องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 1373

หากจะให้ทั้งสี่แคว้นสละอำนาจเดิมและรวมเป็นหนึ่งเดียวในตอนนี้เป็นเรื่องที่ยากมาก

เกรงว่าหากวันนี้รวมกัน พรุ่งนี้ต้องต่อสู้กันเป็นแน่

ด้วยเหตุนี้จึงต้องค่อยเป็นค่อยไป

เมื่อถึงเวลาเขาค่อยออกนโยบายต่างๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อกระตุ้นให้แต่ละแคว้นรวมตัวกัน และผนวกเป็นหนึ่งเดียวในท้ายที่สุด เมื่อถึงเวลานั้นก็จะไม่มีการแบ่งแคว้นอะไรทั้งนั้น

ไม่มีแล้ว

ทุกคนล้วนเป็นคนจักรวรรดิกลาง

อืม ก่อนอื่น หลี่จุ่นได้คิดนโยบายแรกไว้เรียบร้อยแล้ว

นั่นก็คือสนับสนุนให้แต่งงานข้ามแคว้น อย่างเช่นการแต่งงานระหว่างคนจากสองแคว้นจะมีผลดีอะไรบ้าง

กำจัดส่วนน้อยก่อน เมื่อใจข้ามีเจ้า ใจเจ้ามีข้า จากนั้นก็จะมุ่งสู่ความเป็นหนึ่งเดียว

เมื่อถึงเวลานั้นเขายังต้องเปลี่ยนชื่อจักรวรรดิ ชื่อจักรวรรดิพันธมิตรมันเชยเกินไป มันต้องต้าฉิน ต้าโจว ต้าฮั่น ต้าซง อะไรทำนองนั้น

“นอกจากนี้ ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง นั่นก็คือการตั้งหกกรมของแคว้นหนานขึ้นมาใหม่ รวมถึงการสถาปนาฮ่องเต้องค์ใหม่ของราชวงศ์อู่”

หลี่จุ่นกล่าว

อวี่เหวินจิ้งรีบกล่าวว่า

“โปรดมหาจักรพรรดิรับตำแหน่งฮ่องเต้องค์ใหม่ของราชวงศ์อู่พ่ะย่ะค่ะ”

นี่เป็นคำสั่งที่หลี่เจิ้งได้กำชับเขาก่อนมา

ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องให้หลี่จุ่นเป็นฮ่องเต้ของราชวงศ์อู่ให้ได้

ทว่า

หลี่จุ่นกลับส่ายหน้า แล้วกล่าวว่า

“ข้าไม่เหมาะสมที่จะเป็นฮ่องเต้ของราชวงศ์อู่ จำเป็นต้องแต่งตั้งฮ่องเต้องค์ใหม่ เพื่อบริหารราชการราชวงศ์อู่และปกครองมณฑลที่เหลือ ไท่ซือ ท่านเห็ฯว่าผู้ใดเหมาะสมหรือไม่”

“เอ่อ...”

อวี่เหวินจิ้งมีสีหนักใจในทันที

ตอนนี้หลี่จุ่นเป็นผู้นำของจงหยวน จำเป็นต้องอยู่ประจำที่จงตู

แต่ศูนย์กลางอำนาจของราชวงศ์อู่ต้องย้ายกลับไปที่เมืองหลวงของราชวงศ์อู่ หลี่จุ่นจึงไม่เหมาะสมจริงๆ

ยิ่งไปกว่านั้น หลี่เจิ้งก็ไม่สามารถเป็นฮ่องเต้ของราชวงศ์อู่ได้อีกต่อไป

เพราะทุกคนต้องไม่พอใจแน่

หากหลี่เจิ้งยังเป็นฮ่องเต้ของราชวงศ์อู่ต่อไปก็จะรวมแคว้นเหล่านั้นเป็นหนึ่งเดียวไม่ได้แน่ ฉะนั้นอวี่เหวินจิ้งจึงเป็นตัวแทนของราชวงศ์อู่ในครั้งนี้

ส่วนหลี่เจิ้งนั้น เจียงเยว่ฉานและจักรพรรดินีต่างก็ยังตัดสินใจไม่ได้ในขณะนี้

ว่าควรหรือไม่ควรประหารชีวิตเขา ต้องรอให้ซั่งกวนหว่านเอ๋อร์ฟื้นเสียก่อนถึงจะตัดสินใจได้

ทว่าหลี่เจิ้งกลับมีความสุขกับชีวิตอิสระ จะอยู่หรือตาย ตอนนี้มันไม่สำคัญสำหรับเขาอีกต่อไป

หลี่เจิ้งในตอนนี้ใช้เวลาอยู่กับฮองเฮาตลอดเวลา

แม้แต่สนมคนอื่นๆ ก็ไม่สนใจ สุดแล้วแต่พวกนางอยากจะไปที่ใด

“รัชทายาทล่ะ”

หลี่จุ่นถามอวี่เหวินจิ้ง

เขาให้ใครเป็นฮ่องเต้ ใครบ้างไม่กล้าเชื่อฟัง

“ดี ส่วนเรื่องตั้งหกกรมของแคว้นหนานต้องไม่รอช้า ก่อนหน้านี้ใต้เท้าเฟิงพอมีแนวคิดอยู่บ้างแล้ว ฝ่าบาทปรึกษาหารือกับเขาเถอะ” หลี่จุ่นกล่าวตรงๆ กับจักรพรรดินี

จักรพรรดินีพยักหน้า

“ดี เช่นนั้นก็แยกย้ายเถอะ อีกห้าวันรวมกองกำลังที่จงตูอย่างเป็นทางการค่อยมาหารือเรื่องอื่นต่อ”

“พ่ะย่ะค่ะ”

ทุกคนขานรับ

อวี่เหวินจิ้งนำความของหลี่จุ่นมาบอกกล่าวกับหลี่เจิ้ง เมื่อหลี่เจิ้งที่กำลังทานหม้อไฟกับฮองเฮาได้ยินเช่นนั้นก็ชะงักไปชั่วครู่ แต่แล้วก็กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า

“ดี งั้นก็สุดแล้วแต่เขาเถอะ”

ฮองเฮาอึ้งเล็กน้อย

แต่แล้วก็ลอบถอนหายใจ ไม่ได้พูดมากความ

วันนี้มีเวลาพักผ่อนอย่างเต็มที่เสียที

ได้อยู่ใกล้ชิดกับฝ่าบาทตลอดเวลาเช่นนี้ ได้รับความรักทั้งหมดจากเขา ชีวิตนี้ก็ไม่มีอะไรให้เสียดายแล้ว เพียงแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว

“มาเถอะ สนมรักทานข้าว ข้าจะป้อนเจ้า”

เมื่อหลี่เจิ้งเห็นฮองเฮามีสีหน้าแปลกเปลี่ยนไปก็รีบลวกผักให้นาง

เมื่อทั้งสองคนทานกันอย่างมีความสุข

อวี่เหวินจิ้งจึงรีบถอยออกไปทันที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน