เมื่อเจ้าสาวถูกชิงตัวไปกลางงานวิวาห์ ย่อมถือเป็นการตบหน้าอย่างแรงลงบนใบหน้าของหวังโส่วหนิง
ไม่เพียงเท่านั้น แต่ยังเป็นการเหยียบย่ำตระกูลชุยอีกด้วย
ตระกูลชุยจึงโกรธเสียจนบ้าคลั่ง
หวังโส่วหนิงเองก็มีปัญหากับสหายร่วมกรมคนนี้ กระทั่งไม่อาจเจรจากันได้ หากมิใช่ว่ายังต้องทำงานในราชสำนักร่วมกัน เกรงว่าคงแตกหักกันไปตั้งแต่ในงานแล้ว
แต่ตอนนี้ก็แย่ไม่แพ้กัน
“ท่านพี่ เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้นได้อย่างไรกัน...”
หวังฮูหยินเมื่อกลับมาแล้วก็เอาแต่ร้องไห้ ร้องเพราะมิรู้ว่าลูกสาวหายตัวไปที่แห่งหนใด ไม่รู้ว่านางจะถูกรังแกหรือถูกทำร้ายหรือไม่
เพราะถึงอย่างไรนางก็ถูกลูกชายของแม่ทัพใหญ่เฟิงอู่หังลักพาตัวไป !
หัวใจของผู้เป็นแม่ย่อมเปี่ยมไปด้วยความกังวลไม่รู้สิ้น
นางร้องไห้ตลอดทั้งคืน ครั้นเมื่อถึงตอนเช้าก็เริ่มร้องไห้ต่ออีกครา
“ท่านพี่ ท่านรีบไปดูหน่อยเถิด ไปขอร้องท่านแม่ทัพ ไปขอร้องแม่ทัพเฟิงอู่หังให้ปล่อยตัวเยียนเอ๋อร์ไป... เยียนเอ๋อร์ลูกรักของข้า ... "
หวังฮูหยินร้องไห้จนดวงตาบวมแดง ราวกับใจจะขาด
หวังโส่วหนิงรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมา เขาเอาแต่เดินไปเดินมาอยู่ในโถงรับแขก
ไฟกำลังลุกโชนอยู่ในใจเขา
ซ้ำฮูหยินของตนยังพูดไม่หยุด พูดจนเขาแทบจะคลั่ง แต่สุดท้ายก็ไม่กล้าระเบิดอารมณ์ใส่นางอยู่ดี
บุรุษที่อารมณ์เสียกับฮูหยินของตน จะเรียกว่าบุรุษได้หรือ ?
หวังโส่วหนิงอาจจะอารมณ์เสียกับคนอื่นได้ แม้แต่กับฝ่าบาทเองก็เช่นกัน แต่เขาไม่สามารถอารมณ์เสียกับฮูหยินของตนเองได้
เขาทำเช่นนี้มาตั้งแต่ที่เขาแต่งงานกับฮูหยิน และไม่เคยแสดงสีหน้าอันใดต่อฮูหยินของตนเลย
ไม่ว่าเขาในตอนนี้จะหงุดหงิดสักเพียงใด ก็มิได้แสดงอารมณ์ร้ายกับฮูหยินเลยแม้แต่น้อย
ทว่า หวังโส่วหนิงเองก็ไม่อาจทนฟังได้อีกต่อไป จึงพูดขึ้น
“ฮูหยิน ฮูหยินที่รักของข้า... เจ้าอย่าร้องไห้ไปเลย ลูกสาวเราจะต้องไม่เป็นอะไร เจ้าวางใจเถอะ !”
เมื่อหวังฮูยินได้ยินเช่นนั้นก็ร้องไห้ยิ่งกว่าเดิม ตาก็จ้องไปยังผู้เป็นสามีแล้วเอ่ยขึ้น
“ท่านพี่ ท่านจะให้ข้าวางใจได้อย่างไรกัน เยียนเอ๋อร์ของเราต้องถูกทรมานโดยที่เราไม่รู้เป็นแน่... ท่านพี่ ท่านรีบไปที่ค่ายทหารของทัพแคว้นหนานดูเถิด ขอร้องให้ท่านแม่ทัพเฟิงอู่หังเฟิงอู่หังปล่อยให้ลูกสาวของเราไป"
หวังโส่วหนิงส่ายหัวพลางขมวดคิ้วแล้วเอ่ยขึ้น
“เรื่องนี้มีข้อน่าสงสัยอยู่ แต่เมื่อวานนอกจากพฤติกรรมที่ผิดปกติของเยียนหรันแล้ว ข้ามาลองทบทวนเรื่องเสียงของคนที่อยู่เบื้องหลังนั่น ยิ่งฟังก็ยิ่งเหมือนเสียงขององค์ชายหก... "
เขาไม่ได้เข้าใกล้หลี่จุ่นมากนัก แต่ก็เคยได้ยินเสียงของชายหนุ่มมาบ้าง แม้จะไม่คุ้นเคย แต่เมื่อลองคิดดูดี ๆ แล้วเขาก็ยังพอจำได้
เพียงแต่สิ่งที่หวังโส่วหนิงสงสัยก็คือ ถ้าคนคนนั้นคือหลี่จุ่นจริง ๆ แล้วเหตุใดเขาถึงมาอยู่กับแคว้นหนานได้เล่า ?
“ท่านพี่ เช่นนั้นแล้วตอนนี้...”
“รอก่อนเถอะ เขาบอกว่าจะมาอธิบายให้เราฟังในวันนี้มิใช่หรือ ในเมื่อเป็นเช่นนี้เราก็รอก่อนเถอะ” หวังโส่วหนิงเอ่ยขึ้น
หวังฮูหยินอ้าปากค้างด้วยความลังเล สุดท้ายก็หยุดโวยวาย
ทั้งสองคนรอคอยด้วยความกระวนกระวายใจ
ในที่สุดก็ใกล้จะถึงเวลาเที่ยงวันแล้ว
เสียงที่ดังชัดเจนเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากบนหลังคา
"ท่านแม่ ท่านพ่อ !"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
ปลดล็อคแล้วอ่านไม่ได้...
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...