องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 1348

หลี่จุ่นอึ้งไปชั่วขณะ ก่อนจะชำเลืองมองหน้าอกใหญ่ของปันหมิ่นพร้อมแสยะยิ้ม

พลางคิดในใจว่าผู้หญิงนมใหญ่ แต่ไร้สมองคนนี้มาหาข้าเพื่อร่วมหลับนอนกับเขา?

“ท่าน ท่านมัวมองอะไรอยู่?”

เมื่อปันหมิ่นพบว่าหลี่จุ่นกำลังมองหน้าอกของนางหน้าก็เปลี่ยนสีทันที และรีบเอามือปิดอกอย่างเร็วไว จากนั้นด่าด้วยความโกรธว่า “ไอ้บ้าตัณหากลับ”

หลี่จุ่นพูดอย่างหน้าตายว่า

“ก็ท่านมายืนวนเวียนอยู่ตรงหน้าข้า เหตุใดข้าจะมองไม่ได้ล่ะ”

“ท่าน” ปันหมิ่นทั้งโกรธและเขินอายในทันที

“รีบพูดมาเถอะว่ามีเรื่องอันใด หากไม่มีก็กลับไปเสีย ข้าไม่มีอารมณ์มาล้อเล่นกับท่าน” หลี่จุ่นพูด

ปันหมิ่นเปล่งเสียงเชอะก่อนจะพูดว่า

“ผู้นำข้าบอกว่าต้องการสนทนากับท่านเป็นการส่วนตัว จึงขอเชิญท่านไปพบกับเขาที่นอกเมือง”

หลี่จุ่นแสยะยิ้มก่อนพูดว่า

“มีเรื่องอันใดต้องคุย อยากคุยก็ให้เขาเข้ามาเอง”

“ท่าน!”

ปันหมิ่นรู้สึกโมโหกับท่าทีของหลี่จุ่นที่มีต่อนางทันที และพูดเสียงดังด้วยความโกรธว่า

“ผู้นำข้าหาสิ่งที่ท่านต้องการได้แล้ว ท่านจะไปพบเขาหรือไม่ก็เรื่องของท่าน หากไป คืนนี้ยามไห้ข้าจะรอท่านอยู่ที่ประตูซีเฉิง เลยเวลาไม่รอ เชอะ”

พูดจบก็เดินเชิดหน้าจากไปด้วยความโกรธ

หลี่จุ่นรู้สึกใจสั่นเล็กน้อย

เห็นทีลัทธิขงจื๊อจะมียาสมุนไพรที่เขาต้องการอยู่จริงๆ

งั้นก็ต้องไปสิ

แต่เหตุใดถึงต้องพบเขาเป็นการส่วนตัวล่ะ

หรือว่าคิดจะทำร้ายเขา?

แม้จะมีความเป็นไปได้สูงว่าคนผู้นั้นคือท่านปู่จอมปลอมของเขา แต่เมื่อนึกถึงความโหดร้ายที่หลี่เจิ้งเคยกระทำกับเขา ตอนนี้เขาจึงไม่กล้าเชื่อในสายสัมพันธ์ทางสายเลือดอีกต่อไป ไม่เช่นนั้นเขาอาจจะตายโดยไม่รู้ตัว

แต่จะไม่ไปก็ไม่ได้น่ะสิ

ช่างทำให้คนหนักใจเสียจริง

หลังจากขบคิดอยู่พักใหญ่ หลี่จุ่นก็ไปพบเฟิงอู่หังเพื่อขอคำปรึกษา

เขาเล่าเรื่องราวให้เฟิงอู่หังฟังทันทีที่เจอหน้า เฟิงอู่หังพูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียดทันทีว่า

“เจ้าหนุ่ม ข้าจะไปกับเจ้าด้วย หากไม่ยอมให้ข้าไปด้วยก็อย่าไปเลย”

ตอนนี้หลี่จุ่นเป็นคนสำคัญของกองทัพแคว้นหนาน จะพลาดพลั้งไม่ได้เด็ดขาด เฟิงอู่หังจึงไม่กล้าปล่อยให้หลี่จุ่นออกเดินทางเพียงลำพัง

หลี่จุ่นครุ่นคิดก่อนพูดว่า

“ดี”

ตกเย็น

หลี่จุ่นและเฟิงอู่หังแต่งตัวเรียบง่ายแล้วควบม้าออกจากเมือง จากนั้นก็มองเห็นรถม้าของปันหมิ่นรออยู่ที่นั่นก่อนแล้ว

หลี่จุ่นสบตากับเฟิงอู่หังแวบหนึ่งแล้วรีบลงจากม้า

ปันหมิ่นพาทั้งสองคนเดินเข้าไปในเรือนรับรองโดยมีคนสองคนของลัทธิขงจื๊อกำลังรออยู่ในห้องโถงใหญ่ของเรือนรับรอง

“เซียนเซิง ท่านกุนซือของกองทัพแคว้นหนานมาถึงแล้วเจ้าค่ะ...”

ปันหมิ่นก้มหน้าพร้อมกล่าวรายงานด้วยความเคารพ

เมื่อเห็นเฟิงอู่หังก็มาด้วย เขาทั้งสองก็รู้สึกประหลาดใจในทันที

ผู้นำของลัทธิขงจื๊อพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า

“ท่านกุนซือ ข้าให้มาเพียงลำพังมิใช่หรือ”

หลี่จุ่นพูดเตือนเฟิงอู่หังเบาๆ ว่า

“ท่านอาวุโส คนผู้นี้อาจมีวรยุทธ์สูสีกับฝ่าบาท ท่านจงระวังตัวไว้ให้ดี”

เฟิงอู่หังเบิกตากว้างทันทีที่เห็นผู้นำของลัทธิขงจื๊อและพูดโดยไม่ต้องรอให้เขาเตือนว่า

“คนผู้นี้เก่งกว่าฝ่าบาท”

เชี่ย!

หลี่จุ่นลอบด่าในใจทันที จากนั้นเดินเข้าไปด้วยรอยยิ้ม แล้วพูดว่า

“ในเมื่อมาแล้ว เซียนเซิงผู้เฒ่าจะสนใจไปใยกัน”

ผู้นำของลัทธิขงจื๊อส่ายหน้าเบาๆ จากนั้นพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจว่า

“เช่นนี้ก็ขอให้ท่านจอมทัพเฟิงคอยอยู่ข้างนอกก่อน เสี่ยวหมิ่น ต้อนรับท่านจอมทัพเฟิงให้ดีๆ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน