องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 1325

เมื่อพวกของหลี่จุ่นทั้งสามคนออกจากค่ายทหารกองทัพเจิ้นเป่ยแล้ว

สองอาหลานตระกูลเฟิงก็พากันทำสีหน้าแปลกใจ ในใจเต็มไปด้วยคำถาม

ไม่เห็นจะมีเหตุผลเลยสักนิด

เหตุใดรองแม่ทัพทั้งสองของเจิ้ยเป่ยอ๋องจึงได้กลัวหลี่จุ่นถึงขนาดนี้กันเล่า ?

จะคิดอย่างไรก็ไม่น่าเป็นไปได้เลยแม้แต่น้อย...

อีกฝ่ายเป็นถึงรองแม่ทัพของเจิ้นเป่ยอ๋องที่สูงศักดิ์สง่างามแท้ ๆ

พวกเขาคิดอย่างไรก็คิดไม่ตกสักที

จนเมื่อเดินทางใกล้ถึงประตูเมือง เฟิงเป่าจินก็อดไม่ไหวจนถามออกมา

“ท่านกุนซือ ทำไมพวกเขาถึงกลัวท่านขนาดนี้เล่า ?”

เมื่อเฟิงอู่หังได้ยินก็หันไปมองทางหลี่จุ่นเช่นกัน

หากแต่หลี่จุ่นกลับตอบด้วยรอยยิ้ม

“ก่อนนี้ตอนอยู่ที่ชายแดนเหนือข้าเคยจัดารกับพวกเขาไปแล้ว หากมิใช่ว่ามีคนห้ามเอาไว้ ตอนนั้นข้าหาเหตุผลสักข้อก็ประหารพวกเขาได้ทันที ภายหลังพวกเขาเล่นลูกไม้ตุกติกกับข้า ข้าเลยส่งพวกเขาไปที่ด่านเหิงกู่ พวกเขาถึงได้กลัวข้าขนาดนี้อย่างไรเล่า“

สองอาหลานพากันมองหน้า

คิดไม่ถึงว่าหลี่จุ่นจะเคยรู้จักกับทั้งสองคนนี้มาก่อน แม้หลี่จุ่นจะพูดเหมือนเป็นเรื่องง่าย แต่ดูจากการที่สองคนนั้นกลัวหลี่จุ่นถึงขนาดนี้แล้ว กรงว่าคงไม่ใช่เรื่องง่ายเลยแม้แต่น้อย

ทั้งสองคนกลัวหลี่จุ่นจนเรียกได้ว่ากลัวแทบตายด้วยซ้ำ

แต่จะว่าไป... ครั้งนี้เจิ้นเป่ยอ๋องผิดแผนซะแล้วสิ !

แต่ใครใช้ให้เจิ้นเป่ยอ๋องต้องมาเจอกับสุดแสบอย่างหลี่จุ่นกันล่ะ ?

พอคิดได้เช่นนี้ ทั้งสองคนก็มีความสุขขึ้นมาไม่น้อย

เมื่อกลับถึงภายในเมือง

สองอาหลานก็กลับสู่ค่ายทหารเพื่อจัดการงานทางทหารให้เรียบร้อย ส่วนหลี่จุ่นนั้นตรงไปที่เรือนตระกูลเฟิง

ช่วงสองสามวันมานี้เขามัวแต่ยุ่งอยู่กับงานวิวาห์รวมถึงเรื่องสารพัดที่ตามมา พอกลับมาช่วงสองวันนี้ก็ต้องรักษาให้กับซั่งกวนหว่านเอ๋อร์ จนดูรีบร้อนไปหมด

เมื่อรักษาเสร็จก็กลับออกไปโดยไม่รีรอแม้แต่น้อย

ตอนนี้นับว่าพอจะว่างอยู่บ้าง เลยรีบมาให้เร็วเสียหน่อย

เขาอยากไปกินอาหารกลางวันที่บ้านตระกูลเฟิง

ครั้นเมื่อหลี่จุ่นมาถึงหน้าประตูเรือนแล้วก็เห็นว่าคนใช้ตระกูลเฟิงกำลังทำงานกันให้วุ่น ที่ประตูยังมีโคมไฟแดงที่มีไว้เพื่อฉลองงานมงคลแขวนไว้ด้วย

เล่นเอาเขานิ่งอึ้งไปครู่ใหญ่

นี่มันเกิดอะไรกันขึ้น ?

เหตุใดจึงจัดสถานที่เช่นนี้กันเล่า ?

“พ่อบ้าน ที่บ้านมีเรื่องมงคลอันใดหรือ ?”

หลี่จุ่นนิ่งคิดแล้วขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจนัก เขาอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามออกไป

“ท่านอา เหตุใดจู่ ๆ พี่หลิงจือก็จะหมั้นเล่า ?”

เมื่อได้ยินหลี่จุ่นถามเช่นนั้น เฟิงเป่าหลินก็ถอนหายใจออกมา

“นังหนูหลิงจือเป็นคนตัดสินใจเอง อีกฝ่ายคือลูกชายของราชทูตใต้เท้าจ้าว ก่อนนี้เคยมาสู่ขออยู่หลายครั้ง นังหนูก็ปฏิเสธมาโดยตลอด แต่เมื่อวานเกิดเปลี่ยนใจขึ้นมา”

“ตระกูลเฟิงเรากับตระกูลของใต้เท้าจ้าวไปมาหาสู่กันมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ คนในบ้านก็เลยไม่ได้คัดค้านอะไรกับงานมงคลครั้งนี้ กะว่าจะหมั้นกันไว้ก่อนคืนนี้นี่ละ”

เมื่อได้ยินคำอธิบายจากเฟิงเป่าหลิน หลี่จุ่นก็เสียใจขึ้นมา

เขารู้ดีว่าที่หญิงสาวยอมรับหมั้นครั้งนี้ก็เพราะเขา

คราวนี้เป็นอย่างไรเล่า...

“เฮ้อ...”

เฟิงเป่าหลินทอดถอนใจพลางมองไปยังหลี่จุ่น

“เดิมทีข้ายังคิดว่าพวกเจ้าจะได้ครองคู่กัน แต่คิดไม่ถึงว่าสุดท้ายจะกลายเป็นเช่นนี้ไปเสียดาย โลกนี้ช่างยากต่อการคาดเดาจริง ๆ”

สายตาของหลี่จุ่นในบัดนี้เต็มไปด้วยความสับสนงุนงง แม้แต่ห้วงความคิดภายในใจก็เต็มไปด้วยความวุ่นวายซับซ้อน

เฟิงหลิงจือหาโจทย์ยากมาทดสอบเขาเสียแล้วสิ... !

นี่มันเรื่องชิบหายวายป่วงอะไรกัน...

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน