องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 1222

หลี่จุ่นมายังค่ายทหารที่กองทัพสายฟ้าอยู่ จากนั้นก็เรียกเถี่ยโถวที่กำลังตะโกนให้ทุกคนเก็บข้าวของอยู่มา

เมื่อเถี่ยโถวที่อ้วนเป็นตุ่มสามโคก รูปร่างราวกับภูเขาลูกเล็ก ๆ ลูกหนึ่งเห็นหลี่จุ่น ก็รีบวิ่งมาด้วยความดีอกดีใจ ก่อนจะเอ่ยเรียกว่า

“พี่ใหญ่ ท่านมาได้อย่างไร?”

หลี่จุ่นรีบยิ้มพลางเอ่ยว่า

“เถี่ยโถว คืนนี้เข้าไปเที่ยวเล่นกับพี่ใหญ่ในเมืองนะ”

“เข้าเมือง?”

เถี่ยโถวอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเกาหัว ไม่เข้าใจอยู่เล็กน้อย “พี่ใหญ่ เราไม่ได้จะลงใต้หรอกหรือ?”

หลี่จุ่นเอ่ย

“ใช่! ฉะนั้นกองทัพสายฟ้าของเราจึงรับผิดชอบสกัดกั้นอยู่ด้านหลัง รอขนย้ายอุปกรณ์ทางทหารและอาวุธสำคัญไปยังเมืองอวี๋เจียงแล้ว เราคอยตามไป!”

เถี่ยโถวตบศีรษะ สีหน้าเต็มไปด้วยความดีอกดีใจ ก่อนจะเอ่ยว่า

“เยี่ยมเลย พี่ใหญ่ เอาตามท่านว่า! พวกเราก็คือสายฟ้าที่อยู่ในมือของพี่ใหญ่ พี่ใหญ่ต้องพาเราไปทำลายความมืดมิดที่หนักอึ้ง!”

เถี่ยโถวยิ้มอย่างไร้เดียงสา

ทว่าเมื่อหลี่จุ่นได้ยินดังนั้นใบหน้ากลับเต็มไปด้วยความอิหลักอิเหลื่อ

ประโยคนี้เขาเคยพูดเอาไว้ตอนที่ตัวเองอยู่ที่เนินเขาถล่มในตอนแรก ไม่นึกเลยว่าเจ้าหมอนี่ยังจำได้เสมอมา

ช่างเป็นเจ้าหนุ่มที่ยอดเยี่ยมจริง ๆ!

“เอาละ รอเหล่าสหายเก็บของเสร็จแล้ว ก็เข้าไปหาข้าในเมืองนะ”

หลี่จุ่นพยักหน้า พูดทิ้งไว้ประโยคหนึ่งแล้วก็เดินจากไป

“อืม ๆ ขอรับ พี่ใหญ่!”

เถี่ยโถวลูบศีรษะ รีบรับคำสั่ง

หลี่จุ่นกลับไปหาพวกเซียวเจิ้นและอวิ๋นเอ๋อร์

ให้พวกเขากับคนของค่ายทหารปืนใหญ่อยู่ด้วยกัน แล้วค่อยเคลื่อนทัพลงใต้พร้อมกัน

เดาว่าพรุ่งนี้มะรืนนี้ก็คงจะได้เคลื่อนย้ายแล้ว

เดิมทีหากตัวเขาไม่จำเป็นต้องรักษาอาการบาดเจ็บละก็ พวกเขาก็ไปก่อนได้เลย แต่ว่าซั่งกวนหว่านเอ๋อร์ต้องให้ตัวเขารักษาอาการบาดเจ็บให้ทุกวัน ไม่สามารถอยู่ห่างจากตัวเขาได้

ที่พาซั่งกวนหว่านเอ๋อร์ออกมาจากเมืองก่อน เป็นเพราะว่ากลัวทั้งสองทัพจะเกิดการกระทบกระทั่งขึ้นอย่างกะทันหัน

เช่นนั้นแล้วซั่งกวนหว่านเอ๋อร์ที่ร่างกายได้รับบาดเจ็บหนัก ย่อมพลอยถูกผลกระทบอย่างรุนแรงไปด้วย

เนื่องด้วยเหตุนี้จึงให้พวกเขาอยู่ที่ค่ายทหารปืนใหญ่จะดีกว่า

และแน่นอนว่าค่ายทหารปืนใหญ่ย่อมอยู่สกัดกั้นด้านหลังกับหลี่จุ่น!

สิ่งที่เจิ้นเป่ยอ๋องกลัวก็คือปืนใหญ่ ค่ายทหารปืนใหญ่ก็จะจ่อปืนใหญ่เล็งไปในเมือง หากทัพศัตรูทำอะไรบุ่มบ่ามไม่ดูตาม้าตาเรือ ก็ยิงเข้าไปได้เลย ยิงใส่เขาตู้มนัดหนึ่งก่อน!

หลังจากนั้น!

หลี่จุ่นก็จะพาซือคงซั่วและจ้าวกว่านจื่อสองคนผู้มีเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราว เข้าไปในเมือง มายังโรงเตี๊ยมแห่งนั้นในก่อนหน้านี้

สั่งให้พวกเขาต้มน้ำร้อนให้เขา

ช่วงนี้ไม่ได้อาบน้ำเลย หลี่จุ่นรู้สึกว่าทั้งตัวเหนียวเหนอะหนะไปหมด

ตอนนี้ในที่สุดก็มีเวลาแล้ว ก็อาบน้ำก่อนสักหน่อยดีกว่า

ทั้งสองคนรีบลงมือจัดการ ส่วนหลี่จุ่นก็มายังห้องที่เขาเคยอยู่เมื่อก่อนหน้านี้ ก่อนจะนั่งขัดสมาธิฝึกวรยุทธ์

เขาไม่ได้ฝึกวรยุทธ์มานานแล้ว

ตอนนี้ต้องรีบเลื่อนขั้นกำลังภายใน จะขี้เกียจไม่ได้!

เมื่อหลี่จุ่นเห็นดังนั้นก็หรี่ตาลง!

นี่คงจะเป็นหน่วยตรวจตราที่เจิ้นเป่ยอ๋องส่งมาใช่หรือไม่?

แต่ว่าหน่วยตรวจตรานี่สืบข่าวไม่ค่อยได้เรื่องเลย เลือกบุกโรงเตี๊ยมที่มีคนอยู่เนี่ยนะ!

ก็ไม่ถูก สำหรับบางระดับแล้ว ก็เป็นไปได้ว่าที่ที่อันตรายที่สุดก็คือที่ที่ปลอดภัยที่สุด!

ไม่แน่ว่าเล็งเห็นแล้วว่าที่นี่มีคนอยู่ก็เลยบุกเข้ามา

เยี่ยมเลยจริง ๆ!

เพียงแต่ มาผิดที่แล้ว!

เห็นเขาหลี่จุ่นเป็นรูปปั้นดินเผาหรืออย่างไร?

หลี่จุ่นลอบใช้วรยุทธ์ เตรียมลอบโจมตีสองคนนี้

สุดท้ายจู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นเสียงหนึ่ง

ไม่สิ สองเสียง!

“ท่านอาจารย์ ท่านดูสิ ที่นี่เหมือนว่าจะมีคน...เมื่อกี้ เมื่อกี้มีคนกำลังอาบน้ำอยู่!”

“ระวัง อีกฝ่ายจะเห็นเราเข้า!”

เมื่อหลี่จุ่นได้ยินสองเสียงนี้ ก็อึ้งไปเลย

นี่ นี่มันเสียงของเฉาวานวานกับโหลวฮวนฮวนไม่ใช่หรือ?

ทำไมพวกนางถึงมาอยู่ที่นี่ได้?

แล้วก็ เฉาวานวานเป็นศิษย์ของโหลวฮวนฮวนหรอื?

เฉาวานวานก็เป็นคนของลัทธิเทียนซานหรือ?!!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน