องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 147

สรุปบท ตอนที่ 147 ใช้ตะเกียบคู่เดียวกันเหรอ: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน

อ่านสรุป ตอนที่ 147 ใช้ตะเกียบคู่เดียวกันเหรอ จาก องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน โดย Toey

บทที่ ตอนที่ 147 ใช้ตะเกียบคู่เดียวกันเหรอ คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนติกโบราณ องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย Toey อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

แม้ว่าปัญหาข้อแรกจะยากมาก แต่หญิงสาวสองคนนี้ก็ไม่ใช่คนธรรมดา ประกอบกับเวลาก็ผ่านมาเนินนานแล้ว สามารถไขคำตอบได้ก็ถือว่าสมเหตุสมผล

แต่ทว่า

หลี่จุ่นกลับคิดไม่ถึง ขนาดปัญหาข้อแรกยังหาคำตอบได้ แต่ปัญหาข้อสุดท้ายที่ง่ายมากนั้น พวกนางกลับคิดไม่ออก

ช่างน่าประหลาดใจจริงๆ

แน่นอนว่าไม่ต้องพูดถึงปัญหาข้อที่สองเลย แม้แต่เขาเองก็ไม่รู้จะแต่งกลอนวรรคถัดไปออกมาให้ผู้คนพึ่งพอใจได้อย่างไร...

“ท่านอวี้เจียช่างมีสติปัญญาเฉียบแหลมเสียจริง” หลี่เหวินจวินกล่าวชมด้วยสีหน้าชื่นชมหลังเทียบคำตอบเสร็จ

อวี้เจียพูดด้วยรอยยิ้มว่า “องค์หญิงใหญ่ต่างหากที่ทรงมีสติปัญญาเฉียบแหลมเพคะ”

ได้เลย!

เริ่มชมกันไปชมกันมาอีกแล้ว

หลี่จุ่นมองสองสาวพลางพูดแขวะในใจ

เขาพอมองออกแล้วว่าหวังเยียนหรันและอวี้เจียไม่ใช่ศัตรูคู่อาฆาต แต่เป็นหลี่เหวินจวินและอวี้เจีย สองคนนี้ต่างหากที่เป็นศัตรูคู่อาฆาตกัน

แต่ทว่า การต่อกรของหญิงทั้งสองค่อนข้างเหนือชั้น คนธรรมดาจึงมองไม่ออกถึงความมุ่งร้ายที่แฝงเร้นระหว่างพวกนาง

ดังคำกล่าวที่ว่า ‘เสือสองตัวอยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้’ ‘ฟ้าให้ยี่มาเกิด ฉไนให้เหลียงมาเกิดด้วยเล่า’ หญิงทั้งสองล้วนเป็นคนที่ฉลาดล้ำเลิศและไม่ได้อยู่ในค่ายเมืองเดียวกัน จึงกลายเป็นศัตรูคู่แข่งกันก็ดูสมเหตุสมผลแล้ว

เพียงแต่ดูเหมือนพวกนางจะจงใจแสดงออกอย่างชัดเจนเมื่ออยู่ต่อหน้าตน

นี่มันเรื่องอะไรกันอีกล่ะ

“มาๆ ท่านพี่ มาลองชิมฝีมือการทำอาหารของเยียนหรันพะย่ะค่ะ” หลี่จุ่นเห็นสองสาวชมกันไปชมกันมาจึงรีบขัดจังหวะ

เมื่อหลี่เหวินจวินได้ยินเช่นนั้นก็ชำเลืองมองอาหารบนโต๊ะ จากนั้นหันไปมองหวังเยียนหรันด้วยแววตาประหลาดใจ แล้วถามว่า “เยียนหรันทำอาหารเป็นด้วยหรือนี่”

หวังเยียนหรันรู้สึกเขินอายขึ้นมาทันที “หม่อนฉันทำอย่างง่ายๆ เองเพคะ...”

เสี่ยวจูเริ่มพูดแทนนายหญิงของตนอีกครั้งว่า “ใช่แล้วเพคะองค์หญิงใหญ่ ถึงแม้คุณหนูของเราจะทำอาหารครั้งแรก แต่รสชาตก็อร่อยมาก แม้แต่ท่านอ๋องก็ยังชมเชยเพคะ”

หลี่จุ่นเหลือบมองเสี่ยวจูแวบหนึ่ง แล้วรีบพูดสมทบว่า

“ใช่แล้ว ฝีมือการทำอาหารของเยียนหรันน่าทึ่งมากพะย่ะค่ะ”

เขาคิดในใจว่าเด็กคนนี้ไม่รู้จักหาคำชมเชยแบบอื่นเลยเหรอ

หลี่เหวินจวินหยิบเอาตะเกียบของหลี่จุ่นแล้วคีบผักตั้งโอ๋มาชิมด้วยสีหน้าประหลาดใจ จากนั้นพลันพยักหน้าด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและพูดว่า

“ไม่เลวเลย นึกไม่ถึงเลยว่าฝีมือทำอาหารของเยียนหรันจะดีเช่นนี้”

แต่ทว่า

หลี่จุ่นและอีกสองคน แล้วยังมีเสี่ยวจูต่างพากันจ้องมองตะเกียบคู่นั้นในมือของนาง

นั่นเป็นตะเกียบที่หลี่จุ่นใช้แล้ว...

นางหยิบเอามาใช้อย่างเป็นธรรมชาติแบบนี้เลยหรือ

เยี่ยมจริงๆ

วันนี้ผู้หญิงคนนี้ตั้งใจจะลากตนลงน้ำให้ได้เลยใช่ไหม

หรือมีเจตนาอะไร

เขามองอวี้เจียด้วยสีหน้านิ่งเฉย

หลี่เหวินจวินเงยหน้ามองอวี้เจียแวบหนึ่ง จากนั้นหันไปมองหลี่จุ่น แล้วถามด้วยรอยยิ้มจางๆ ว่า “น้องหก เจ้ารู้คำตอบหรือ”

ทันใดนั้นหวังเยียนหรันก็สนใจขึ้นมาอีกครั้งทันมี มองหลี่จุ่นด้วยสีหน้ารอคอยและพูดว่า “รีบพูดๆ สิ ไม่แน่ท่านอาจจะรู้คำตอบจริงๆ”

อวี้เจียพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ ว่า “ใช่แล้วเพคะ สติปัญญาของท่านอ๋องจิ่งไม่ด้อยไปกว่าอวี้เจียเลยแม้แต่น้อย หากเทียบกับท่านอ๋องจิ่งแล้ว อวี้เจียยอมถ่อมตนว่าด้อยกว่าเพคะ”

เมื่อหลี่เหวินจวินได้ยินเช่นนั้น แววตาพลันฉายแววตาประหลาดใจทันที

นางเคยเผชิญหน้ากับอวี้เจียหลายครั้งและรู้อยู่ลึกๆ ว่าหญิงผู้นี้ไม่ธรรมดาและไม่มีวันยอมแพ้ง่ายๆ แต่บัดนี้นางกลับพูดว่าตนด้อยกว่าหลี่จุ่น

คำว่า ‘ยอมถ่อมตนว่าด้อยกว่า’ กับ ‘อับอายที่ตนด้อยกว่า’ ที่ใช้แสดงเวลาถ่อมตนนั้นมีท่าทีที่ไม่เหมือนกัน

นางพูดอย่างจริงจังและจริงใจมาก

สายตาของหลี่เหวินจวินสั่นไหวเล็กน้อย เมื่อนึกถึงทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับหลี่จุ่น นางก็พยักหน้าอย่างช้าๆ แล้วพูดว่า

“ไม่ผิดเลย น้องหกมีพรสวรรค์ที่น่าทึ่ง แต่งกลอนกวีนิรันดร์ได้หลายบท เมื่อพิจารณาอย่างถี่ถ้วนแล้ว สติปัญญาของน้องหกนั้นล้ำเลิศเกินใคร ไม่แน่อาจไขคำตอบของข้อที่สองและสามได้”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน