องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 1374

เมืองหลวงของราชวงศ์อู่

ที่จวนกั๋วจิ้ว

จ้าวเสี่ยนกำลังดื่มชาและเล่นหมากรุกอยู่กับองค์ชายสามและองค์ชายห้า เด็กโชคร้ายสองคนนี้ถูกหักแขนขาและถูกโยนทิ้งไว้ข้างถนน หากไม่ใช่เพราะเขาเก็บพวกเขากลับมาเลี้ยง ป่านนี้คงกลายเป็นขอทานไปแล้ว

แต่ก็ไม่ถึงกับตาย

จ้าวเสี่ยนเหลือบมองร่างของสองคนที่เกือบจะหายดีแล้วด้วยดวงตาขุ่นมัวแล้วถาม

“ท่านทั้งสอง พวกท่านอยากไปซินตูหรือไม่”

เมื่อทั้งสองคนได้ยินเช่นนั้นก็อึ้งไปชั่วขณะ แล้วรีบส่ายหน้าอย่างเร็วไว

ไปซินตู?

เล่นตลกอะไรกัน

ได้ยินมาว่าซินตูไม่มีอยู่แล้ว ตอนนี้กลับมาเป็นเมืองหลวงของจักรวรรดิของแคว้นหนาน และที่สำคัญคืออะไรน่ะหรือ

นั่นก็คือหลี่จุ่นสถาปนาจักรวรรดิแล้ว

ตอนนี้ราชวงศ์อู่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของเขาเท่านั้น หากพวกเขากลับไปในตอนนี้ไม่เท่ากับส่งตัวเองไปตายหรือ

เมื่อนึกถึงไอ้คนไม่ถ่านคนนั้น ไปๆ มาๆ กลายเป็นผู้นำของจงหยวน ได้รับขนานนามว่าจักรพรรดิของประชาชน และยังได้รับการยกย่องให้เป็นมหาจักรพรรดิ

ทั้งสองคนก็มีสีหน้าหลากหลายอารมณ์

พูดภาษาชาวบ้านคือชีวิตพลิกเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ

ไอ้ขี้แพ้ที่เคยถูกพวกเขาเหยียบย่ำ บัดนี้ชีวิตผันเปลี่ยนจนกลายเป็นผู้มีอำนาจ นี่มันเรื่องใหญ่จริงๆ

ตอนนี้เขาเป็นจักรพรรดิของประชาชน เป็นมหาจักรพรรดิ หากพวกเขาไปจะไม่เท่ากับเป็นการวิ่งไปหาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัวหรือ

จ้าวเสี่ยนมีรอยยิ้มเปื้อนหน้า รู้สึกชอบใจกับสีหน้าของทั้งสองคนในเวลานี้มากจึงรีบพูดว่า

“ไม่ไปก็ดีแล้ว ข้าได้ยินมาว่าเหล่าขุนนางจะกลับมารวมตัวที่เมืองหลวงของราชวงศ์อู่อีกครั้ง เมื่อถึงเวลานั้นเมืองหลวงของราชวงศ์อู่ของเราก็จะกลับมาเจริญรุ่งเรืองเช่นดังเดิม ไม่เที่ยวเพ่นพ่านก็ดี”

เมื่อทั้งสองคนได้ยินเช่นนั้นก็ตกตะลึงในทันที

เหล่าขุนนางจะกลับมา?

องค์ชายห้ารีบถามว่า

“แล้ว เสด็จพ่อจะกลับมาหรือไม่”

จ้าวเสี่ยนส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ข้าได้ยินมาว่าตอนนี้เสด็จพ่อของท่านไม่ใช่ฮ่องเต้ของราชวงศ์อู่แล้ว มหาจักรพรรดิเหรินหวงผู้นั้นไม่ยอมให้เขาเป็นฮ่องเต้ต่อไป”

“หลี่จุ่นไอ้บัดซบ” องค์ชายห้าหลี่จ้งตะโกนด่าในทันที

องค์ชายสามก็อยากจะด่า

แต่พอนึกได้ว่าตอนนี้หลี่จุ่นเป็นผู้นำของจงหยวน เป็นจักรพรรดิที่แท้จริง และสูงศักดิ์กว่าเสด็จพ่อเสียอีกจึงกลั้นคำด่าไว้ในใจ

จ้าวเสี่ยนชำเลืองมองหลี่จ้งพลางกล่าวว่า

“องค์ชายห้านี่ท่านกำลังรนหาที่ตายอยู่นะ แม้แต่มหาจักรพรรดิยังกล้าด่า ไม่กลัวโดนฟ้องแล้วมหาจักรพรรดิจะตบหน้าท่านสักสองสามทีหรือ”

หลี่จ้งหัวหดในทันที และกล่าวด้วยความกลัวเล็กน้อยว่า

“ข้า ข้า...”

หลังจากถูกหักแขนขา ความยโสโอหังของหลี่จ้งก็ลดลงไปไม่น้อย อย่างน้อยไม่ใช่ไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเหมือนเมื่อก่อน

ต้าเฉียนอ๋องหลี่เฉียนถอนหายใจแล้วกล่าวว่า

“ในเมื่อเสด็จพ่อไม่ใช่ฮ่องเต้แล้ว เช่นนั้นรัชทายาทก็ควรจะกลับมา”

ในเมื่อเสด็จพ่อไม่ใช่ฮ่องเต้ ตามธรรมเนียมแล้วรัชทายาทควรขึ้นครองราชย์ต่อ ถึงแม้ว่าราชวงศ์อู่จะสูญเสียอำนาจไปแล้ว แต่ก็ยังเป็นสัญลักษณ์ของสถานะและตำแหน่ง

กงกงผู้นั้นกลับกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ท่านกล่าวผิดแล้ว ท่านควรกล่าวว่าเป็นพระมหากรุณา แล้วค่อยกล่าวหมื่นปี”

หลี่เฉียนรีบกล่าวว่า “เป็นพระมหากรุณา ทรงมีพระชนมายุหมื่นปี หมื่นๆ ปี”

จากนั้นกงกงผู้นั้นก็เริ่มอ่านราชโองการ

“มหาจักรพรรดิเหรินหวง สำนึกในคุณฟ้าดิน... บัดนี้ต้าเฉียนอ๋องหลี่เฉียนผู้มีเมตาและคุณธรรมอันใหญ่ยิ่ง... %¥%#%¥*... ทรงมีพระบัญชาให้หลี่เฉียนสืบราชบัลลังก์ราชวงศ์อู่อย่างเป็นทางการ เป็นฮ่องเต้อู่เฉียน... เดือนสิบเอ็ด รัชศกเหรินหวงปีที่หนึ่ง”

หลังอ่านราชโองจบ

บรรยากาศก็เงียบสงัดในทันที

หลี่เฉียนตกตะลึงจนแทบไม่อยากจะเชื่อ

ม่านตาของหลี่จ้งก็หดลง ราวกับโลกกำลังหมุน

ในเวลานี้ จ้าวเสี่ยนกั๋วจิ้วผู้เฒ่าก็ตกใจมากเช่นกัน

หลี่จุ่นให้หลี่เฉียนเป็นฮ่องเต้ของราชวงศ์อู่

นี่...

“ฝ่าบาท โปรดรับราชโองการพ่ะย่ะค่ะ”

กงกงผู้นั้นมองพวกเขาด้วยรอยยิ้ม เมื่อเห็นสีหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปก็รู้สึกพึงพอใจมากในทันใด

หลี่เฉียนตกตะลึงไปชั่วขณะก่อนจะกล่าวอย่างตื่นเต้นว่า

“เป็นพระมหากรุณา ข้า ข้า... ข้าจะปกครองราชวงศ์อู่อย่างสุดความสามารถ มหาจักรพรรดิ ทรงพระเจริญหมื่นปี หมื่นๆ ปี”

สามวันต่อมา

ฮ่องเต้องค์ใหม่ของราชวงศ์อู่ก็สืบทอดราชบัลลังก์ และเปลี่ยนปีศักราชเป็นอู่เฉียน

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน