องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 182

หอเล่าเรื่องชั้นสองมีห้องส่วนตัวทั้งหมดแปดห้อง แต่ละห้องเก็บห้าตำลึง หนึ่งรอบจะมีรายได้แน่นอนสี่สิบตำลึง

ด้วยกระแสนิยมพลุแตกของที่นั่น ห้องส่วนตัวต้องมีคนเปิดหมดแน่ และถึงจะเปิดไม่หมด แต่ทุกรอบต้องเปิดครึ่งหนึ่ง หรือก็คือยี่สิบตำลึง

ด้วยเหตุนี้ ห้องส่วนตัวจึงจะเป็นรายได้หลัก

แน่นอน ห้องส่วนตัวเก็บแพง การบริการก็ต้องดีเยี่ยมตามไปด้วย อย่างเช่นบริการผลไม้ สุราน้ำดื่ม แล้วยังถึงกับมีถั่วลิสงอะไรพวกนี้ด้วย มีต้นทุนอยู่ที่รอบละนี่สิบสามสิบอีแปะ

ถ้าเทียบกับรายหลัก ต้นทุนน้อยนิดมาก มันแทบไม่นับเป็นอะไร

ดังนั้น หากเต็มทุกรอบ สี่รอบจะได้หนึ่งร้อยตำลึง ซึ่งเป็นรายได้สูงสุดจากการแบ่งสัดส่วนที่ประเมินว่าจะต้องได้แน่นอน

แต่วันหนึ่งอย่างน้อยก็มีสิบรอบ นับว่ารอบละครึ่งชั่วยาม (หนึ่งชั่วโมง) ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่ารอบหนึ่งครึ่งชั่วยาม แต่ประมาณสองเค่อ (สามสิบนาที) ก็เต็มที่แล้ว

ไม่ต้องพูดมาก ห้าวันนี้ต้องทำกำไรได้มหาศาลแน่

รอจนทางร้านหนังสือวางขาย ต้องมีคนวิ่งไปซื้อหนังสือเยอะแน่ ดังนั้นคนที่มาฟังจะน้อยลงครึ่งหนึ่ง แต่เมื่อครู่ที่อยู่หน้าประตูล้วนเป็นชาวบ้าน คนมีการศึกษาน้อยมาก หลี่จุ่นวิเคราะห์อย่างละเอียดแล้ว นี่เป็นเรื่องปกติ

เพราะนี่คือสมัยโบราณ จะมีสักกี่คนที่สามารถเรียนหนังสือ

แล้วนี่ยังเป็นเมืองหลวงที่มีคนรู้หนังสือมาก ถ้าเป็นที่อื่น เกรงว่าหนึ่งเมือง มีคนรู้หนังสือสักหนึ่งส่วนก็ถือว่าเยอะมากแล้ว

ต้องรู้ว่าในปัจจุบันหลังจากมีการศึกษาเล่มบังคับเก้าปี ยังมีคนไม่รู้หนังสืออีกหลายร้อยล้านคน ยิ่งไม่ต้องพูดถึงสมัยโบราณที่อะไรก็ไม่สะดวก ความเร็วในการเผยแพร่ตัวอักษรช้ามากกว่า

ดังนั้นรายได้จากห้องส่วนตัวจะลดลง แต่ตั๋วยืนและตั๋วนั่งน่าจะไม่เกิดความเปลี่ยนแปลงมากนัก แล้วยังอาจมีคนไม่น้อยที่ชอบฟังการเล่าเรื่อง ก็แต่ละคนมีความชอบที่ไม่เหมือนกันนี่นา

เมื่อได้ฟังการวิเคราะห์ก็ของหลี่จุ่น หวังเยียนหรันดีใจมาก เอ่ยว่า “หลี่จุ่น เจ้าสุดยอดไปเลย เมื่อก่อนข้าคิดว่าคนยืนฟังเจ้ายังจะเก็บสิบอีแปะ นั่งฟังยังเก็บเพิ่มอีกสิบอีแปะ เจ้าเล่ห์เกินไป แต่ตอนนี้ข้าไม่คิดอย่างนั้นแล้ว”

หลี่จุ่นแย้มยิ้ม “ตอนนี้ได้ลิ้มรสความหอมหวานของเงินแล้วละสิ”

หวังเยียนหรันหน้าแดงระเรื่อ ปราดตามองเขา “สำหรับข้า เงินทองของนอกกาย แค่รู้สึกว่าหาเงินได้มากอย่างนี้ด้วยมือตัวเอง ความรู้สึกแบบนี้มันวิเศษมาก ทำให้ข้าสุขใจนัก”

หลี่จุ่นหัวเราะ

ไม่ว่าใคร หาเงินได้ก็มีความสุขทั้งนั้นแหละ

เพราะเงินเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับทุกคน

ทั้งสี่นั่งอยู่ข้างในหนึ่งชั่วยาม ขณะจะกลับ คนที่อยู่ข้างนอกไม่ลดลงเลยแม้แต่น้อย กระทั่งว่ายังมีคนที่กำลังเร่งเดินทางมาด้วย

หลี่จุ่นสะท้อนใจเล็กน้อย

กระแสนิยมดีเหลือเกิน ความรู้สึกอย่างนี้มันดีจริง ๆ เลยนะ

ตกกลางคืน พอหวังเยียนหรันได้ข่าวจากหอชุนฮวาแล้ว ก็พาเสี่ยวจูมาที่จวนจิ่งอ๋องด้วยสีหน้าคึกคัก

หลี่จุ่นกำลังเดินหมากกับอวี้เจียอยู่ที่ลานกว้างเหมือนเดิม พอเห็นหวังเยียนหรันมา ทั้งสองก็หันไปดู หลี่จุ่นยิ้มถามทันที

“เป็นอย่างไรบ้าง”

หวังเยียนหรันยิ้มสวย “เจ้าลองทายดูสิ!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน