รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเฟิงหลิงจือ
นางพยักหน้าและพูดว่า
“ขอบคุณนะ รีบเข้ามาเถิด ข้ากำลังจะทานอาหารเช้าพอดี”
ไม่ทันรอหลี่จุ่นเอื้อยเอ่ยใด ๆ นางก็หันหลังและเดินไปเสียแล้ว
หลี่จุ่นขมวดคิ้วเล็กน้อย
คำพูดคำจาของเฟิงหลิงจือวันนี้ ไม่สงวนท่าทีเช่นเมื่อก่อนแล้ว ดูเปิดกว้างและผ่อนคลายลงอย่างเห็นได้ชัด
เกิดอะไรขึ้นงั้นหรือ?
หลี่จุ่นคลำคางของเขา เดินตามเข้าไปทั้งที่ยังงงงวยเล็กน้อย
เขารู้สึกว่าเฟิงหลิงจือดูเหมือนจะเปลี่ยนไปในชั่วข้ามคืน
หรืออาจเรียกได้ว่า...เป็นการยกระดับทางจิตใจ?
จะพูดอย่างนั้นก็ได้
ในใจของเขารู้สึกทุกข์อย่างบอกไม่ถูก
เฟิงหลิงจือไม่ได้สงวนท่าทีเมื่ออยู่ต่อหน้าตัวเองแล้ว มันหมายความว่าอย่างไร?
อาจจะหมายความได้ว่าความรู้สึกที่มีต่อตัวเองนั้นเปลี่ยนไปแล้ว
หากเป็นเช่นนั้นก็คงแย่...
อาหารเช้ามื้อนี้ดูแปลกไปเล็กน้อย
บนโต๊ะอาหาร ทุกคนล้วนตะลึงงัน ไม่กล้าพูดอะไร
ก้มหน้าก้มตาตั้งใจกินอย่างเดียว
แม้แต่สาวน้อยเฟิงหลิงหวน นอกจากเอาตากลมโตดวงน้อยเหลือบมองพี่สาวของตัวเองและหลี่จุ่นเป็นครั้งคราวแล้ว ก็ไม่กล้าพูดอะไรเช่นกัน
ทั้งครอบครัวไม่ได้พูดคุยอะไรกันมากนัก แต่เฟิงหลิงจือกลับแสดงท่าทางของบุตรสาวแห่งตระกูลผู้ลากมากดี แสดงให้เห็นถึงความประพฤติตัวอันเหมาะสมและมีน้ำใจ
แม้ว่านางจะไม่ได้เอื้อนเอ่ยอันใดนัก แต่ทวงท่าที่สง่างามเหลือล้นของนาง และทุกอิริยาบถล้วนดึงดูดทุกคน
แม้แต่หลี่จุ่นเองก็ยังตกตะลึงเมื่อได้เห็น
เฟิงหลิงจือในเมื่อก่อน หากพบผู้อื่นข้างนอกจะมีท่าทางเขินอายเล็กน้อย
นางมักจะพูดน้อย พร้อมสำรวมกิริยามารยาทอย่างเห็นได้ชัด ไม่กล้าทำอะไรมาก
เนื่องจากใบหน้ากระในอดีตของนางทำให้นางรู้สึกด้อยค่า และส่งผลให้นางกลายเป็นคนที่หวาดกลัวคนแปลกหน้าและเก็บตัว
โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่ออยู่ต่อหน้าหลี่จุ่น เห็นได้ชัดจนทุกคนต่างรับรู้ได้ ทว่าวันนี้กลับไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว
นี่มันแปลกยิ่งนัก
หลังจากกินอาหารเช้าเสร็จ ยัยหนูน้อยลากหลี่จุ่นไปข้าง ๆ และอดไม่ได้ที่จะถามว่า
“พี่จุ่น พี่สาวเป็นอะไรไป? ข้ารู้สึกว่าพี่เหมือนจะเปลี่ยนไปนะ...”
หลี่เจิ้งมีสีหน้าสงบนิ่ง เดินขึ้นไปนั่งบนบัลลังก์ ยกมือขึ้นแล้วกล่าวว่า
“เหล่าพวกพ้องของข้า ยืนขึ้นเถิด!”
ทุกคนยืนขึ้น
ทว่ากลับมีคนที่ไม่ได้ลุกขึ้น คุกเข่าลงที่พื้นอยู่อย่างนั้น
คนคนนั้นคือเจ้ากรมกลาโหม เขาตะโกนเสียงดังว่า
“กราบทูลฝ่าบาท มีเรื่องร้ายเกิดขึ้นพ่ะย่ะค่ะ! ทัพแคว้นหนานได้เข้ามาบุกซินตูของพวกเรา และเคลื่อนทัพไปยังภูเขาเทียนเหยี่ยนเรียบร้อยแล้ว โปรดฝ่าบาทส่งกองกำลังไปโดยเร็ว ปราบศัตรู แสดงอำนาจของราชวงศ์อู่ของพวกเราออกมา!”
ทันทีที่เจ้ากรมกลาโหมท่านนี้เอ่ยปาก ทุกคนต่างก็ทยอยพากันคุกเข่าลงและร้องขอให้หลี่เจิ้งส่งกองทัพออกไป!
หลี่จุ่นยังคงมีสีหน้าสงบนิ่งเช่นเดิม มองทุกคนที่คุกเข่า มองอวี่เหวินจิ้งและพูดว่า
“ไท่ซือ เรื่องนี้ท่านมีความเห็นเป็นเช่นไร?”
อวี่เหวินจิ้งมีสีหน้าไม่ค่อยดีนัก ทว่าเมื่อหลี่เจิ้งเอ่ยปากถาม แน่นอนว่าเขาไม่สามารถยืนนิ่งเฉยได้ เขาครุ่นคิดสักพักและกล่าวว่า
“กราบทูลฝ่าบาท ศัตรูยังไม่ลงมือโจมตี เนื่องจากเหตุการณ์ยังไม่แน่ชัด หากเรารีบส่งกองกำลังเข้าโจมตีตอนนี้อาจส่งผลเสียต่อกองทัพของเราได้!”
“ข้าน้อยเห็นว่า ให้เน้นไปยังการป้องกันก่อนพ่ะย่ะค่ะ!”
เมื่อเจ้ากรมกลาโหมได้ยินดังนั้นและเห็นว่าหลี่เจิ้งไม่ได้เอ่ยปากพูดอันใด เขาจึงรีบพูดขึ้นทันทีว่า
“ฝ่าบาท ข้าน้อยไม่เห็นด้วยกับคำแนะนำของไท่ซือพ่ะย่ะค่ะ กองทัพของเราควรจะโจมตีตอนนี้เพื่อทำให้ศัตรูหวาดกลัว! มิเช่นนั้นหากทัพแคว้นฉีจากทางเหนือเดินหน้าลงทางใต้ เราจะถูกโจมตีจากทั้งสองฝั่ง ทำให้กองทัพของพวกเราเสียเปรียบอย่างมากพ่ะย่ะค่ะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
ปลดล็อคแล้วอ่านไม่ได้...
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...