องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 139

จวนอ๋อง

หวังเยียนหรันไม่ได้ออกไปข้างนอกมาหลายวันแล้ว

เดินไปเดินมาในสวนด้านหลังด้วยความหนักอกหนักใจ หวังฮูหยินเห็นดังนั้น จึงแอบถอนใจและกระซิบแผ่วเบา

“โตขึ้นแล้วสินะ”

หวังโส่วหนิงที่เพิ่งกลับมาจากการประชุมขุนนาง เมื่อได้ยินคำพูดของภรรยา และมองเห็นลูกสาวที่ขว้างเหยื่อตกปลาข้างสระน้ำอย่างเศร้าโศกก็พูดขึ้น

“ฮูหยิน วันนี้ฝ่าบาททรงถามถึงเรื่องการแต่งงานของเยียนหรันอีกแล้ว และทรงถามด้วยว่าข้าคิดเห็นอย่างไร”

หวังฮูหยินขมวดคิ้วทันที

ในขณะเดียวกันก็รู้สึกกังวล ไม่ใช่เพราะกลัวว่าฮ่องเต้จะทรงลืม แต่เพราะกลัวว่าฮ่องเต้จะทรงสนใจขึ้นมากะทันหัน

เหตุใดจู่ ๆ ฮ่องเต้จึงทรงกังวลเรื่องการแต่งงานของลูกสาวตัวเองขึ้นมา?

การไม่เข้าใจถึงเจตนาทำให้หวังฮูหยินรู้สึกกังวลใจเป็นอย่างมาก

หวังโส่วหนิงเหลือบมองภรรยาของเขาแล้วถอนหายใจ

“เจ้าอย่ากังวลไปเลย ฝ่าบาทอาจจะทรงกังวลเกี่ยวกับการแต่งงานของเยียนหรันด้วยความตั้งใจดี ถึงอย่างไรเยียนหรันก็ถึงวัยที่จะต้องแต่งงานแล้ว”

หวังฮูหยินเหลือบมองสามีของตัวเองแล้วถามว่า “นายท่าน คืนนั้นท่านไม่ได้ถามลูกงั้นหรือ ว่านางมีคนที่นางชอบแล้วหรือยัง”

หวังโส่วหนิงส่ายหัวและพูดด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น

“ยัยหนูนั่นพูดที่ไหน เป็นธรรมดาที่จะปิดปากเงียบ มีเพียงนางเท่านั้นที่รู้ว่ามีหรือไม่”

หวังฮูหยินกลอกตาใส่สามีตัวเอง มองดูลูกสาวริมสระน้ำ และพูด

“พวกผู้ชายอย่างท่านช่างไม่รู้ความคิดของลูกสาวเลย ข้าเห็นแล้วไม่ผิดแน่! ช่วงนี้เยียนหรันดูกลุ้มอกกลุ้มใจไม่มีความสุข ดูเหมือนนางจะมีปัญหากับคนที่นางชอบ ท่านเห็นหรือไม่ว่านางมักจะวิ่งออกไปข้างนอกแต่เช้า แต่ช่วงสองสามวันนี้ไม่เห็นนางจะขยับไปไหนเลย”

หวังโส่วหนิงรีบพูดอย่างโกรธเคือง “ไอ้คนใฝ่ต่ำตระกูลไหนกัน ข้าจะฉีกมันออกเป็นชิ้น ๆ ด้วยมือของข้าเอง กล้าดีอย่างไรถึงมาข่มเหงลูกสาวข้า!”

หวังฮูหยินเยาะเย้ยและกล่าว “ข้าเกรงว่าท่านจะไม่กล้านี่สิ!”

หวังโส่วหนิงรีบพูดขึ้นทันที “ฮูหยิน มาดูกันว่าข้าจะออกหน้าเพื่อลูกสาวของเราได้อย่างไร!”

เขาดูมั่นใจมากและไม่กังวลเลยด้วยซ้ำหากต้องไปบุกน้ำลุยไฟ!

หวังฮูหยินมองดูเขาอย่างว่างเปล่าและกล่าว

“นางเดาไม่ยาก ดูว่าเยียนหรันวิ่งไปที่ไหนก็รู้แล้ว ท่านสิกล้าไปหรือไม่”

หวังโส่วหนิงขมวดคิ้วและคิดทันที ทันใดนั้นใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย และเปิดปากถามอย่างหยั่งเชิง

“จวนจิ่งอ๋อง? หก...”

จู่ ๆ เขาก็หยุดพูดและไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่กลับหันมาพูดว่า

“ฮูหยิน ข้ายังไม่ได้กินข้าวเช้าเลย เจ้าช่วยทำข้าวต้มให้ข้าหน่อย ข้าชอบกินข้าวต้มที่เจ้าทำที่สุด”

หวังฮูหยินมองดูด้านหลังของสามี ยิ้มเยาะและไม่พูดอะไรอีก จากนั้นจึงหันหลังแล้วเดินไปที่ห้องครัว

“เฮ้อ”

จากนั้นหวังโส่วหนิงก็ลอบถอนหายใจ หันไปมองลูกสาวที่กำลังตกปลาอยู่ริมสระน้ำอย่างเศร้าโศกจากในระยะไกล มองดูน้ำอย่างเลื่อนลอย และกระซิบแผ่วเบา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน