟยเอ๋อร์... ตอนนี้อยู่ที่ใดหรือ เหตุใดวันนี้... นางจึงไม่มาร่วมงานวิวาห์เล่า ?"
ห้องของนางยังคงจุดเทียนส่องสว่าง
หลี่จุ่นสูดหายใจเข้าลึก ๆ ทันที อีกทั้งหัวใจก็เต้นเร็วขึ้น
จ้าวเฟยเอ๋อร์เป็นถึงรักแรกของเขา... ทั้งสองคนรักกัน จ้าวเฟยเอ๋อร์หลงรักเขายิ่งนัก แต่เขากลับไม่ได้เจอนางมานานแล้ว
หวังเยียนหรันเล่าเรื่องต่าง ๆ ให้เขาฟังทีละน้อยจนหมด ผู้หญิงสองคนนี้... ทุ่มเทเพื่อตนเองมากเกินไปแล้วจริง ๆ
“เฟยเอ๋อร์...”
หลี่จุ่นมองไปที่ห้องของหวังเยียนหรันแล้วกระซิบกระซาบกับตัวเอง
เขาหายใจเข้าลึก ๆ แล้วมองไปโดยรอบ ก่อนจะก้าวไปข้างหน้าอย่างเงียบ ๆ เมื่อครุ่นคิดดูแล้วก็ยื่นมือออกไปเคาะประตูเบา ๆ
“ใครน่ะ ?”
เสียงที่อ่อนโยนและคุ้นเคยของจ้าวเฟยเอ๋อร์ดังขึ้น
เมื่อได้ยินเสียงของหญิงสาว ภายในใจของหลี่จุ่นก็เต็มไปด้วยความคิดถึง
เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วค่อยเอ่ยออกไปว่า "เฟยเอ๋อร์...ข้าเอง"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
ปลดล็อคแล้วอ่านไม่ได้...
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...