องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 138

สรุปบท ตอนที่ 138 นิทานของหลี่จุ่น: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน

สรุปเนื้อหา ตอนที่ 138 นิทานของหลี่จุ่น – องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน โดย Toey

บท ตอนที่ 138 นิทานของหลี่จุ่น ของ องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน ในหมวดนิยายโรแมนติกโบราณ เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย Toey อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที

ตั้งแต่ที่หวังเยียนหรันจากไปในคืนนั้น นางก็ไม่ได้มาที่นี่อยู่หลายวัน หลี่จุ่นมักจะคิดถึงผู้หญิงคนนี้ และรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อยอยู่ในใจ

จะไม่มาหาเขาอีกต่อไปแล้วจริง ๆ เหรอ

หลี่จุ่นถอนหายใจอย่างเงียบ ๆ

บางครั้งก็ไม่รู้จะทำอย่างไร อยากไปหาหวังเยียนหรันแต่ก็ไม่รู้จะพูดอะไร

เย็นวันนี้ จ้าวเฟยเอ๋อร์ก็มาถึง

เมื่อเห็นหลี่จุ่นกำลังเล่นหมากรุกกับอวี้เจียอย่างสนุกสนานในวัง ดวงตาของจ้าวเฟยเอ๋อร์ก็สั่นเล็กน้อย และจู่ ๆ ในใจของนางก็รู้สึกประหม่า

“เฟยเอ๋อร์ ท่านมาแล้วเหรอ”

หลี่จุ่นมองจ้าวเฟยเอ่อร์ในชุดกระโปรงยาวสีขาว ท่าทางสุขุมใจเย็นเต็มไปด้วยความนิ่งสงบ ใบหน้าของนางไม่ได้รู้สึกดีใจ

จ้าวเฟยเอ๋อร์พยักหน้าเล็กน้อย และยังพยักหน้าเล็กน้อยไปทางอวี้เจีย ซึ่งนางก็พยักหน้าตอบเช่นกัน

หญิงสาวทั้งสองพยักหน้าทำความรู้จักกันแล้ว

“ช่วงนี้ร้านยุ่งมากใช่ไหม ลำบากท่านแย่”

หลี่จุ่นเชิญเฟยเอ๋อร์นั่งลง และสั่งคนใช้ให้ไปเอาชาสักถ้วยมาให้นาง

จ้าวเฟยเอ๋อร์กลอกตาให้ทั้งสอง นางพยักหน้าช้า ๆ และแย้มริมฝีปากพูดเบา ๆ

“ไม่ได้ยุ่งมากหรอก ก็เหมือนเคย”

“ไปเลย!”

หลี่จุ่นกินม้าของอวี้เจียอย่างมีความสุข จากนั้นก็มองไปที่จ้าวเฟยเอ๋อร์และถาม “แล้วรายได้ล่ะ มีการเปลี่ยนแปลงอะไรบ้าง”

จ้าวเฟยเอ๋อร์ส่ายหัวเล็กน้อย ราวกับว่าสติของนางหายไป นางเงียบลงเล็กน้อยและจ้องไปทางอวี้เจียไม่หยุด

“ถ้าอย่างนั้นก็ดีแล้ว”

หลี่จุ่นพยักหน้าและกล่าวต่อ “รักษาสภาพแบบนี้เอาไว้ จากแนวโน้มในตอนนี้ ภายในต้นฤดูใบไม้ผลิหน้า เราอาจจะเริ่มเปิดสาขาที่อื่นได้”

แผนของหลี่จุ่นคือการเปิดสาขาทั่วประเทศ แม้แต่บริเวณที่ราบตอนกลางทั้งหมด

“อืม”

จ้าวเฟยเอ๋อร์ไม่มีความคิดเห็นใด ๆ นางไม่ได้สนใจคำพูดของหลี่จุ่น และสีหน้าของนางก็ดูหม่นหมองเล็กน้อย

อวี้เจียเงยหน้าขึ้นมอง และทันใดนั้นหญิงสาวทั้งสองก็สบตากัน

ทั้งคู่ต่างมองเห็นความรู้สึกบางอย่างในดวงตาของกันและกัน

“อวี้เจีย วันนี้ท่านอยู่ที่นี่เถอะ มันมืดแล้ว ท่านควรรีบพักผ่อนนะ”

หลี่จุ่นมองทะเลดวงดาว หันหน้ามามองจ้าวเฟยเอ๋อร์เพียงครู่ จากนั้นจึงหันไปมองทะเลดวงดาวอันกว้างใหญ่ต่อไป

จ้าวเฟยเอ๋อร์พยักหน้า และพูด “เฟยเอ๋อร์อยากฟัง”

หลี่จุ่นกล่าว “กาลครั้งหนึ่ง มีเด็กชายคนหนึ่งอาศัยอยู่ในหมู่บ้านบนภูเขา เขาอยากออกจากหมู่บ้านบนภูเขาและเข้าไปในเมืองใหญ่เพื่อมองดูโลกภายนอกตั้งแต่ยังเล็ก ต่อมาเด็กชายก็เติบโตขึ้นและออกจากหมู่บ้านบนภูเขาเพื่อไปศึกษาเล่าเรียน เมื่อถึงเมืองใหญ่ เขาได้เข้าไปเรียนในโรงเรียนที่ดีมาก ๆ แห่งหนึ่ง ในโรงเรียนมีนักเรียนจากทั่วทุกมุมโลกมาศึกษาเล่าเรียน เด็กชายรู้สึกประหลาดใจราวกับว่าโลกทั้งใบมาอยู่ตรงหน้าเขา ความปรารถนาในวัยเด็กของเขา มันได้เกิดขึ้นแล้วจริง ๆ...”

“...เมื่อเด็กชายสำเร็จการศึกษา เขาก็ทิ้งโอกาสความก้าวหน้าในเมืองใหญ่แล้วกลับไปที่หมู่บ้านบนภูเขา แต่กลับไม่มีใครเข้าใจ พ่อแม่ของเขาผิดหวัง และทุกคนในหมู่บ้านก็รู้สึกว่าเด็กชายคนนี้ช่างไร้ค่าจริง ๆ...”

“แม้ว่าคนรอบข้างจะดูถูกเขา แต่เด็กชายก็ยังคงมีความมุ่งมั่นและคิดอยากจะเปลี่ยนแปลงบ้านเกิดของตัวเองอยู่ตลอด”

หลี่จุ่นเล่าอย่างฉะฉาน ส่วนจ้าวเฟยเอ่อร์ก็ฟังอย่างเงียบ ๆ แต่ก็ยังไม่เข้าใจ นางรู้สึกว่าน้ำเสียงของหลี่จุ่นนั้นเต็มไปด้วยความเศร้า ซึ่งทำให้นางรู้สึกไม่สบายใจไปด้วย

นางไม่อยากให้เขารู้สึกเศร้า

“เด็กชายได้พบกับหญิงสาวคนหนึ่งที่เขาชอบในหมู่บ้านบนภูเขา ต่อมาพวกเขาก็ตกหลุมรักกันและได้สาบานว่าจะรักกันชั่วนิรันดร์ แต่น่าเสียดาย ไม่ว่าสิ่งของจะสวยงามเพียงใด มันก็เป็นเพียงบุปผาในคันฉ่องจันทราในวารี เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว แล้วสุดท้ายก็มาถึงทางตัน…”

หลี่จุ่นอธิบาย แต่ดวงตาของเขากลับว่างเปล่า

จ้าวเฟยเอ๋อร์มองเขาอย่างเลื่อนลอย ในตอนนั้นนางค่อย ๆ ยื่นมือออกและแตะไปบนริมฝีปากของเขาเพื่อให้เขาหยุดเล่า และกระซิบเรียกอย่างลึกซึ้ง

“หลี่หลาง...”

หลี่จุ่นค่อย ๆ หันศีรษะของเขาและมองไปยังใบหน้าที่สวยงามตรงหน้า ทั้งสองมองหน้ากัน รอยยิ้มบนใบหน้าของอีกฝ่ายนั้นราวกับระลอกคลื่นบนทะเลสาบที่ค่อย ๆ กระเพื่อมออก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน