เมื่อเห็นปฏิกิริยาของหญิงสาว หลี่จุ่นก็รู้ได้ทันทีว่าอวี้เซียงมีคิดเช่นใดอยู่
หลี่จุ่นลอบถอนหายใจ รู้ตัวว่าเจอปัญหาใหญ่เข้าเสียแล้ว
อย่าว่าแต่อีกหน่อยเขาจะเอาชนะจักรพรรดินีได้หรือไม่ หรือจะสามารถล้างแค้นให้อวี้เซียงได้หรือเปล่า เพราะด้วยสถานการณ์เช่นวันนี้มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจัดการกับจักรพรรดินีในอนาคต
เพราะตอนนี้ทั้งสองคนเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว
แต่อวี้เซียงจงรักภักดีต่อเขามาโดยตลอด หากเขาไม่ช่วย เขาก็จะกลายเป็นคนที่ผิดสัญญา
อีกทั้งยังถือเป็นการทรยศต่อความไว้ใจอีกด้วย เขารู้สึกผิดต่ออวี้เซียงยิ่งนัก
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง หลี่จุ่นก็ถามขึ้น
“อวี้เซียง เช่นนั้นเจ้าบอกข้าได้หรือไม่ว่าความแค้นระหว่างเจ้ากับฝ่าบาทคืออะไรกันแน่ ?”
เมื่อได้ยินหลี่จุ่นเอ่ยถาม อวี้เซียงก็เงยหน้าขึ้นเล็กน้อยแล้วมองไปยังชายหนุ่ม
น้ำตาที่รินไหลออกจากดวงตาของนาง ชวนให้น่าสงสารเสียเหลือเกิน หญิงสาวเอ่ยตอบด้วยเสียงเบา
“ท่านหัวหน้า อวี้เซียงไม่อยากให้ท่านลำบากใจ... หากท่านไม่สามารถช่วยอวี้เซียงได้ อวี้เซียงก็จะไม่ถือโทษโกรธท่าน...”
ขนาดหัวหน้าของนางก็ยังเรียกผู้หญิงคนนั้นว่า "ฝ่าบาท" ชื่อเรียกนี้เปี่ยมไปด้วยความนับถือ เชื่อว่าหัวหน้าคงไม่มีทางลงมือกับผู้หญิงคนนั้นลงเป็นแน่
นางรู้สึกเศร้าใจอยู่ลึก ๆ
ทั้งที่ตนเองรู้จักหัวหน้ามายาวนานกว่าสตรีผู้นั้น แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าหัวหน้าจะเห็นแก่ผู้หญิงคนนั้นมากกว่า...
ยิ่งคิดอวี้เซียงก็ยิ่งเสียใจ น้ำตาของหญิงสาวจึงรินไหลไม่หยุด
เสียงของน้ำตาที่หยดแหมะ ทำเอาตัวนางเองก็ตกใจเช่นกัน
นางจึงรีบหันหลังกลับแล้วเอ่ยขึ้น
“ท่านหัวหน้า ข้า... ข้าขอตัวไปทำงานก่อน”
หลี่จุ่นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง เขาอยากจะเรียกให้อีกฝ่ายอยู่ต่อ แต่อวี้เซียงก็เดินออกจากห้องไปอย่างรวดเร็ว ทำให้เขาไม่มีโอกาสได้รั้งตัวหญิงสาวไว้ได้แม้แต่น้อย
หลี่จุ่นอ้าปากค้างและทอดถอนใจในทันที
เกรงว่าต่อไปเขาคงต้องปวดหัวเพราะเรื่องนี้เสียแล้วสิ
ณ คฤหาสน์ตระกูลชุย
มีคนจำนวนไม่น้อยพากันนั่งอยู่ในห้องโถง
ทุกคนล้วนเป็นสมาชิกตระกูลชุย
ที่นั่งหัวโต๊ะนั้นเป็นชายชราที่ถือไม้เท้าค้ำยัน แลดูชราภาพมากนัก อย่างน้อยต้องอายุสักเจ็ดสิบปีได้
“ท่านพ่อ ตระกูลชุยเรารับราชการมาสองราชวงศ์ ห้าจักรพรรดิ คนอย่างหวังโส่วหนิงมีดีมาจากไหนกัน กล้าดีอย่างไรถึงได้คิดมาต่อต้านตระกูลชุยของข้า ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นแก่ฝ่าบาทแล้ว ให้โอกาสจวนอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายได้มีอำนาจ แล้วเขาจะมีสิทธิ์อะไรที่จะมาแต่งงานกับตระกูลชุยเรา ? แต่ตอนนี้เขากลับกล้าที่จะยกเลิกการหมั้นหมาย ! ไม่เห็นตระกูลชุยเราในสายตาด้วยซ้ำ !”
ทันทีที่ชุยเหวินเอ่ยปาก คนที่นั่งบนเก้าอี้ตัวแรกข้าง ๆ เขาก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำเช่นกัน
“ใช่ขอรับ น้องสามพูดถูก มันเป็นแค่อัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้าย แม้ว่าอัครมหาเสนาบดีฝ่ายขวาอยากจะเชื่อมสัมพันธ์กับตระกูลชุยเรา เราก็ต้องพิจารณาดูก่อน ! เราอุตส่าห์ให้โอกาสมัน แต่มันกลับไม่รู้จักความดีของเรา ทำเช่นนี้ได้อย่างไรกัน !”
“ใช่ จะปล่อยเรื่องนี้ไปง่าย ๆ ไม่ได้ !”
“ท่านพ่อ เราต้องสั่งสอนหวังโส่วหนิงนะขอรับ ทำให้มันได้รู้ว่า การทำเช่นนี้กับตระกูลชุยของเราจะต้องพบกับอะไร !”
“นี่เป็นผลจากการกระทำที่หวังโส่วหนิงไม่มีปัญญาแบกรับไว้ได้ !”
“...”
เมื่อชุยเหวินเอ่ยด้วยความโกรธแค้น คนอื่น ๆ ในตระกูลชุยก็พากันพูดความเห็นของตนไม่หยุด
ในเวลานี้เอง ชุยอวี้ได้เอ่ยคำบางคำออกมา
“ท่านปู่ ข้าขอเสนอให้หวังโส่วหนิงจับตัวลูกสาวของมันมัดไว้แล้วนำตัวมาส่งให้ข้า ต้องอาบน้ำล้างตัวสะอาดแล้วส่งถึงเตียงข้าทันที จากนั้น แล้ววางเธอลงบนเตียงของข้า จากนั้นก็ต้องโค้งคำนับเพื่อขอโทษข้า !”
ทันทีที่เขาเอ่ยออกมา
ทุกคนในที่แห่งนั้นก็พกกันตกตะลึงทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
ปลดล็อคแล้วอ่านไม่ได้...
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...