องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 1147

ชุยอวี้นั้นเอ่ยคำที่ทำให้ผู้คนพากันตกใจ

ทุกคนในตระกูลหันมามองดูเขาเป็นตาเดียว แม้แต่ชุยหยวนซานผู้ทรงเกียรติก็มองหลานชายคนนี้ของตนเองด้วยความตกตะลึง เขานิ่งเงียบไม่พูดสิ่งใดอยู่นาน

ช่างกล้าคิดเสียเหลือเกิน !

ถึงอย่างไรอีกฝ่ายก็เป็นถึงอัครมหาเสนาบดีในราชวงศ์ปัจจุบัน

แม้ว่าตระกูลชุยของเขาจะเป็นอันดับสอง แต่ถ้าเรื่องของการต่อสู้ตามลำพัง ตระกูลชุยในตอนนี้ก็ยังไม่มีใครที่จะไปหาเรื่องทางนั้นได้เลยสักคน !

แล้วดูหลานชายตัวดีพูดเข้าสิ

เมื่อชุยอวี้เห็นลุงและผู้อาวุโสมองมาที่ตัวเขาเอง เขาก็หยุดพูดไปครู่หนึ่งและเอ่ยขึ้น

“ท่านปู่ หลานคิดว่า หวังโส่วหนิงไม่เห็นท่านอยู่ในสายตาเลย ต่อให้เป็นตระกูลชุย มันก็ไม่เห็นอยู่ในสายตา ต้องให้มันได้รับบทเรียนนี้เสียบ้าง ! ให้เขารีบจับตัวลูกสาวของมันมัดไว้แล้วเอามาส่งที่นี่เพื่อรับผิด !”

คราวนี้สมาชิกตระกูลชุยไม่ได้พูดอันใด หากแต่เริ่มพิจารณาข้อเสนอของชุยอวี้อย่างละเอียด

แม้ว่าคำพูดของเด็กหนุ่มคนนี้จะฟังดูน่าตกใจไปบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไร้ซึ่งเหตุผลเสียทีเดียว !

ทันใดนั้นทั้งห้องโถงก็ตกอยู่ในความเงียบฝัน ด้วยทุกคนในที่แห่งนั้นกำลังครุ่นคิด

ชุยหยวนซานขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย เขายกถ้วยน้ำชาขึ้นมาจิบแล้วจึงค่อยเอ่ยถามด้วยเสียงเรียบ

“พวกเจ้าคิดเห็นว่าอย่างไรบ้าง ? ต้องการให้หวังโส่วหนิงได้เห็นว่าตระกูลชุยของข้าแข็งแกร่งเพียงใดจริง ๆ ใช่หรือไม่ ?”

ชุยเหวิได้ยินดังนั้นก็รีบตอบทันที: "แน่นอนสิขอรับ ! หวังโส่วหนิงจะต้องชดใช้ให้แก่ความโง่เขลาของตัวมันเอง !"

“ใช่ ! ต้องทำให้หวังโส่วหนิงได้รู้จักแยะแยะดีชั่ว !”

“ให้มันมาขอขมาก็ยังได้ !”

“...”

ขณะที่ทุกคนพากันพูดคุยกันเสียงดังไปทั่วห้องโถงนี้เอง ชุยหยวนซานกลับยิ่งขมวดคิ้วมากขึ้นเรื่อย ๆ

สุดท้าย ชายชราก็กระแทกไม้เท้าค้ำยันของตนเองลงบนพื้นด้วยความโกรธ สยบเสียงเจื้อยแจวของสมาชิกคนอื่น ๆ ชุยหยวนซานใช้สายตาจ้องมองยังสมาชิกตระกูลและก่นด่าด้วยท่าทีโกรธเคือง

“คนรุ่นหลังนับวันก็ยิ่งถอยหลังลงคลองจริง ๆ ! หากยอมให้พวกเจ้าทำทุกสิ่งตามที่ใจต้องการ ตระกูลชุยคงต้องล่มสลายในไม่ช้า !”

เพียงเอ่ยประโยคนี้ออกไป

สีหน้าของทุกคนแปรเปลี่ยน ต่างฝ่ายต่างหันมามองหน้ากัน ไม่มีใครไม่กล้าพูดอะไร

เมื่อชุยหยวนซานเห็นดังนั้นก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงโกรธเคือง "ตระกูลชุยของข้ารุ่งเรืองสืบมานับหลายร้อยปี เป็นขุนนางในสองราชวงศ์ ผ่านการรับใช้จักรพรรดิห้าพระองค์มาได้ ก็เพราะการไม่แก่งแย่งชิงดีกับใคร บัดนี้พวกเจ้ากลับต้องการใช้หน้าที่การงานของตระกูลที่อุตส่าห์สะสมมาได้อย่างยากลำบากเพื่ออวดอำนาจ ไม่กลัวว่าจะต้องเจอพายุข้าหรอกหรือ ?!”

สีหน้าของชายชรานั้นโกรธเคือง พลางมองไปยังทุกคนด้วยสายตาตำหนิ

เล่นเอาทั้งห้องโถงถึงกับเงียบสนิท

หัวหน้าตระกูลชุยซึ่งนั่งอยู่ถัดมาที่ด้านซ้ายได้ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะลองพูดหยั่งเชิงออกมา

“ใช่ ท่านพ่อพูดถูก ตระกูลฉุยเราเป็นขุนนางที่จงรักภักดีต่อราชสำนัก ไม่ใช้อำนาจรังแกผู้อื่น ยิ่งไม่อาจทะเลาะกับผู้อื่นได้ตามใจชอบ การเป็นปฏิปักษ์กับอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายอย่างเปิดเผยนั้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ...”

ชุยหยวนซานได้ยินเช่นนั้นก็พยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

ชุยเหวินฟังแล้วถึงกับขมวดคิ้ว เขาเหลือบมองพี่ชายของตนเอง จากนั้นก็มองบิดาของตนอย่างพิจารณา ก่อนจะเอ่ยขึ้นมากะทันหัน

“ใช่แล้ว พี่ใหญ่พูดถูก ! ตระกูลชุยเราจะไปหาเรื่องอัครมหาเสนาบดีฝ่ายซ้ายได้อย่างไรกัน ตระกูลชุยของเราต้องไม่คิดแค้นต่อหวังโส่วหนิงผู้เขลาขลาด !”

เรื่องนี้ก็ยังพอคุยกันได้ แต่ทางลูกสาวของตนนี่สิ เขาก็ไม่อาจไปอธิบายได้เช่นกัน...

หวังโส่วหนิงรู้สึกว่าเขาตกอยู่ในสภาวะที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเข้าเสียแล้ว

“หรือข้าจะต้องกบฏต่อราชสำนักไปพร้อมกับเจ้าเด็กนี่จริง ๆ หรือ ?”

หวังโส่วหนิงครุ่นคิด ทันใดก็รู้สึกว่าตนเองมีความผิดสมควรตาย เพราะถึงอย่างไรนี่ก็เป็นการะกระทำที่ผิดบาป

ฉะนั้นจะยอมทำตามไม่ได้เด็ดขาด !

“เฮ้อ...”

หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน หวังโส่วหนิงก็ไม่อาจคิดหาผลลัพธ์ได้ จึงทำได้เพียงถอนหายใจยาว

ทันใดนั้นเอง

เสียงฆ้องและกลองถูกตีรัวจนดังสนั่น เรียกให้คนทั้งเรือนตื่นขึ้นด้วยความตกใจทันที

จากนั้นก็มีคนวิ่งตะโกนร้องเพื่อแจ้งเหตุ

“แย่แล้ว ไฟไหม้”

“รีบออกมากันเร็ว !”

“ไฟไหม้แล้ว ! ใครก็ได้ มาช่วยกันเร็วเข้า !”

“...”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน