หลี่เจิ้งกลับมายังห้องทรงพระอักษร ด้วยอาการหน้าดำคร่ำเครียด
หวังเหลียนไม่กล้าพูดอะไร
ผ่านไปไม่นาน อวี่เหวินจิ้งก็มา
เขาให้คนรายงานอยู่ข้างนอก
“ให้ไท่ซือเข้ามา”
หลี่เจิ้งเอ่ยปาก โดยยังคงขมวดคิ้วอยู่อย่างนั้น
เมื่อได้ยินดังนั้น อวี่เหวินจิ้งจึงค่อย ๆ ก้มศีรษะและก้าวเข้าไปในห้องทรงพระอักษร จากนั้นก็กล่าวทำความเคารพ
“ถวายบังคมฝ่าบาท!”
หลี่เจิ้งถามเข้าประเด็นทันที “ไท่ซือ ตอนนี้กองทัพศัตรูอยู่ใกล้แค่เอื้อม หากสถานการณ์ร้ายแรงมากขึ้น ควรทำเช่นไร?”
อวี่เหวินจิ้งมองดูท่าทางของหลี่เจิ้ง กัดฟันกรอด ในที่สุดก็พูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า
“ทำตามแผน ถอยลงทะเลพ่ะย่ะค่ะ!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น แววตาของหลี่เจิ้งก็มืดมัว พร้อมพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า
“ข้าต้องทำตามแผนนั่นจริง ๆ น่ะหรือ?! ข้าถอยจากเมืองหลวงมาที่นี่ ตอนนี้ยังต้องล่าถอยจากที่นี่อีก ข้าเคยอับอายขายหน้าเช่นนี้มาก่อนหรือไม่?!”
หลี่เจิ้งโมโหโกรธาเต็มประดา ทำให้อวี่เหวินจิ้งและหวังเหยี่ยนไม่กล้าเอ่ยปากพูด
การถอยจากเมืองหลวงไปซินตู จริง ๆ แล้วเป็นแผนที่ยอดเยี่ยม
แต่ไม่คิดเลยว่า แผนจะไม่ราบรื่นเป็นอย่างยิ่ง!
กองทัพพ่ายแพ้และตกไปอยู่ในเงื้อมมือของศัตรู!
กลับกลายเป็นความล้มเหลวโดยสิ้นเชิง!
ดังนั้น...จึงทำได้เพียงแค่ถอยลงทะเล!
ที่จริงแล้ว เมื่อหลายปีก่อนราชวงศ์อู่พบว่ามีเกาะแห่งหนึ่ง ณ ทะเลทางตอนใต้ของแคว้นหนาน เมื่อส่งคนไปสำรวจตรวจสอบ ก็พบว่าเป็นสถานที่ที่อุดมไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของคนในแคว้นได้เป็นอย่างดี
ฉะนั้น เขาจึงแอบควบคุมขุนนางบางส่วนเอาไว้นานแล้ว หลังจากการก่อสร้างอย่างลับ ๆ จนตอนนี้ได้กลายเป็นอ่าวแคว้นหนานซึ่งมีเรือขนาดใหญ่จำนวนไม่น้อยจอดเทียบท่าอยู่แล้ว!
อันที่จริงนี่เป็นที่สุดท้ายที่จะปกป้องพวกเราหรือพึ่งพาได้แล้ว ทว่าตอนนี้เราอยู่ในซินตูต่อไปไม่ได้ ทางเดียวที่จะทำได้คือถอยออกมา
ไปฟื้นฟูเศรษฐกิจและสร้างอนาคตอันสดใส!
หลังจากระเบิดอารมณ์ไปแล้ว ในที่สุดหลี่เจิ้งก็ค่อย ๆ สงบนิ่งลง และพูดด้วยใบหน้าเคร่งขรึมว่า
“ไท่ซือ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ข้าฝากให้เจ้าจัดการด้วยแล้วกัน”
“พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท!”
อวี่เหวินจิ้งพยักหน้าทันที
...
หญิงทั้งสองเปิดประตูเข้าไป จากนั้นก็เห็นว่าลานบ้านนั้นถูกจัดการอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ไร้ซึ่งร่องรอยของวัชพืชที่ตายแล้ว นั่นทำให้หญิงทั้งสองคนรู้สึกแปลกใจขึ้นมาทันที
“ฝ่าบาท ดูเหมือนว่าจะมีคนเคยมาที่นี่นะเพคะ!” ฉิงเอ๋อร์ตะโกนด้วยความตกใจ
อาจเป็นเพราะตกใจเสียงของหญิงทั้งสองคน ทางเดินพลันมีคนคนหนึ่งวิ่งออกมา
ขาเรียวยาวสง่างาม เป็นสิ่งแรกที่ดึงดูดสายตาของหญิงทั้งสอง
จากนั้นก็เห็นผู้หญิงที่แต่งตัวดูดีมีภูมิฐานพร้อมกับผมมวยหางม้าสูงคนหนึ่ง นางมีใบหน้างดงามละเอียดอ่อนทว่ากลับดูซีดเผือดเล็กน้อย
“แม่นางเสิ่นจิงหง?!”
“องค์หญิงใหญ่?!”
ฉิงเอ๋อร์และอีกฝ่ายร้องตะโกนขึ้นมาพร้อมกัน
ใช่แล้ว!
ผู้หญิงที่ปรากฏตัวที่ทางเดินมิใช่ผู้ใดอื่นนอกจากเสิ่นจิงหง!
หญิงทั้งสามมองหน้าอีกฝ่ายด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด ไม่คิดเลยจริง ๆ ว่าจะมาพบเจอกันในที่แบบนี้!
เมื่อเสิ่นจิงหงสังเกตไปเห็นท้องอันใหญ่โตของน่าหลันเหวิน ก็รู้สึกประหลาดใจในทันที
ไม่พบองค์หญิงใหญ่เสียนาน ที่แท้ก็ออกเรือนแล้วงั้นหรือ?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
ปลดล็อคแล้วอ่านไม่ได้...
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...