องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 1144

“นอกจากนี้ กระหม่อมยังพบว่ามีคนของสำนักจิ่งที่เหลืออยู่อีกคนหนึ่ง ที่น่าจะยังมีชีวิตอยู่... คนๆ นั้นคือรองเจ้ากรมกลาโหมในตอนนั้น โหลวสืออีพ่ะย่ะค่ะ !

เมื่อหวังเหลียนพูดจบ เขาก็มองไปยังหลี่เจิ้ง

สายตาของหลี่เจิ้งนั้นโหดร้ายขึ้นในฉับพลัน เขาจ้องมองไปยังหวังเหลียนและถามด้วยเสียงทุ้มลึก

“เจ้าว่าอะไรนะ ? โหลวสืออียังมีชีวิตอยู่หรือ ?!”

หวังเหลียนพยักหน้าก่อนจะเอ่ยด้วยเสียงทุ้ม

“สองสามวันก่อนกระหม่อมไปพบแม่ทัพจงจื่อหนิงอีกครั้ง จากที่เขาเล่ามา ก่อนที่องค์ชายหกจะถูกลอบสังหาร พวกเขาเคยได้ต่อสู้กับคนร้ายสองคน เมื่อเล่าจบหม่าหยวนฮั่นก็คาดเดาว่าหนึ่งในนั้นมีวิชาการต่อสู้ของสำนักจิ่งพ่ะย่ะค่ะ”

“กระหม่อมพูดคุยกับเขาโดยละเอียด สุดท้ายจึงคิดว่าอาจเป็นโหลวสืออี กระหม่อมจึงให้คนไปตรวจสอบสถานที่ที่โหลวสืออีอาจจะปรากฏตัว ในที่สุดเขาก็พบว่ามีคนแอบสืบเรื่องเกี่ยวกับที่อยู่ของเด็กสาวจากตระกูลโหลวในตอนนั้น... ดังนั้น กระหม่อมจึงสงสัยว่าโหลวสืออีจะยังมีชีวิตอยู่”

สีหน้าของหลี่เจิ้งเย็นชาไปเสียหมด

เขาจ้องมองหวังเหลียนแล้วเอ่ยด้วยเสียงเย็นชา

“หวังเหลียน ไม่ว่าเจ้าจะใช้วิธีใดก็ตาม เจ้าต้องตามหาโหลวสืออีให้เจอและฆ่ามันซะ ! หากอยู่ต้องเจอคน ตายต้องเห็นศพ !”

“พ่ะย่ะค่ะ !” หวังเหลียนตัวสั่นไปทั้งตัวและพยักหน้ารับคำสั่งทันที !

โหลวสืออี !

รองเจ้ากรมกลาโหมในตอนนั้น

สิ่งที่สำคัญไม่ใช่สถานะของเขาในฐานะรองเจ้ากรมกลาโหม แต่เพราะเขาคือต้นเหตุของการที่สำนักจิ่งถูกฆ่าล้างบางต่างหาก !

ตอนนั้นจิ่งอ๋องและหลี่เจิ้งบรรลุข้อตกลงซึ่งกัน โดยหลี่เจิ้งสัญญาว่าจะปล่อยให้สำนักจิ่งดำรงอยู่ตลอดไปและไม่ไปแตะต้องกับสำนักจิ่ง

แต่เพราะต่อมาโหลวสืออีแอบมาแจ้งว่าจิ่งอ๋องคิดก่อกบฏ หลี่เจิ้งเชื่อคำพูดของโหลวสืออีและนำกองทัพไปกำจัดสำนักจิ่งทันที !

ส่วนสิบขุนพลตระกูลจิ่งก็ถูกหวังเหลียนสังหารจนไม่เหลือชิ้นดี สมาชิกของสำนักจิ่ง หลายร้อยคน มีทั้งที่ตายไปและยอมจำนน มีเพียงส่วนน้อยที่บาดเจ็บหนักและหนีรอดไปได้

แต่หวังเหลียนมั่นใจว่าคนที่ถูกเขาทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส ไม่มีทางรอดได้

แน่นอนว่าเฮยไหลไป๋หลี่ผู้นั้นเป็นเหตุบังเอิญ !

ถึงอย่างไรวิทยายุทธของเฮยไหลไป๋หลี่ตอนนั้นก็ไม่น้อยหน้า แม้จะถูกเขาลงไม้ลงมือไปบ้าง แต่ก็อาจจะยังรอดชีวิตอยู่ได้ !

สำนักจิ่งถูกทำลาย แต่หลี่เจิ้งจึงค่อยรู้ในภายหลังว่าโหลวสืออีปั้นน้ำเป็นตัว หลักฐานที่เขาบอกหลี่เจิ้งนั้นล้วนแต่ถูกเขาสร้างขึ้นมาเอง !

โหลวสืออีนั้นได้แปรพักตร์ไปยังแคว้นฉีนานแล้ว การส่งข่าวเท็จเรื่องเกี่ยวกับการกบฏของสำนักจิ่ง ก็เป็นผลมาจากคำสั่งของอัครมหาเสนาบดีหวังฉวนเหวินแห่งแคว้นฉี

ในตอนนั้น สำนักจิ่งเป็นเหมือนหน่วยสืบราชการลับพิเศษของเสิ่นคั่ว ตราบใดที่สำนักจิ่งดำรงอยู่ได้หนึ่งวัน แคว้นฉีก็ไม่มีทางส่งสายลับมาเข้าใกล้เมืองหลวงราชวงศ์อู่ได้เลย

สำนักจิ่งสามารถปกป้องรักษาเมืองหลวงให้สมบูรณ์ได้ กองทัพของจักรพรรดิในปัจจุบันนั้นเทียบไม่ได้อย่างแน่นอน !

ด้วยเหตุนี้ หวังฉวนเหวินจึงใช้กลอุบายเพื่อทำลายสำนักจิ่งซึ่งควรจะเป็นโล่ที่แข็งแกร่งที่สุดของหลี่เจิ้ง ด้วยการยืมมือหลี่เจิ้งนี้เอง

“กราบทูลฝ่าบาท ทันทีที่กระหม่อมรู้ว่าโหลวซืออี๋ยังมีชีวิตอยู่ กระหม่อมก็ส่งคนไปตรวจสอบแล้วพ่ะย่ะค่ะ...” หวังเหลียนรีบตอบด้วยความตะกุกตะกัก

หลี่เจิ้งเห็นดังนั้นก็ได้แต่ขมวดคิ้ว จากนั้นก็ทำเพียงพยักหน้ารับ

เมืองอู่

น่าหลันเหวินชิงเอ๋อร์และหลินกงกงยังคงอยู่ เดิมทีคิดจะไปหาเจิ้นเป่ยอ๋องที่อำเภอผิงอันเพื่อถามเรื่องบางอย่างให้แน่ชัด

แต่ก็ต้องประหลาดใจที่พบว่าจี้จงชิงอยู่ในเมืองหลวงด้วย น่าหลันเหวินจึงได้ปลอมตัวมาเยี่ยมเยียน

เมื่อเทียบกับเจิ้นเป่ยอ๋องแล้ว จี้จงชิงเองก็รู้เรื่องอยู่ไม่น้อย

เป็นคนที่สามารถไถ่ถามได้

ฃจี้จงชิงที่กำลังพักผ่อนสบายใจ เมื่อเห็นน่าหลันเหวินปรากฏตัวพร้อมครรภ์กลมโตที่หน้าเรือนของตน เขาตกใจจนแทบไม่กล้าเชื่อสายตาตัวเอง

จี้จงชิงรีบเข้ามาต้อนรับขับสู้และไถ่ถามด้วยความประหลาดใจ:

“องค์หญิงใหญ่ ท่าน... ท่านออกจากราชวงศ์อู่ไปแล้วใช่หรือ เหตุใดจู่ ๆ ท่านจึงมาปรากฏตัวที่นี่ได้เล่า ?”

น่าหลันเหวินโค้งคำนับเล็กน้อยแล้วเอ่ยตรงประเด็น

“ดีจริง ๆ ที่อัครมหาเสนาบดีจี้ยังจำเหวินจวินได้ วันนี้ข้ามาที่นี่ก็เพราะอยากถามเรื่องบางอย่างกับอัครมหาเสนาบดีจี้ ข้าหวังว่าอัครมหาเสนาบดีจี้จะบอกให้ข้าฟังได้”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน