องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 1435

สรุปบท ตอนที่ 1435 ขอพักแรมด้วย !: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน

สรุปตอน ตอนที่ 1435 ขอพักแรมด้วย ! – จากเรื่อง องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน โดย Toey

ตอน ตอนที่ 1435 ขอพักแรมด้วย ! ของนิยายโรแมนติกโบราณเรื่องดัง องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน โดยนักเขียน Toey เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

หลี่จุ่นไม่ค่อยเข้าใจนัก แต่ก็รู้สึกว่าตนเองคล้ายจะเข้าใจขึ้นมาบ้าง

ทว่า สุดท้ายจะเป็นเช่นไรกันเล่า ? ตอนนี้แม้แต่เขาเองก็ไม่อาจสรุปได้

เมื่อเดินทัพออกจากเมืองหลวงแล้ว ทัพใหญ่ก็ใช้เวลาเดินทางอยู่สามวันจนกระทั่งผ่านหมู่บ้านหนึ่ง หลี่จุ่นจึงตัดสินใจให้กองทัพหยุดพักผ่อนสักครึ่งวัน

จากนั้นก็ให้ทัพใหญ่นั่นรอคำสั่งอยู่กับที่ พร้อมทั้งสั่งให้เหล่าทหารทำอาหารการกินให้อิ่มท้องก่อนจะออกเดินทางต่อ

หลายวันมานี้พวกเขากินอาหารแห้งมาโดยตลอด ทำให้เหล่าทหารเองก็ทนไม่ไหว เกรงว่ากินอะไรก็คงไร้รสชาติไปหมดแล้วในตอนนี้

ส่วนชายหนุ่มนั้นพาสองสาวเข้าไปยังหมู่บ้าน

ที่นี่เป็นหมู่บ้านที่มีผู้คนอาศัยอยู่ไม่มากนัก อาจจะมีเพียงแค่สิบกว่าครัวเรือนด้วยซ้ำ

เมื่อทั้งสามคนเข้าไปภายในหมู่บ้านแล้วก็แทบจะไม่เห็นคนอยู่

“พวกเรามาทำอะไรกันที่นี่หรือเพคะ ?”

ปันหมิ่นที่สวมชุดสาวใช้ทั่วไปเอ่ยถามขึ้นด้วยสีหน้าแปลกใจ

“อยู่บนรถม้าโคลงเคลงไปมาตั้งหลายวันก็ต้องเบื่อเป็นธรรมดา เจ้าไม่หงุดหงิดบ้างหรือ ? ข้าก็ต้องออกมาเดินเล่นน่ะสิ”

หลี่จุ่นเหลือบมองปันหมิ่นพลางเอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์นัก

แม้ปันหมิ่นจะสวมชุดสาวใช้อย่างเรียบง่าย แต่ความงามนั้นก็ยังคงปกปิดไม่มิด

แม้ว่าเมื่อยืนอยู่ข้างเจียงเยว่ฉานแล้วจะทำให้ดูจืดสนิทไปถนัดตา แต่หน้าอกของนางนั้นเด่นชุดในสายตาบุรุษยิ่งกว่าอะไร

นี่คือสิ่งที่เจียงเยว่ฉานสู้นางไม่ได้ เป็นข้อได้เปรียบที่ปันหมิ่นได้มาแต่กำเนิด

ด้วยเหตุนี้ แม้หญิงสาวทั้งสองจะยืนด้วยกัน สายตาของหลี่จุ่นก็ยังคงหยุดมองที่ปันหมิ่นค่อนข้างนานกว่าอยู่ดี

เมื่อขึ้นชื่อว่าบุรุษ สิ่งมีชีวิตที่ชอบใช้สายตามองแล้ว...

“อ้อ...”

ปันหมิ่นส่งเสียงเป็นอันรับทราบ

“เราหาบ้านสักหลัง กินข้าวสักมื้อแล้วค่อยไปกันเถิด หลายวันมานี้กินแต่เสบียงอย่างแห่ง ข้าแทบจะทนไม่ไหวแล้ว ไม่รู้ว่าพวกเจ้าเป็นอย่างไรบ้าง” หลี่จุ่นเอ่ยปากถาม

เมื่อหญิงสาวทั้งสองได้ยินแล้วก็มีสีหน้ายินดีมากขึ้น โดยเฉพาะปันหมิ่นที่ดูจะดีใจขึ้นมา

“เช่นนั้นเราจะได้กินอาหารมื้ออร่อย ๆ หรือยังเพคะ ?”

“อาหารอร่อยหรือ ? เจ้าคิดอะไรของเจ้าน่ะ ที่ชนบทห่างไกลความเจริญเช่นนี้ ใครจะมีของอร่อยให้เจ้ากินได้เล่า ?” หลี่จุ่นเอ่ยขัดอีกฝ่ายจนปันหมิ่นจ้องเขาด้วยสายตาขุ่นเคือง หากแต่ก็มิได้พูดอันใดอีก

ขณะที่เจียงเยว่ฉานชี้ไปยังเรือนหลังหนึ่งแล้วเอ่ยขึ้น

“ดูสิ บ้านหลังนั้นเลี้ยงไก่ด้วย”

อาจเป็นเพราะว่าไม่ได้กินอาหารให้อิ่มท้องมาหลายวันแล้ว แม้จะเป็นเพียงไก่ต้มธรรมดาที่ไม่ได้ใส่เกลือแม้แต่เม็ดเดียว ก็ทำให้ทั้งสามคนรู้สึกว่ารสชาติอร่อยยิ่งนักได้

กว่าทั้งสามคนจะกินอาหารมื้อนี้เสร็จ ท้องฟ้าก็ค่อย ๆ มืดครึ้มลงเสียแล้ว

หลี่จุ่นครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งก่อนจะถามสองสามีภรรยาเจ้าของบ้านว่าจะขอพักแรมด้วยสักคืนได้หรือไม่ ?

ในเมื่อจ่ายเงินมาเยอะถึงเพียงนี้ แล้วเหตุใดจะให้พักไม่ได้กันเล่า ?

สองสามีภรรยาได้ยินเช่นนั้นก็จัดแจงที่พักให้ทันที เพียงแต่มีแค่ห้องเดียวเท่านั้นที่จะพักกันสามคนได้ อีกทั้งยังมีเตียงเพียงแค่หนึ่งเตียงเท่านั้น

สร้างความลำบากใจให้ทั้งสามคนนัก

เพราะถึงอย่างไร...

ทั้งสามคนก็มิใช่คนที่รู้จักคุ้นเคยกันถึงเพียงนั้น... แล้วจะนอนเตียงเดียวกันได้อย่างไรเล่า ?

เมื่อเห็นว่าหลี่จุ่นกับปันหมิ่นดูมีท่าทีกระอักกระอ่วน หญิงชราก็รีบเอ่ยด้วยเสียงหัวเราะทันที

“แหม พวกเจ้านี่นะ ข้าน่ะดูออกแล้วละ พวกเจ้าสามคนเป็นคนรักกัน แล้วจะต้องมามัวเขินอะไรกันอยู่เล่า ? พวกเจ้าก็คิดเสียว่าพวกข้าไม่อยู่ในเรือนแห่งนี้ นอน ๆ ไปเถิด พวกข้าเคยเป็นหนุ่มเป็นสาวกันมาก่อน เข้าใจดีทุกอย่าง !”

ปันหมิ่นหน้าแดงขึ้นทันที

หลี่จุ่นลูบจมูกของตนเอง ขณะที่เจียงเยว่ฉานมองหลี่จุ่นด้วยท่าทีอิหลักอิเหลื่อ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน