องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 1382

หลี่จุ่นขมวดคิ้วด้วยความฉงน

แคว้นหลางยังไม่ได้ย้ายเข้าสู่เหยียนโจวเป็นการถาวร ตามหลักแล้วตอนนี้จวนชายแดนตะวันตกก็น่าจะอยู่ในการดูแลของแคว้นหลาง แต่อันที่จริงถูกพวกขงจื๊อควบคุมไปนานแล้ว เช่นนั้นตอนนี้แคว้นหลางก็ไม่น่าจะถึงกับแยกมิตรและศัตรูไม่ออก

“ได้ ข้าจะส่งจดหมายไปเตือนอวี้เจีย” หลี่จุ่นเอ่ยขึ้นหลังจากที่ครุ่นคิดดีแล้ว

อวี้เจียนั้นกลับไปเตรียมการเรื่องแคว้นหลางแล้ว

อวี่เหวินจิ้งพยักหน้ารับ จากนั้นก็เอ่ยถามขึ้น

“มหาจักรพรรดิ ก่อนนี้พระองค์บอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงไป ไม่ทราบว่ามีกลวิธีใดหรือ ?”

หลี่จุ่นเหลือบมองอวี่เหวินจิ้งแล้วเอ่ยตอบ

“ไท่ซืออย่าได้ใจร้อนไป ถึงเวลาแล้วก็ย่อมมีวิธีไปได้เอง ขอให้ท่านรอดูก็พอ”

ในวันรุ่งขึ้น

หลี่จุ่นออกคำสั่งให้อวี่เหวินจิ้งพากำลังพลจำนวนสองแสนนายจากทัพที่สี่ไป จากนั้นหลี่จุ่นก็พาจักรพรรดินีและอาหยวน รวมถึงเจียงเยว่ฉานและยอดฝีมือของลัทธิเทียนซาน จับตัวหลี่ตังเทียนมัดไว้แล้วเดินทางสู่จวนชายแดนตะวันตก

แน่นอนว่าก็ต้องพาซั่งกวนหว่านเอ๋อร์ไปด้วย

เมื่อกองทัพเดินทางไปได้ครึ่งทาง หลี่จุ่นก็ได้รับจดหมายตอบกลับจากอวี้เจีย

คนในจวนชายแดนตะวันตกถูกพวกขงจื๊อควบคุมไว้แล้วจริง ๆ

ทว่า ทางแคว้นหลางเองก็มิได้ลงมืออะไรโดยพลการ เพื่อมิให้เป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น

“หลี่โจ้วตัวแสบเอ๋ย”

หลี่จุ่นยิ้มหยันขึ้นมา

แต่หลี่โจ้วนั้นไม่ใช่คนโง่

เขาต้องรู้แน่ว่าตอนนี้เรื่องที่ตนเองควบคุมจวนชายแดนตะวันตกต้องปิดบังหลี่จุ่นไม่ได้ ฉะนั้นต้องมีแผนการอื่นรออยู่แน่นอน

แผนการนี้ต่างหากคือสิ่งที่เขาควรต้องระวัง

เหตุใดจึงเลือกนัดที่จวนชายแดนตะวันตกเล่า ?

เพราะที่นั่นติดกับด่านชายแดน ขอแค่ออกจากด่านฝานหลงไป ก็มีหนทางอีกมากที่จะเดินทางต่อได้

เช่นนั้นหลี่โจ้วก็ต้องรับรองได้ว่าจะสามารถออกจากด่านฝานหลง แล้วเขาจะรับรองได้อย่างไรเล่า ?

ทางออกด่านตรงนั้นใหญ่นัก หากคิดจะขวางคงเป็นการยาก

เช่นนั้นก็ต้องใช้จำนวนคนในการขวาง !

คอยขวางทัพใหญ่ของตนเองไว้ เพื่อรับประกันว่าทัพด้านหน้าจะสามารถขนย้ายปืนใหญ่ไปได้

เช่นนั้นด่านฝานหลงก็น่าจะถูกซ่อมแซมบูรณะใหม่จึงจะถูก

แต่บัดนี้ด่านฝานหลงอยู่ในมือของแคว้นหลาง หากหลี่โจ้วคิดจะบูรณะก็ต้องยืมมือของแคว้นหลางเข้าช่วย แต่จะใช้เหตุผลอันใดเล่า ?

“ต้องถามอวี้เจียดูว่าด่านฝานหลงมีการบูรณะใหม่แล้วหรือไม่”

หลี่จุ่นนึกอยู่ในใจ คิดไปถึงจุดสำคัญ

ว่าแล้วเขาจึงส่งพิราบสื่อสารไปหาอวี้เจียอีกครั้ง

คราวนี้หลี่ตังเทียนกัดฟันกรอด หลับตาลงแล้วเอ่ยขึ้นด้วยท่าทีที่ไม่ยอมง่าย ๆ

“หากข้าบอกไป ต่อให้เจ้าไม่ฆ่าข้า เสด็จพ่อก็ต้องฆ่าข้าอยู่ดี... ตีขาข้าให้หักเสียเถอะ !”

หลี่จุ่นหรี่ตาลงแล้วเอ่ยตอบ

“เช่นนั้นก็ช่างเถอะ ท่านยังมีประโยชน์อยู่ หากตีขาท่านจนหักไปในตอนนี้ข้ายังต้องให้คนมาแบกท่านอีก ไม่ได้หรอก”

หลี่ตังเทียนได้ยินเช่นนั้นก็ลอบถอนหายใจ

หลี่จุ่นเอ่ยขึ้น “เช่นนั้นท่านน่าจะบอกข้าได้ว่าพวกท่านซ่อนคนไว้มากแค่ไหนใช่หรือไม่ ?”

หลี่ตังเทียนกัดฟันกรอด แต่กลับค่อย ๆ พยักหน้า

“ไม่ต่างกับกำลังพล... ของเจ้าสักเท่าไรนัก !”

หลี่จุ่นฟังแล้วก็ถึงกับตกใจ

เช่นนั้นคงไม่ได้ซ่อนไว้แค่ในราชวงศ์อู่ แต่ซ่อนไว้ในทุกแคว้นทุกเมืองเสียแล้ว

เป็นดังที่คาดไว้จริง ๆ !

หลี่โจ้ววางแผนมานานหลายปีขนาดนี้ ย่อมต้องเตรียมการใหญ่ไว้ !

ช่างเป็นคนที่เก่งกาจยิ่งนัก !

หลี่จุ่นลองพิจารณาอยู่ครู่หนึ่งก็เอ่ยขึ้น

“ในสายตาของพวกท่านแล้ว ต่อไปผู้ที่จะขึ้นมานั่งบัลลังก์แห่งใต้หล้านี้คือใครกันแน่ ?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน