องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 1308

“นี่...”

หลี่จุ่นและเฟิงเป่าจินต่างพูดไม่ออก ได้แต่มองหน้ากัน

พวกเขารู้ว่าเฟิงอู่หังไม่ชอบซั่งกวนเฮ่า แต่คิดไม่ถึงว่าจะไม่ชอบถึงขนาดนี้

หลี่จุ่นเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า

“เช่นนั้นเรื่องนี้ก็เอาไว้ก่อน สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการฟื้นฟูราชสำนัก และตั้งกรมทั้งหกขึ้นมาใหม่ เมื่อตั้งกรมทั้งหกขึ้นมาได้แล้ว เรื่องที่เกี่ยวข้องกับการสืบทอดตำแหน่งต่อก็จะจัดการง่ายขึ้น”

พูดจบเขาก็หันไปทางเฟิงเป่าจินก่อนจะพูดว่า

“เสนาบดีเฟิง ข้าขอมอบหมายให้ท่านเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องการคัดเลือกขุนนางใหม่เพื่อมารับตำแหน่งประจำกรมทั้งหก”

เมื่อเฟิงเป่าจินได้ยินเช่นนั้นก็มีสีหน้าเคร่งขรึมในทันที

เรื่องการตั้งหกกรมควรจะทำตั้งนานแล้ว

เพียงแต่ก่อนหน้านี้เอาแต่ร่อนเร่พเนจร ตอนนี้กลับมาแคว้นหนานแล้ว แม้ว่าจะยึดเมืองหลวงคืนมาไม่ได้

แต่ไม่เป็นไรเพราะสามารถตั้งระบบขุนนางของราชสำนักขึ้นมาใหม่ได้

ไม่มีขุนนางฝ่ายบุ๋น มีเพียงขุนนางฝ่ายบู๊ก็ไม่รู้จะปกครองแคว้นได้อย่างไร

จะปกครองโดยขุนนางฝ่ายบู๊ไม่ได้แน่นอน

“ขอรับ ข้าน้อยก็มีความคิดไม่น้อยเกี่ยวกับเรื่องตั้งกรมทั้งหกใหม่พอดี” เฟิงเป่าจินพยักหน้า

ตอนนี้เขาเคารพหลี่จุ่นจากใจจริงถึงขั้นแทนตัวเองว่าข้าน้อยแล้ว

เฟิงอู่หังไม่อาจแทรกแซงเรื่องเหล่านี้ได้จึงเลือกที่จะเงียบไว้

หลังจากที่หลี่จุ่นและเฟิงเป่าจินได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันต่อหน้าธารกำนัลก็ได้ยินเสียงรายงานจากนอกกระโจม

“รายงานขอรับ ท่านกุนซือเป้าจากกองทัพพิทักษ์อุดรมาขอเข้าพบขอรับ”

ทั้งสามคนที่อยู่ในกระโจมมีสีหน้าประหลาดใจทันที หลี่จุ่นรีบพูดว่า

“คงจะมาพบข้า ท่านทั้งสองออกไปก่อนเถิด”

เฟิงอู่หังและเฟิงเป่าจินพยักหน้าแล้วออกจากกระโจมกลางกองทัพ

จากนั้นหลี่จุ่นถึงลุกขึ้นเดินไปยังกระโจมปีก แล้วเรียกให้คนไปเชิญเป้าชุนชิวเข้ามา

ผ่านไปสักพัก

ทันทีที่เป้าชุนชิวเข้ามาก็กำหมัดคารวะด้วยรอยยิ้ม และพูดด้วยรอยยิ้มว่า

“ท่านอ๋อง ยินดีด้วยจริงๆ ที่ได้ครอบครองสตรีงามเฉกเช่นฝ่าบาทจักรพรรดินี นับว่าเป็นความโชคดีอันยิ่งใหญ่ในชีวิตเลยนะ”

“ขอบคุณอย่างยิ่งสำหรับคำอวยพรของท่านเป้า”

หลี่จุ่นยิ้มเฝื่อน แต่ไม่ได้พูดอะไรมากเกี่ยวกับการแต่งงานของเขากับจักรพรรดินี

หลังจากเชิญเป้าชุนชิวนั่งลงแล้วหลี่จุ่นถึงแอบชำเลืองมองสีหน้าของเป้าชุนชิว และถามหยั่งเชิงว่า

“ท่านเป้าคงมีเรื่องอยากจะพูดกับข้าผู้แซ่หลี่สินะ”

เป้าชุนชิวหัวเราะทันที แล้วพูดว่า “ท่านอ๋อง สมกับที่เป็นท่านอ๋อง ช่างสุดยอดมากจริงๆ”

“ท่านอาของท่านอ๋อง ซึ่งก็คือท่านจอมทัพของข้ามีความสามารถที่ไม่ธรรมดาจริงๆ”

เป้าชุนชิวพูดประโยคนี้ได้ดีมาก

ทั้งชมหลี่จุ่นและชมตัวเอง

เจิ้นเป่ยอ๋องเก่งมากก็จริง แต่เขาก็เป็นอาของเจ้าด้วย เจ้าไม่ดีใจหรือที่ลุงของเจ้าเก่ง

เป็นท่านจอมทัพของข้า ท่านจอมทัพเก่งกาจ ข้าก็ต้องดีใจแน่นอน

หลี่จุ่นได้ฟังแล้วก็แสยะยิ้ม มองเป้าชุนชิวพลางรู้สึกยกย่องในใจ

เป้าชุนชิวผู้นี้สมกับเป็นคนที่เจิ้นเป่ยอ๋องให้ความสำคัญ เมื่อก่อนเคยได้ยินหลินชิงเล่าว่าเป้าชุนชิวผู้นี้เป็นเสนาธิการทหารฝ่ายขวาของเจิ้นเป่ยอ๋องมานานหลายปี หลินชิงคนไม่เต็มบาทเทียบไม่ได้เลยด้วยซ้ำ

เพียงแค่ได้ยินคำเล่าลือ หากเป็นหลี่จุ่น เขาก็ให้ความสำคัญกับคนผู้นี้

หลี่จุ่นครุ่นคิดชั่วครู่ ก่อนจะมองเป้าชุนชิวพร้อมพูดว่า

“อย่างไรเสียปืนใหญ่ก็เป็นเพียงของตาย วางไว้ก็เปล่าประโยชน์ หากมีประโยชน์ แน่นอนต้องใช้ของให้คุ้มค่า ท่านอาต้องการยืมปืนใหญ่ ข้าในฐานะหลานจะไม่ให้ยืมได้อย่างไร”

เป้าชุนชิวได้ยินเช่นนั้นก็ดีใจขึ้นมาทันที

แต่ยังคงยิ้มอย่างเสงี่ยมเจียมตัว กำหมัดคารวะพร้อมพูดว่า

“ไม่ทราบว่าท่านอ๋องมีข้อเสนออะไร เชิญพูดมาได้เลยขอรับ”

หลี่จุ่นหัวเราะฮ่าๆ จากนั้นพูดว่า

“คุยกับคนเยี่ยงท่านเป้า ออมแรงได้มากเลยทีเดียว”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน