องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 1387

ใกล้เวลาเที่ยงแล้ว

สวี่หนิงสวมชุดเกราะเบาสีน้ำตาลทั้งตัว คาดกระบี่ไว้ที่เอว ดูแล้วท่าทางน่าเกรงขาม!

เขานั่งอยู่บนเก้าอี้อย่างสง่า

เก้าอี้ที่นั่งนี้ตั้งอยู่ในจุดที่ห่างจากด่านฝานหลงเพียงหนึ่งลี้ เมื่อทอดสายตามองไป ก็เห็นด่านฝานหลงที่ถูกปรับปรุงใหม่ได้ตั้งอยู่ตรงด้านหน้า

ข้างกายหลี่จุ่นมีหญิงสาวสองคนคือจักรพรรดินีกับเจียงเยว่ฉานยืนอยู่ ทั้งสองแต่งชุดสบายคล่องตัว เพื่อจะได้ทำสงครามอย่างสะดวก

ฝ่ายตรงข้ามวรยุทธ์สูงส่ง และฝีมือร้ายกาจอย่างหลี่โจ้ว แน่นอนว่าหลี่จุ่นจะต้องป้องกันไว้อย่างรอบคอบ

ด้านหลังทั้งสามคือผู้บัญชาการกองทัพหนึ่งหมื่นนายอวี่เหวินจิ้ง!

ขบวนกองทัพตั้งแถวไว้อย่างเรียบร้อย ท่าทางฮึกเหิมห้าวหาญ!

ตรงกลางกองทัพ ก็คือกระสุนปืนใหญ่สองพันลูก!

ซึ่งมีผ้าสีดำปกคลุมเอาไว้

หลี่ตังเทียนถูกคนเชื่อใจของหลี่จุ่นอย่างซือคงซั่วกับจ้าวกว่ายจื่อคุมตัวไว้ จึงทำให้เกิดความหวาดวิตกขึ้นมาเล็กน้อย

หวังว่าเสด็จพ่อคงจะไม่ใช้เล่เหลี่ยม

ไม่เช่นนั้นเจ้าหนุ่มหลี่จุ่นคงจะต้องตัดหัวของตนประจานต่อหน้ากองทัพโดยไม่พูดไม่จา เพื่อระบายความแค้นอย่างแน่

ผ่านไปไม่นาน

ประตูด่านฝานหลงก็เปิดออก จากนั้นทหารขี่ม้ายี่สิบนายก็พุ่งออกมา

ในขณะเดียวกัน บนกำแพงเมืองก็มีหัวของทหารโผล่ออกมาจำนวนไม่น้อย!

ดูเหมือนด้านในเมืองจะมีทหารอยู่ไม่น้อยเช่นกัน

ดูท่าจะเป็นขบวนกองทัพที่ใหญ่พอสมควร

ในใจหลี่จุ่นรู้สึกตะลึงเล็กน้อย สมแล้วที่เป็นหลี่โจ้ว

ความเงียบไม่เพียงแต่คลอบงำด่านฝานหลงเท่านั้น แต่ยังนำทหารมาด้วยจำนวนมาก

ทหารเหล่านี้ได้มาจากที่ไหน?

หลี่จุ่นใคร่ครวญชั่วครู่ คิดว่าน่าจะได้มาจากด่านเฟิงเป่ย

ทหารขี่ม้ากลุ่มนี้เคลื่อนมาด้านหน้า อยู่ห่างจากหลี่จุ่นแค่ไม่กี่ร้อยก้าว

คนนำหน้าถอดผ้าคลุมหัวออก เผยให้เห็นใบหน้าแก่ชราที่ยังแข็งแรงออกมา ที่แท้ก็คือหลี่โจ้ว

“จุ่นเอ๋อร์!”

หลี่โจ้วตะโกนเอ่ย “กระสุนปืนใหญ่ที่ข้าต้องการล่ะ?”

หลี่จุ่นลุกขึ้น ยิ้มพลางเอ่ยว่า

“เสด็จปู่ นึกไม่ถึงว่าท่านยังรอดออกมาจากการระเบิดครั้งนั้นได้ ทำให้ข้ารู้สึกผิดหวังอย่างยิ่ง!”

หลี่โจ้วฟังแล้วก็มีสีหน้าย่ำแย่ แต่ก็ยิ้มและเอ่ยว่า

“จุ่นเอ๋อร์ ฟังคำตักเตือนของเสด็จปู่ ขอแค่ยอมเชื่อฟังข้า ข้าจะผลักดันให้เจ้าได้ขึ้นครองบัลลังก์!”

“ขออภัยด้วย ใต้หล้านี้ข้าขอสู้รบมาด้วยกำลังของตนเองข้าถึงจะวางใจได้!” หลี่จุ่นยิ้มพลางเอ่ย

เมื่อเห็นน่าหลันเหวินปรากฎตัว หญิงสาวทั้งสองที่อยู่ข้างกายหลี่จุ่นก็ขมวดคิ้วทันที

ได้ยินว่าหลี่เหวินจวินเป็นหญิงสาวที่มีปัญญาเลิศล้ำที่สุดในใต้หล้า และยังเป็นหญิงสาวที่งดงามที่สุดในปฐพี!

แม้ความงามนี้จะเทียบกับศิษย์น้องเล็กไม่ได้ แต่ถือได้ว่ามีความสวยงามเพริศพริ้ง เป็นหญิงสาวงดงามที่หาได้ยาก!

จักรพรรดินีมองดูน่าหลันเหวิน และสังเกตเห็นท้องที่โตอย่างมาก ทันใดนั้นสีหน้าก็เผยความสับสนงุนงง

แต่ทว่า!

หลี่จุ่นกับน่าหลันเหวินได้เจอกันแค่ไม่นาน หลี่โจ้วแค่โบกมือ น่าหลันเหวินและพวกก็ถูกดันเข้าไปในรถม้า จากนั้นรถม้าคันนั้นก็ถูกลากกลับเข้าไปในเมือง

หลี่จุ่นกำมืออย่างเงียบๆ เช็ดคราบน้ำตาที่หางตา

ต่อมาก็โบกมือขึ้นเช่นกัน ทหารด้านหลังก็เคลื่อนไหว เปิดผ้าที่ปกคลุมกระสุนปืนใหญ่ไว้ออกไป

กระสุนปืนใหญ่สองพันลูกที่เรียงรายไว้อย่างเรียบร้อยได้ปรากฎขึ้นต่อหน้าทุกคน

ท่าทางยิ่งใหญ่อลังการ!

หลี่โจ้วมองด้วยสายตาจดจ้อง สีหน้าเผยความตื่นเต้นเล็กน้อย

สิ่งของพวกนี้ก็คือกระสุนปืนใหญ่ที่ได้ระเบิดตนจนเกือบตายในครั้งที่แล้ว?

ถ้ามีอาวุธร้ายกาจเช่นนี้ ยังต้องกลัวอะไรบนโลกนี้อีก?!

หลี่จุ่นตะโกนเอ่ยเสียงดังว่า

“หลี่โจ้ว ยาสมุนไพรที่ข้าต้องการล่ะ?! ท่านจะแลกหรือไม่แลก?”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน