สุดท้ายหลี่จุ่นก็ไม่กล้าออกไปด้านนอก เขาฟังความคึกคักภายในบ้านอยู่ครู่ใหญ่ก่อนจะหายไปท่ามกลางความมืดมิด
ณ เช้าวันรุ่งขึ้น
เฟิงอู่หังและโจวชิงเป็นผู้นำทัพ นำกองทัพจำนวนสองแสนนายออกเดินทาง
ส่วนจางฟ่างและหลิวเซิ่งก็นำทัพเจิ้นเป่ยหนึ่งแสนนายเดินทัพตามพวกเฟิงอู่หังไปเดินทางออกจากเมืองซ่างหยวนและมุ่งตรงไปยังเมืองซินตู
รวมเป็นกองทัพใหญ่ทั้งหมดสามแสนนาย !
เครื่องยิงที่ทั้งใหญ่และหนัก รวมถึงปืนใหญ่ก็ถูกนำมากับกองทัพด้วย
สถานที่ตั้งทัพที่โจวชิงเลือกนั้นอยู่ห่างจากเมืองซ่างหยวนสองร้อยลี้ แต่ห่างจากเมืองซินตูไม่ถึงสามสิบลี้ !
เดิมทีแคว้นหนานก็เล็กอยู่แล้ว ในสายตาของหลี่จุ่นแล้ว พื้นที่ไร้ผู้ครอบครองเหล่านั้นในแคว้นหนานก้เทียบได้กับอำเภอหนึ่งในโลกอนาคตก็เท่านั้น
“ท่านกุนซือ นี่... จะได้ผลจริงๆ หรือ ?” เฟิงเป่าจินและหลี่จุ่นขี่ม้ามาส่งยังหน้าประตุเมือง
เฟิงเป่าจินมองดูธงของกองทัพใหญ่ที่โบกสะบัดมุ่งตรงไปยังทิศตะวันออก ภายในใจก็รู้สึกไม่มั่นคงขึ้นมา
ถึงอย่างไรฝ่ายตรงข้ามก็เป็นถึงจักรพรรดิอู่
หลี่จุ่นเกลือบมองดูอีกฝ่ายแล้วเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
“ใต้เท้าเฟิงขี้ขลาดขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อใดหรือ ?”
แต่เมื่อลองคิดดูให้ดีแล้ว ที่เฟิงเป่าจินกลัวถึงขนาดนี้ก็นับว่ามีเหตุผล
เพราะเดิมทีเขาก็เป็นเพียงขุนนางสายบุ๋น อีกทั้งเขาเองก็ไม่ได้ติดตามกองทัพเมื่อครั้งที่วิ่งรอบจงหยวนในคราก่อน
ด้วยเหตุนี้จึงยังมีภาพจำเกี่ยวกับทัพของแคว้นหนานหยุดอยู่ในยุคก่อน จะกังวลก็ไม่แปลกนัก
“มิใช่ว่าข้าขี้ขลาดหรอก... เพียงแต่ตอนนี้ฝ่าบาทเองก็ไม่อยู่ นี่...” เฟิงเป่าจินอ้าปากค้าง คิดจะหลุดปากปฏิเสธ
แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ปฏิเสธโดยสิ้นเชิงอยู่ดี
เขาขี้ขลาดไปหน่อยจริง ๆ
หลัก ๆ แล้วก็เป็นเพราะว่าจักรพรรดินีหายตัวไป ภายในใจจึงรู้สึกเป็นกังวลนัก
“ใต้เท้าเฟิงวางใจเถิด”
หลี่จุ่นเอ่ยด้วยรอยยิ้มก่อนจะเบี่ยงประเด็นไป
“เมื่อคืนหลานสาวใต้เท้าเฟิงหมั้นแล้ว ใค้เท้าเฟิงได้ไปร่วมงานหรือไม่ ?”
เฟิงเป่าจินพยักหน้ารับ “ข้าหาเวลาว่างแวะไปดูอยู่ครู่หนึ่ง ลุงเห็นว่าวันนี้มียกทัพจึงมิได้ไป”
หลี่จุ่นนึกใจหายขึ้นมา เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีเหมือนไม่ใส่ใจนัก
“ได้ยินว่าคู่หมายของพี่หลิงจือ... เป็นบุตรชายของราชทูตจ้าวอะไรนั่นน่ะหรือ ? แค่ราชทูตคนหนึ่ง ใต้เท้าเฟิงก็ยินยอมด้วยหรือ ?”
เฟิงเป่าจินเหลือบมองชายหนุ่ม หากแต่ไม่รู้สึกได้ถึงเจตนาของหลี่จุ่น จึงเอ่ยขึ้น
“ถึงใต้เท้าจ้าวจะเป็นแค่ราชทูต เป็นขุนนางระดับหก แต่ก็มีความสนิทสนมกับฝ่าบาทองค์ปัจจุบันอยู่บ้าง เพราะอย่างไรก็แซ่จ้าวเหมือนกัน อีกทั้งได้ยินมาว่าบรรพบุรุษของใต้เท้าจ้าวเป็นลูกพี่ลูกน้องสายห่าง ๆ ของจักรพรรดิ์องค์ก่อน”
เฟิงเป่าจินมีสีหน้าเปลี่ยนไปทันที เขานิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งก่อนจะนึกขึ้นได้ว่าสิ่งที่เขาพูดนั้นดูไม่เหมาะสมเท่าที่ควร จึงรีบปฏิเสธ
“ข้าน้อยมิกล้า !”
หลี่จุ่นส่ายหน้าพลางถอนหายใจเบา ๆ
“เรื่องขุนนาง รอให้ฝ่าบาทกลับมาแล้วค่อยตัดสินใจเถิด”
“ขอรับ !” เฟิงเป่าจินได้ยินเช่นนั้นก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“เอาละใต้เท้าจิน ข้าจะไปบ้านตระกูลเฟิงเสียหน่อย ท่านจะกลับไปด้วยกันหรือไม่ ?” หลี่จุ่นเอ่ยถามขึ้น
เฟิงเป่าจินจึงรีบส่ายหน้าปฏิเสธ “ข้ายังมีงานที่ต้องทำอีก”
หลี่จุ่นจึงขี่ม้าของตนเองตรงไปยังบ้านตระกูลเฟิง
แต่กลายเป็นว่าเมื่อเดินทางมาถึงหน้าประตูก็เห็นเฟิงหลิงหวนสวมชุดฝ้ายสีแดงนั่งหงุดหงิดอยู่บนประตูทางเข้านั้น
ครั้นเมื่อเห็นว่าเขากลับมา เด็กสาวก็ทำแค่เพียงเหลือบมองนิ่ง ๆ จากนั้นก็นั่งเหม่อ
หลี่จุ่นมองด้วยความแปลกใจ จึงลงจากม้าแล้วเดินเข้าไปถาม
“นี่เสี่ยวหวนของเรามิใช่หรือ ? เหตุใดวันนี้ดูอารมณ์ไม่ค่อยดีเลยเล่า ?”
เด็กสาวเอ่ยตอบขึ้นอย่างเต็มเสียง
“ใช่ ตอนนี้คุณหนูเช่นข้าอารมณ์ไม่ดีเป็นอย่างมาก !”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
ปลดล็อคแล้วอ่านไม่ได้...
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...