รถม้าหนึ่งคันวิ่งไปตามถนนหลวงอย่างรวดเร็ว
ผ่านไปไม่นานรถม้าคันนั้นก็วิ่งเข้าสู่อำเภอผิงอัน
รถม้าค่อยๆ หยุดลงข้างถนน จากนั้นหลินกงกงคนขับรถม้าก็รีบวางม้านั่งลงเพื่อให้น่าหลันเหวินและฉิงเอ๋อร์ลงจากเกี้ยว
น่าหลันเหวินหน้าแดงระเรื่อ ความเศร้าโศกและความหดหู่ใจในอดีตได้หายไปจนหมดสิ้น
เพราะ... ผู้ชายของนางยังมีชีวิตอยู่
พ่อของลูกยังมีชีวิตอยู่ เพียงแค่เขายังมีชีวิตอยู่โลกนี้ก็จะสวยงาม
“ฉิงเอ๋อร์ เรากินอะไรง่ายๆ กันก่อน แล้วรีบออกเดินทางลงใต้กันเถอะ” น่าหลันเหวินพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
ฉิงเอ๋อร์รับรู้ถึงความตื่นเต้นและความสุขที่ไม่อาจซ่อนเร้นในใจของน่าหลันเหวิน และพลอยดีใจไปด้วย
“เจ้าค่ะ เรากินอะไรง่ายๆ กันก่อน” ฉิงเอ๋อร์พูดด้วยรอยยิ้ม
หลินกงกงก็พลอยดีใจไปด้วย มองดูสองสาวเดินเข้าไปในร้านค้าที่อยู่ใกล้ๆ
ส่วนเขารออยู่ที่รถม้าเพื่อเฝ้ารถม้า
ทว่า
ผ่านไปสักพัก นกพิราบส่งสารที่บินร่อนอยู่บนท้องฟ้ามาสักพักก็ค่อยๆ บินโฉบลงมาเกาะบนรถม้า
หลินกงกงตกตะลึงทันที รีบเดินไปจับนกพิราบตัวนั้นไว้ จากนั้นดึงจดหมายที่ผูกติดกับนกพิราบออก พอเขาเปิดอ่านหน้าก็เปลี่ยนสีทันที แล้วรีบวิ่งเข้าไปในร้าน
สิบห้านาทีต่อมา
รถม้าวิ่งลงทางใต้ด้วยความเร็วสูง
น่าหลันเหวินที่อยู่ในเกี้ยวมีสีหน้าซีดเผือด ฉิงเอ๋อร์ก็ไม่แพ้กัน
ข่าวส่งมาว่ากองทัพแคว้นหนานได้บุกยึดซินตู จักรพรรดิอู่ทรงนำทัพหนีไปทางใต้ แต่ย้อนกลับมาอีกครั้ง
จากนั้นจักรพรรดิอู่ได้เจรจากับกุนซือของกองทัพแคว้นหนานที่นอกเมือง
กุนซือของกองทัพแคว้นหนานคือใคร
คือหลี่จุ่น!
ในเวลานี้น่าหลันเหวินมีสีหน้าไม่สู้ดีอย่างมาก
ในระหว่างที่เสด็จพ่อและน้องหกเจรจากัน เสด็จพ่อย่อมต้องหาทางยั่วยุน้องหกเป็นแน่ จากนั้นทำให้น้องหกปลิดชีพเขาด้วยมือของเขาเอง
นี่เป็นความปรารถนาของเสด็จพ่อ
เป็นความปรารถนาที่มีมาเนิ่นนานแล้วของเขา
เพียงแค่น้องหกฆ่าเขา น้องหกก็จะกู่ไม่กลับ ตัดขาดญาติมิตรโดยสิ้นเชิง... นี่คือจุดประสงค์ของเสด็จพ่อ
นางจำเป็นต้องกลับให้ถึงแคว้นหนานก่อนที่พวกเขาจะรบราฆ่าฟันกันเอง
................
ซินตู
ที่จวนชิ่งหวัง
ในฐานะที่หลี่จุ่นเป็นพระสวามีของจักรพรรดินี และในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุดของกองทัพแคว้นหนานในตอนนี้ การที่เขาจะเข้าพักในวังก็ไม่มีปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น
ทว่าหลี่จุ่นกลับไม่ทำเช่นนั้น แต่ไปยึดครองจวนชิ่งหวัง
อ๋องของแคว้นหนานมีเพียงไม่กี่คน เมื่อหลายปีก่อนชิ่งหวังเคยได้รับพระราชทานจวนชิ่งหวังแห่งนี้ แต่เขาผู้นั้นได้ถึงแก่กรรมไปนานแล้ว และไม่มีทายาทสืบทอดตำแหน่งต่อจากเขา จวนแห่งนี้จึงถูกทางการยึดคืนและปล่อยว่างชั่วคราว
ทันใดนั้นเขาพลันนึกถึงผู้นำของลัทธิขงจื๊อ
หากเดาไม่ผิด คนผู้นั้นน่าจะเป็นจักรพรรดิเกาจู่ ซึ่งก็คือท่านปู่จอมปลอมของเขานั่นเอง
มีเพียงเขาเท่านั้นที่มีอายุมากขนาดนี้แล้ว แต่ยังแข็งแรงขนาดนี้
มิน่าล่ะเมื่อก่อนตอนเห็นสองคนนั้นจากลัทธิขงจื๊อเขาจึงมักเกิดความรู้สึกคุ้นเคย นั่นก็เพราะว่าเคยเห็นภาพเหมือนของพวกเขามาก่อน
และไม่ใช่แค่ครั้งเดียว จะไม่รู้สึกคุ้นเคยได้อย่างไร
“ท่านกุนซือ แม่นางปันมาขอเข้าพบขอรับ”
ซือคงซั่วหัวหน้าองครักษ์ของหลี่จุ่นเดินเข้ามาในสวนหลังจวน จากนั้นกล่าวรายงานเขาด้วยความเคารพ
ปันหมิ่น?
หลี่จุ่นมีสีหน้างุนงงเล็กน้อย รีบพูดว่า
“ให้นางเข้ามา”
“ขอรับ” ซือคงซั่วรีบถอยกลับออกไปทันที
ผ่านไปไม่นาน ปันหมิ่นในชุดขาวราวหิมะก็เดินมาถึงริมสระ แล้วยืนมองดูน้ำอยู่ริมสระน้ำกับหลี่จุ่น
ความขาวของนางเป็นสีเดียวกับอากาศจนแยกไม่ออกว่าใครเป็นใคร
“ท่านพี่ปันมาที่นี่ได้อย่างไร เกิดอะไรขึ้นกับผู้นำของท่านหรือเปล่า” หลี่จุ่นพูดด้วยรอยยิ้ม
ปันหมิ่นเปล่งเสียงเชอะก่อนจะพูดว่า
“หากไม่มีธุระ ข้าก็มาหาเจ้าไม่ได้งั้นหรือ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
ปลดล็อคแล้วอ่านไม่ได้...
เนื้อเรื่องสนุกคับ...แต่ก็รำคาญพระเอกอยุู่พอสมควรเจ้าชู้เกินกินพื้นที่หักเหลี่ยมเฉือนคมเยอะไปหน่อยน่าจะเป็นทุกเรื่องมั้งที่ผู้ชายเดินเรื่อง...
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...