องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 1152

คนในตระกูลชุยได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกว่าขาของตนอ่อนแรงลงทันที บ้างก็ตกใจเสียจนเกือบเป็นอัมพาตไปเสียด้วย

ขณะที่พวกเด็กเล็กกับผู้หญิงก็พากันตกใจจนร้องไห้ระงม

เมื่อเห็นว่าทหารของกองทัพแคว้นหนานกำลังจะลงมือ ชุยหยวนซานก็รีบก้าวไปข้างหน้าและตะโกนขึ้น

“คุณชายเฟิง คุยกันก่อนเถิด คุยกันก่อน !”

ทว่า

หลี่จุ่นกลับนิ่งเงียบ ไม่สนใจชายชราเลยแม้แต่น้อย

ครั้นแล้วเหล่าทหารของกองทัพแคว้นหนานก็ลงมือในทันที

เมื่อเห็นว่าตระกูลชุยกำลังจะถูกสังหารจนสิ้น ชุยหยวนซานก็รีบตะโกนขึ้น

“หยุดนะ ! ตระกูลชุยของข้าเป็นขุนนางทหารระดับสูงของแคว้นหนานเจ้า ข้ามีป้ายห้อยเอวที่จักรพรรดินีแห่งแคว้นหนานเป็นผู้พระราชทานให้กับมือ ! พวกเจ้ารีบหยุดเดี๋ยวนี้ !”

เมื่อได้ยินชุยหยวนซานเอ่ยเช่นนั้น

เหล่าทหารของแคว้นหนานถึงกับพากันตกตะลึง !

หลี่จุ่นเองก็หรี่ตาลงและยกมือขึ้นทันที เพื่อสั่งเหล่าทหารให้หยุดลงมือ

เมื่อเห็นเช่นนั้นแล้ว ชุยหยวนซานก็หันไปพูดกับลูกชายคนโตของตน "เจ้าใหญ่ ไปเอาป้ายห้อยเอวมาให้คุณชายเฟิงดู !”

“ขอรับท่านพ่อ...”

ผู้นำตระกูลชุยมีสีหน้าบอกบุญไม่รับนัก แต่ก็รีบพุ่งตรงเข้าไปภายในจวนทันที

ทหารบางคนคิดจะขวางทางอีกฝ่ายไว้ หากแต่หลี่จุ่นกลับบอกให้ปล่อยไป

เรื่องที่ตระกูลชุยมีป้ายห้อยเอวที่จักรพรรดินีพระราชทานให้ช่างน่าสนใจนัก !

ชุยหยวนซานมองยังที่หลี่จุ่นและเอ่ยขึ้น

“คุณชายเฟิง อันที่จริงแล้วข้าเป็นผู้ว่าการของจังหวัดเจิ้นเป่ยแห่งแคว้นหนาน ตระกูลชุย และแคว้นหนานเป็นหนึ่งเดียวกัน นี่มิเท่ากับเราฆ่าแกงกันเองหรอกหรือ หวังว่าคุณชายเฟิงจะเข้าใจด้วย !”

น้ำเสียงของชุยหยวนซานในยามนี้ดูมั่นใจขึ้นมาก

ทว่า

ชุยเหวินและสมาชิกตระกูลชุยคนอื่น ๆ ต่างพากันส่ายหน้าแลถอนหายใจ

ขณะที่หลี่จุ่นฟังแล้วก็ถึงกับขมวดคิ้ว

จังหวัดเจิ้นเป่ยหรือ ?

นี่มันคือจังหวัดใดกัน ?

เหตุใดเขาจึงไม่ได้ยินมาก่อนเล่า ?

เขารีบหันไปมองหยวนเฟิงทันที จึงเห็นได้ว่าหยวนเฟิงเองก็กำลังเกาหัวด้วยความงุนงงอยู่เช่นกัน

“ท่านกุนซือ แคว้นหนานเราไม่มีจังหวัดนี้อยู่ ข้าไม่เห็นเคยได้ยินมาก่อนเลย...”

ชุยหยวนซานได้ยินเช่นนั้นก็รีบกล่าวขึ้นทันที

“คุณชายเฟิง นี่คือความลับทางราชการของแคว้นหนาน พวกท่านยังไม่มีเจ้าสมบัติมากก็ย่อมไม่รู้เป็นธรรมดา แต่ขอแค่ได้เห็นป้ายห้อยเอวที่ฝ่าบาททรงพระราชทานมา ท่านก็จะรู้ได้เองว่าข้ามิได้พูดโกหก !”

เมื่อหยวนเฟิงและทหารในแคว้นหนานคนอื่น ๆ ได้ยินดังนั้นก็พากันหน้าถอดสีในทันที

พวกเขาพากันมองซ้ายแลขวา เมื่อเห็นว่าหยวนเฟิงที่มีอาการลังเลอยู่ครู่หนึ่งตัดสินใจคุกเข่าลง พวกเขาก็รีบคุกเข่าเพื่อถวายบังคมต่อป้ายหยกตามทันที

เหล่าคนในตระกูลชุยเองก็พากันคุกเข่าลงเช่นกัน !

ทว่า

หลี่จุ่นกลับทำแค่เพียงยืนขมวดคิ้วมองอยู่ที่เดิมโดยไม่มีการเคลื่อนไหวใด ๆ

เมื่อเห็นเช่นนั้น ชุยหยวนซานก็ตะโกนขึ้นในทันที "บังอาจ เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงไม่ยอมคุกเข่าลง ? นี่เจ้ากล้าเพิกเฉยต่อพระราชอำนาจของฝ่าบาทได้อย่างไรกัน ? เจ้าต้องการที่จะกบฏใช่หรือไม่ ?!"

เมื่อคนในตระกูลชุยเห็นพวกทหารพากันคุกเข่าลง พวกเขาก็ยืดอกขึ้นมาได้ทันที

ชุยเหวินเห็นดังนั้นก็รีบตะโกนขึ้นสำทับ "ใช่ หรือเจ้าคิดจะก่อกบฏกันเล่า !"

“ยังไม่รีบคุกเข่าถวายบังคมอีก ช่างบังอาจยิ่งนัก !”

“เจ้ามันรนหาที่ตาย !”

“......”

เหล่าคนในตระกูลชุยเริ่มพากันตะโกนต่อต้านหลี่จุ่นขึ้นมา !

กระทั่ง ชุยอวี้ถูกคุมตัวออกมาโดยสวมแค่กางเกงชั้นในเพียงตัวเดียว พร้อมหญิงสาวที่แทบจะเดินออกมาด้วยร่างเปลือยเปล่า

ชุยอวี้ตะโกนด่าไม่จบสิ้น พยายามดิ้นรนให้พ้นจากการถูกคุมตัว เมื่อเขาเห็นทุกคนคุกเข่าอยู่ที่พื้น โดยเฉพาะพวกทหารของแคว้นหนานที่ก้มหัวลงกันจนหมด ชุยอวี้ก็ได้ใจจนตะโกนขึ้นมาเสียงดัง

“ปล่อยข้านะ พวกคนสามหาว ! ปล่อยข้าไปเดี๋ยวนี้ !”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน