ณ เมืองหลวงใหม่
หลี่เจิ้งเพิ่งเสร็จสิ้นราชกิจในตอนเช้า จึงให้เหล่าขุนนางออกจากท้องพระโรงไป แล้วจึงค่อยกลับไปยังห้องทรงพระอักษร
หวังเหลียนที่เดินเข้ามาจากด้านนอกได้ก้มศีรษะลงเพื่อรายงาน
“ฝ่าบาท มีข่าวจากเมืองอวี๋เจียงพ่ะย่ะค่ะ... การแต่งงานระหว่างตระกูลของอัครมหาเสนาบดีหวังและตระกูลชุยหยุดลงแล้วพ่ะย่ะค่ะ !”
"อะไรนะ ?!"
หลี่เจิ้งหรี่ตาลงมอง ฉับพลันสีหน้าของเขาก็เย็นชาขึ้น “ใครกันที่กล้าเข้ามายุ่มย่าม ?”
หวังเหลียนจึงเอ่ยขึ้นทันที "จากข่าวที่แจ้งมา กระหม่อมได้ยินมาว่าเขาเป็นบุตรชายของแม่ทัพเฟิงอู่หังแห่งแคว้นหนานพ่ะย่ะค่ะ"
“บุตรชายของเฟิงอู่หังหรือ ?”
หลี่เจิ้งได้ยินเช่นนั้นก็โกรธขึ้นทันที “เฟิงอู่หังมีลูกชายเสียที่ไหนกันเล่า !”
จากข้อมูลที่ได้รับมา เฟิงอู่หังไม่เคยแต่งงาน ไม่เคยเปิดตัวบุตรมาก่อน
หวังเหลียนส่ายหัว เขาครุ่นคิดครู่หนึ่งแล้วเอ่ยตอบ "ไม่แน่ว่าอาจเป็นลูกนอกสมรสก็ได้พ่ะย่ะค่ะ ... "
สีหน้าของหลี่เจิ้งดูไม่รับบุญนัก ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งโกรธ จึงร้องตะโกนขึ้น
“เฟิงอู่หังตัวดี เพิ่งยึดเมืองอวี๋เจียงข้าไป ตอนนี้ยังมายุ่งกับแผนของข้า ทำเช่นนี้ได้อย่างไรกัน !”
แต่ถึงจะโกรธเช่นไร หลี่เจิ้งก็ไม่อาจทำสิ่งใดได้ในตอนนี้
เพราะตอนนี้เมืองอวี๋เจียงมีกองกำลังแสนนาย และเฟิงอู่หังกำลังปกป้องเมือง ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะสร้างความขัดแย้งกับเขา
ตอนนี้ฮ่องเต้อย่างเขาทำได้เพียงยอมจำทนเท่านั้น
“หากการแต่งงานล้มเหลว เช่นนั้นตระกูลชุยคงไม่อาจทำงานให้ข้าได้เต็มที่ อิทธิพลของตระกูลชุยในราชสำนักนั้นไม่อาจมองข้ามได้ ขุนนางบางคนในราชวงศ์อู่เราร่วมมือกับตระกูลชุย และต้องการ คิดจะทำอย่างตระกูลชุย น่ารังเกียจที่สุด !”
หลี่เจิ้งต้องการทำลายตระกูลชุย แต่ในตอนนี้เขายังไม่สามารถหาเหตุผลที่ดีได้ เนื่องด้วยตระกูลชุยมีความภักดีต่อราชวงศ์อู่ยิ่งนัก เพียงแค่บางครั้งพวกเขาก็ไม่ได้พยายามทำงานอย่างสุดความสามารถก็เท่านั้น
อีกทั้ง หากทำลายตระกูลชุยไปเช่นนี้ก็น่าเสียดายนัก
แต่ตอนนี้ เนื่องด้วยเขาเพิ่งจัดตั้งเมืองหลวงขึ้นใหม่ อีกสถานการณ์บ้านเมืองยังไม่มั่นคงมากนัก จำเป็นต้องใช้งานคน หากตระกูลชุยเต็มใจงานสุดความสามารถ ราชสำนักก็จะสงบลงได้ในเวลาไม่นาน
เดิมทีเขาคิดจะยืมมือจากอำนาจของหวังโส่วหนิง ให้ตระกูลชุยและตระกูลหวังรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน จากนั้นก็รับใช้ราชวงศ์อู่อย่างสุดความสามารถ เช่นนี้ทุกอย่างก็จะเป็นไปด้วยดี
แต่ตอนนี้เฟิงอู่หังปรากฏตัวขึ้นกลางทางและขัดขวางแผนการของเขา ทำให้หลี่เจิ้งรู้สึกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟขึ้นมา
หวังเหลียนยังคงเงียบต่อไป
เขาไม่กล้าพูดแทรกถึงเรื่องเหล่านี้ได้
สิ่งเดียวที่เขาทำได้ คือช่วยฝ่าบาทด้วยวรยุทธ์ของเขา
“มีข่าวอันใดจากชิงโจวบ้างหรือไม่ ?” หลี่เจิ้งที่โกรธอยู่พักหนึ่ง จึงค่อย ๆ เอ่ยถามออกมา
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเหตุการณ์ในตอนนี้ที่แคว้นเล็ก ๆ อย่างแคว้นหนาน กล้ามาท้าทายราชวงศ์อู่เช่นนี้
ช่างน่าเสียดายนัก !
หวังเหลียนก็แอบเสียดายอยู่ลึก ๆ เช่นกัน
หลี่เจิ้งเหลือบมองหวังเหลียน ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็เต็มไปด้วยความครุ่นคิด ก่อนจจะเอ่ยถามด้วยการเยาะเย้ย:
“หวังเหลียนเอ๋ย พวกเศษสวะสำนักจิ่งนั้น เจอร่องรอยบ้างหรือไม่ ?”
หวังเหลียนคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเอ่ยตอบ
“กราบทูลฝ่าบาท กระหม่อมได้รับข่าวบางอย่างมา เดิมทีกระหม่อมตั้งใจที่จะตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนที่จะแจ้งให้ฝ่าบาททราบ แต่ถึงพูดตอนนี้ก็คงไม่เป็นไรแล้วพ่ะย่ะค่ะ”
ฉับพลัน ดวงตาของหลี่เจิ้งก็เป็นประกายขึ้นมา
“ฝ่าบาท นอกจากที่จิ่งอ๋องได้ก่อตั้งสำนักจิ่งแล้ว ก็เป็นดังที่ฝ่าบาทคาดไว้ กระหม่อมพบว่าจิ่งอ๋องมีศิษย์จำนวนมาก บัดนี้กระหม่อมยืนยันตัวตนของศิษย์พวกนี้บางส่วนได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ !”
"เจ้าพูดมา !"
หวังเหลียนกล่าวต่อด้วยท่าทีเคารพ
“ศิษย์คนเล็กของจิ่งอ๋องคือผู้นำคนปัจจุบันของลัทธิเทียนซาน ศิษย์คนโตของจิ่งอ๋องคือเฮยไหลไป๋หลี่ หัวหน้าสิบขุนพลสำนักจิ่งในตอนนั้น ข้าสงสัยว่าเฮยไหลไป๋หลี่จะยังมีชีวิตอยู่พ่ะย่ะค่ะ ! นอกจากนี้แล้ว...”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
ปลดล็อคแล้วอ่านไม่ได้...
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...