องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 1324

เมื่อหลี่จุ่นเลือกที่จะนั่งลงแล้ว

ทั้งสองคนเองก็จนปัญญาเช่นกัน

แต่จะให้เป็นเช่นนี้ไปตลอดก็คงไม่ได้กระมัง ?

แม้ปากหลี่จุ่นจะบอกว่าสบาย แต่ถ้าขืนให้เขานั่งเช่นนี้ต่อไปเกรงว่าจะให้เขาลุกมาอีกทีคงไม่ง่ายเสียแล้ว

ยิ่งปล่อยให้เขานั่งนานแค่ไหน ความผิดที่มีต่อเขาก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น

ทั้งสองคนพากันสบตามอง จากนั้นก็ตัดสินใจเด็ดขาด หลี่เซิ่งคุกเข่าลงต่อหน้าหลี่จุ่นทันที จากนั้นก็เอ่ยด้วยเสียงเบา

“ท่านอ๋อง พวกข้าได้สั่งให้คนเตรียมเหล้าและกับแกล้มเอาไว้แล้ว... บน... บนพื้นนี้ถึงจะนั่งสบาย แต่ถ้านั่งนานไป... จะไม่สบายเอาได้นะขอรับ เอาอย่างนี้ หลังของเหล่าหลิว... อุ่นนัก ท่านขึ้นมาบนหลัง แล้วข้าแบกท่านไปดื่มเหล้าดีไหมขอรับ”

“ใช่ ๆ ๆ นั่งบนพื้นนาน ๆ เดี๋ยวไม่สบายเอาได้ แล้วตอนนี้อากาศก็เย็นนัก... ท่านอ๋องขึ้นไปบนหลังเหล่าหลิวเถอะขอรับ !”

จางฟ่างเองก็พลอยเออออห่อหมกไปด้วย

ภาพตรงหน้าเล่นเอาคนจากตระกูลเฟิงทั้งสองถึงกับหันมามองหน้ากัน

นี่ละนะที่เขาเรียกว่าคนเลวย่อมต้องได้ถูกคนเลวด้วยกันจัดการ !

เมื่อเห็นว่าหลิวเซิ่งคุกเข่าลงทำท่าจะแบกตนเองขึ้นหลัง หลี่จุ่นก็นึกพึงพอใจ

ชายหนุ่มขึ้นหลังอีกฝ่ายไปโดยไร้ซึ่งความเกรงใจ ก่อนจะเอ่ยขึ้น

“แหม ท่านแม่ทัพท่านสองนี่รอบคอบดีจริง ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ต้องรบกวนแม่ทัพหลิวด้วย !”

“มิกล้า ๆ ข้าได้แบกท่านอ๋อง... นับเป็นวาสนาของข้า !”

หลิวเซิ่งรีบเอ่ยปากปฏิเสธ สีหน้าประจบประแจง

รอจนเมื่อหลี่จุ่นปีนขึ้นหลังไปแล้ว ก็รีบแบกชายหนุ่มไปยังค่ายทหารทันที

ภาพนี้ทำให้ผู้คนต่างพากันจับจ้อง เมื่อทหารในกองทัพเจิ้นเป่ยมองเห็นว่าแม่ทัพของพวกเขาแบกคนคนหนึ่งขึ้นหลังมา เล่นเอาทุกคนพากันตกตะลึง

นี่มันเกิดอะไรขึ้น ?

ใครกันที่บังอาจกล้าให้ท่านแม่ทัพแบกขึ้นหลัง ?!

นี่มันน่าตกตะลึงมากเกินไปแล้ว !

เมื่อเห็นว่าเหล่าทหารโดยรอบต่างพากันมองเป็นตาเดียว หลิวเซิ่งก็อับอายจนหน้าแดงก่ำ สีหน้าบอกบุญไม่รับเป็นอย่างยิ่ง

แต่จะทำอย่างไรได้เล่า ?

ก็ในเมื่อเขาเป็นคนสร้างเรื่องขึ้นเอง !

ฝ่ายจางฟ่างเองก็สีหน้าย่ำแย่ไม่แพ้กัน เขารีบเข้าไปทักทายคนจากตระกูลเฟิง จากนั้นก็รีบเดินตามหลิวเซิ่งไป

รีบเดินจนไม่กล้าหยุดเดินแม้แต่น้อย รีบพุ่งตรงไปที่กระโจมกลางทัพทันที

เมื่อเข้าสู่กระโจมกลางกองทัพแล้ว

หากเป็นเหมือนกับเมื่อก่อนที่ให้พวกเขาสองคนไปเป็นสายข่าว ก็ถือว่าเป็นอีกเรื่องหนึ่ง

เมื่อได้ยินจางฟ่างตอบเช่นนี้ หลี่จุ่นก็หรี่ตายิ้มทันที

เจิ้นเป่ยอ๋องส่งพวกเจ้ามาเพื่อการใด มีหรือที่ข้าจะไม่รู้ ?

แต่ดูจากปฏิกิริยาและท่าทีของทั้งสองคนในตอนนี้แล้ว หลี่จุ่นเองก็นับว่าพึงพอใจอยู่พอตัว

ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เขาก็ต้องใช้กองทัพเจิ้นเป่ยหนึ่งแสนนายให้เกิดประโยชน์สิ

ในเมื่อพาคนมาส่งถึงที่ขนาดนี้ แล้วเขาจะปล่อยไว้ให้เสียเปล่าทำไมเล่า

เมื่อคิดได้เช่นนั้นหลี่จุ่นจึงตอบกลับไป

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ขอให้แม่ทัพทั้งสองโปรดเตรียมตัวให้ดี พรุ่งนี้เช้าข้าจะยกทัพไปยังเมืองซินตู ขอแม่ทัพทั้งสองอย่าได้เสียเวลาอีกเลย !”

อะไรนะ ?

ยกทัพไปเมืองซินตูหรือ ?!

จางฟ่างและหลิวเวิ่งหน้าถอดสีในทันทีที่ได้ยิน แม้แต่คำพูดใดก็ม่อาจเอ่ยออกมาได้

เอาเถอะ...

คราวนี้ไร้ซึ่งหนทางให้ถอยกลับจริง ๆ แล้วละ...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน