องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 1141

เมื่อได้ยินเสียงนี้ ทั้งสองก็มองไปรอบ ๆ ทันที จึงได้เห็นว่าบุตรสาวของตนยืนอยู่บนชายคาของลานบ้าน

อีกทั้งข้างกายนางยังมีบุรุษหนุ่มรูปงามในชุดสีขาวยืนอยู่ด้วย

หวังโส่วหนิงจ้องมองไปยังบุรุษผู้นั้น ดวงตาหรี่ลงทันที

คนที่ข้าง ๆ บุตรสาวของตนจะเป็นใครได้หากไม่ใช่จิ่งอ๋อง ?

การคาดเดาของตนนั้นถูกเผง !

“เยียนเอ๋อร์ !”

หวังฮูหยินเห็นดังนั้นรีบวิ่งออกไปในทันที

หลี่จุ่นที่ยืนอยู่บนหลังคาก็ตระกองกอดหวังเยียนหรันไว้แล้วใช้วิชาตัวเบาเหาะลงมา

ลงสู่พื้นด้วยความมั่นคง

หวังเยียนหรันหลั่งน้ำตาทันที ก่อนจะวิ่งเข้าไปหาผู้เป็นมารดาของตน

เมื่อสองแม่ลูกพบกันอีกครา พวกนางก็กอดกันร้องไห้ในทันที

หวังโส่วหนิงเองก็เดินออกมาเช่นกัน เมื่อเขาเห็นหลี่จุ่น สีหน้าของชายชราก็ดูสับสนอยู่เล็กน้อย แต่สุดท้ายเขาก็เลือกก้าวออกไปข้างหน้าเพื่อคารวะหลี่จุ่น

“คารวะท่านอ๋อง !”

จะให้พ่อตามาคารวะตนเองเช่นนี้ได้อย่างไรกันเล่า ?

หลี่จุ่นเห็นดังนั้นก็รีบเข้าไปประคองหวังโส่วหนิงอย่างรวดเร็วและกล่าวขึ้น "อัครมหาเสนาบดีหวังเกรงใจกันเกินไปแล้ว ! ข้ารับการคารวะนี้มิได้หรอก”

หวังโส่วหนิงมองไปยังหลี่จุ่น รู้สึกอึดอัดใจอยู่ไม่น้อย

หากเป็นคนอื่นเขาอาจจะอารมณ์เสียใส่ได้ แต่คนตรงหน้าเขาคือหลี่จุ่นนี่สิ !

องค์ชายหกหลี่จุ่น !

คือจิ่งอ๋องในรัชกาลปัจจุบัน !

เขาจะไปเอาเรื่องได้อย่างไรกันเล่า !

ทำได้เพียงเก็บความทุกข์ใจนั้นไว้เงียบ ๆ เท่านั้น

“ท่านอ๋อง เชิญ”

ว่าแล้วหวังโส่วหนิงก็เชิญหลี่จุ่นเข้ามาในห้องโถงเพื่อพูดคุย

หลี่จุ่นเหลือบมองสองแม่ลูกที่กำลังกอดกันร้องไห้แล้วจึงพยักหน้ารับ ก่อนจะเดินตามหวังโส่วหนิงไปที่โถงรับแขก

หวังโส่วหนิงจงใจไม่รินชาให้แก่หลี่จุ่น เขาทำเพียงเชิญให้หลี่จุ่นนั่งลงแล้วเอ่ยถาม

“เรื่องระหว่างท่านอ๋องกับลูกสาวข้า ตอนนี้ข้าเองก็ไม่มีอะไรจะพูด แต่ข้าเกรงว่าท่านอ๋องคงต้องอธิบายให้ทางตระกูลชุยฟังด้วย”

หลี่จุ่นเผยรอยยิ้มเล็ก ๆ ทันที เขามองดูหวังเยียนหรันแลมารดาที่ลานหน้าเรือนแล้วพูดด้วยเสียงเรียบ

“หากตระกูลชุยรนหาที่ตายเอง ข้าไม่สนใจที่จะปล่อยให้ตระกูลชุยหายไปหรอกนะ อัครมหาเสนาบดีหวังไม่ต้องกังวลเรื่องนี้หรอก”

หวังโส่วหนิงได้ฟังเช่นนั้นก็นึกตกใจทันที เขาอ้าปากค้างแล้วมองดูหลี่จุ่น รู้สึกตกตะลึงอยู่ภายในใจ !

ทั้งสองฝ่ายต่างก็เงียบอยู่เป็นเวลานาน เกิดคำถามขึ้นภายในใจของหวังโส่วหนิงไม่น้อย แต่เขาก็ไม่กล้าถาม

ทว่า

สุดท้ายเขาก็อดไม่ได้ที่จะถามคำถามที่เขาอยากรู้มากที่สุด

หวังโส่วหนิงได้ฟังเช่นนั้นก็รู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง เรื่องราวเหล่านี้ทำให้เขารู้สึกตกตะลึงยิ่งนัก

คิดไม่ถึงว่าอัครมหาเสนาบดีหวังเช่นเขา ไม่ไม่สู้จี้จงชิงแต่ก็เป็นถึงอัครมหาเสนาบดี แต่ เขากลับไม่เคยได้รู้เรื่องราวสำคัญเหล่านี้เลย ทำให้เขารู้สึกสับสนยิ่งนัก

เขาอ้าปากค้างด้วยไม่รู้จะตอบหลี่จุ่นอย่างไร

ตอนนี้หลี่จุ่นกำลังเผชิญหน้าอยู่กับฝ่าบาท คู่พ่อลูกจอมปลอมคู่นี้ สุดท้ายต้องมีวันที่ยกทัพเผชิญหน้ากัน ไม่ใครก็ใครต้องตายกันไปข้าง !

ไม่ว่าตระกูลหวังจะเลือกยืนอยู่ฝั่งใด ก็ล้วนแต่เป็นปัญหาที่ตัดสินใจได้ยากนัก !

แต่เขายอมรับไม่ได้ที่หลี่จุ่นยอมเข้าสวามิภักดิ์ต่อแคว้นหนานเช่นนี้ แล้วยังพาทัพแคว้นหนานมาโจมตีราชวงศ์อู่อีก นี่ไม่ถือว่าเป็นการทรยศบ้านเมืองหรือ !

นี่เขาก็ต้องก่อกบฏไปด้วยน่ะหรือ ?

แล้วคนรุ่นหลังจะยืดอกด้วยความมั่นใจได้อย่างไรเล่า !

“อัครมหาเสนาบดีหวัง เรื่องงานวิวาห์กับตระกูลชุยก็คงจะมีหลี่เจิ้งอยู่เบื้องหลังการใช่หรือไม่ ?” หลี่จุ่นถามขึ้นด้วยเสียงเรียบ

หวังโส่วหนิงลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่สุดท้ายก็มิได้ปฏิเสธ

เมื่อเห็นเช่นนั้น หลี่จุ่นก็หัวเราะในลำคอขึ้นทันที

เป็นอย่างที่เขาคิดจริง ๆ เสียด้วย

ทว่า หลี่เจิ้งเอ๋ย ท่านคิดจะใช้หวังโส่วหนิงผูกมัดตระกูลชุย ทำให้ตระกูลชุยต้องทำงานให้กับท่าน... แต่ท่านคงคิดไม่ถึงว่าข้าจะมาขวางไว้และพาตัวหวังโส่วหนิงออกมาเลยใช่หรือไม่เล่า ?

ภายในใจของหลี่จุ่นนั้นอยากจะหัวเราะ แต่เมื่อมองไปยังหวังโส่วหนิง เขากลับพูดสิ่งที่น่าตกตะลึงออกมา !

“อัครมหาเสนาบดีหวัง ท่านรู้หรือไม่ว่าเสิ่นไท่ฟู่ถูกหลี่เจิ้งสังหาร ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน