องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 1346

หลี่เจิ้งพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม แล้วพูดว่า

“อย่างที่เจ้ารู้ มารดาของเจ้าก็คือหยางเจินไฉเหรินในวังในขณะนั้น”

หลี่จุ่นอึ้งไปในทันใด ถามว่า

“เช่นนั้น เรื่องราวทั้งหมดก็เป็นดังที่องค์รัชทายาทเคยกล่าวไว้หรือน่ะสิ”

หลี่เจิ้งส่ายหน้าก่อนพูดว่า

“มิใช่ความจริงไปเสียทั้งหมด หยางอวี้เสียชีวิตไปเมื่อปีที่แล้ว เสียชีวิตเพราะชราภาพ ส่วนหลี่ตังเทียนก็ยังมีชีวิตอยู่ ข้าไม่ได้ฆ่าเขา”

หลี่จุ่นอึ้งไปในทันใด และใบหน้าก็เปื้อนไปด้วยความประหลาดใจพลางมองหลี่เจิ้งอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง

เมื่อหลี่เจิ้งเห็นสีหน้าของหลี่จุ่นก็พลันหัวเราะแล้วพูดว่า

“เห็นทียังมีเรื่องที่เจ้ายังไม่รู้อีกมาก ไม่เพียงแค่หลี่ตังเทียนเท่านั้นที่ยังมีชีวิตอยู่ ท่านปู่ของเจ้าก็ยังมีชีวิตอยู่เช่นกัน”

หา?!

หลี่จุ่นตกใจจนอ้าปากค้าง

“ท่านหลอกข้า?” หลี่จุ่นพูดเสียงแข็ง

หลี่ตังเทียนยังมีชีวิตอยู่?

จักรพรรดิเกาจู่ก็ยังมีชีวิตอยู่?

เจ้าล้อข้าเล่นหรือ

หลี่ตังเทียนยังมีชีวิตอยู่… ยังพอเชื่อหน่อย แต่เกาจู่เป็นปีศาจเฒ่าหรือ

ถึงยังมีชีวิตอยู่?

เป็นไปไม่ได้

หลี่เจิ้งหัวเราะอย่างมีความสุขมาก แล้วพูดว่า

“ข้าไม่อยากหลอกเจ้า แต่ถึงอย่างไรก็หลอกเจ้าไม่ได้อยู่ดี“

หลี่จุ่นจ้องมองหลี่เจิ้ง หวังว่าจะพอมองอะไรออกจากใบหน้าของเขา ทว่ากลับเห็นเห็นเพียงรอยยิ้ม

เขาจึงทำได้เพียงบังคับให้ตัวเองใจเย็นลง จากนั้นถามต่อว่า

“ในเมื่อหยางอวี้เสียชีวิตไปเมื่อปีที่แล้ว เหตุใดก่อนหน้านี้นางจึงไม่เคยมาพบข้าเลย”

เขาสามารถสงบสติอารมณ์ได้อย่างรวดเร็วเช่นนี้ทำให้หลี่เจิ้งพึงพอใจอย่างมาก

หลี่เจิ้งพูดด้วยรอยยิ้มว่า

“เพราะข้าหักขาทั้งสองข้างของนางเพื่อเป็นการลงโทษที่นางทรยศข้า ปันใจไปรักหลี่ตังเทียน ด้วยเหตุนี้นางจึงไม่อาจไปพบเจ้าได้”

ทว่าในสายตาของหลี่จุ่น รอยยิ้มนี้กลับกลายเป็นสิ่งที่น่ากลัวมาก

“อีกอย่าง”

หลี่เจิ้งพูดต่อว่า “จริงๆ แล้วหยางจงเป็นลุงของเจ้า เจ้าควรจะรู้ไว้ว่าเขามีน้องสาวหนึ่งคน เขาจะกลับไปทำพิธีเซ่นไหวบรรพบุรุษในฤดูวสันต์ของทุกปี และเมื่อต้นปีนี้เขาคงจะเคยเล่าว่าน้องสาวของเขาเสียชีวิตแล้ว แม้ว่าหยางอวี้จะไม่เคยมาเยี่ยมเจ้าด้วยตัวเอง แต่นางก็รู้เรื่องราวของเจ้าทุกอย่าง ฉะนั้นเจ้าไม่ต้องเสียใจไป”

หลี่จุ่นตัวสั่นในทันใด

หัวใจของเขาในเวลานี้ราวกับถูกใครบางคนชกอย่างแรง เขาจ้องมองหลี่เจิ้งอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง

“เก่งเหี้ย? เจ้าด่าข้ารึ แต่ข้าไม่โกรธหรอกนะ ข้าเพียงรู้สึกมีความสุข” หลี่เจิ้งพูดด้วยรอยยิ้ม

“หาไม่ ข้าไม่ได้ด่าท่าน ข้ากำลังชมท่านต่างหาก ข้าไม่เคยเห็นผู้ใดที่เก่งเหี้ยๆ เช่นท่านมาก่อน”

หลี่จุ่นด่าด้วยรอยยิ้ม

แต่น้ำตากลับค่อยๆ ไหลออกมาจากหางตา

ทักษะการโต้ตอบของเขา… ช่างห่วยแตกมากจริงๆ

ห่วยแตกถึงขั้นสุด

ไม่คิดไม่ฝันว่าชีวิตของเขาจะเต็มไปด้วยโศกนาฏกรรมเช่นนี้

พ่อของเขาฆ่าแม่ของเขา แล้วยังฆ่าน้าและลุงของเขา… นี่มันเก่งเหี้ยๆ !

“ข้าดีใจมาก ข้าน้อมรับคำชมจากเจ้า” หลี่เจิ้งครุ่นคิดก่อนจะพยักหน้าช้าๆ

ทันใดนั้นหลี่จุ่นพลันลุกขึ้นยืน

ความเกลียดชังในใจที่ไม่รู้ว่าเป็นของเจ้าของร่างเดิมหรือตัวเขาเองลุกลามอย่างรวดเร็วภายในชั่วพริบตาจนทำให้รู้สึกเย็นยะเยือกไปทั่งร่างกาย

หันหลังกลับแล้วเดินจากไป

จากนั้นเสียงเย็นชาสุดขีดก็ดังขึ้นในสายลม

“หลี่เจิ้ง ข้าให้เวลาท่านสามวัน... จัดการเรื่องในวาระสุดท้าย อีกสามวัน ท่านให้คนนำหัวของท่าน... ไปส่งที่กำแพงเมือง หาไม่... ข้าจะมารับด้วยตัวเอง”

ทันใดนั้นจู่ๆ ลมหนาวพลันพัดแรง หิมะแรกของฤดูเหมันต์... ในที่สุดก็ตกลงสู่โลกมนุษย์

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน