หลี่จุ่นมองหลี่เหวินจวิน ยิ้มพลางส่ายหน้าและเอ่ยขึ้นว่า “พี่หญิงไม่ต้องเป็นกังวลไป ข้ามีวิธีของข้า ไม่มีทางมีปัญหาแน่นอน”
หลี่เหวินจวินมองหลี่จุ่นอย่างใจลอย “ตอนนี้เจ้าเป็นปฏิปักษ์กับองค์รัชทายาทอย่างเปิดเผย เกรงว่าต่อไปจะก้าวอย่างยากลำบาก อีกอย่าง...นี่เจ้ากำลังยั่วยุเสด็จพ่ออยู่!”
นัยน์ตาของหลี่จุ่นเย็นชา “พี่หญิง สำหรับข้าแล้ว ไม่ว่าจะเป็นก่อนหน้านี้หรือตอนนี้ สถานการณ์ก็ไม่ได้แตกต่างกัน กลับกันทำให้ทุกอย่างเป็นที่ประจักษ์แก่สายตา ข้าเองก็จะได้รับมือได้ง่าย”
หลี่เหวินจวินชะงักไป
หลี่จุ่นพูดมีเหตุผลจริงๆ
“วางใจเถอะ พี่หญิง ไม่ต้องเป็นกังวลไป” หลี่จุ่นเอ่ย
หลี่เหวินจวินมองหลี่จุ่น พลางถอนหายใจอย่างจนใจเฮือกหนึ่ง
เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ต่อให้เป็นกังวลแล้วจะมีประโยชน์อะไรกัน?
การเดินทางเที่ยวชมธรรมชาติจะสิ้นสุด ชื่อเสียงของหลี่จุ่นดังกระฉอดอีกครั้ง!
กลอนสองบทที่แต่งเกี่ยวกับต้นฤดูใบไม้ผลิ เพียงแค่ช่วงเวลาบ่ายเดียว ก็แพร่สะพัดไปในแวดวงปัญญาชนแห่งเมืองหลวงแล้ว ชายหนุ่มผู้มีความสามารถและหญิงสาวแสนงดงามนับไม่ถ้วนต่างไม่หลงไปกับมัน
“จิ่งอ๋องเป็นความโชคดีของราชวงศ์อู่เราจริงๆ! โชคจากสวรรค์!”
“ ‘ฝนดีรู้กาละ ยามวสันต์จึงงอกงาม’ ‘ฝนดีรู้กาละ’ เป็นท่อนที่ดีท่อนหนึ่ง กลอนบทนี้จะต้องแพร่หลายไปหลายยุคสมัย แพร่หลายไปหลายยุคสมัยอย่างแน่นอน!”
“ลมยามวสันต์เดือนสองดุจดั่งกรรไกร ช่างประพันธ์ออกมาได้แปลกใหม่แหวกแนวกว่าผู้อื่นจริงๆ กลอนบทนี้นับเป็นแบบอย่างแห่งกลอนต้นหลิวของราชวงศ์เรา!”
“ ‘ต้นหลิวสูงสง่าปกคลุมไปด้วยใบไม้เขียวขจี’ ช่างประพันธ์ได้ดียิ่งนัก!”
“ฝนดีรู้กาละ ยามวสันต์จึงงอกงามนี่!”
แวดวงปัญญาชนทั่วทั้งเมืองหลวงชื่นชมกันยกใหญ่ คำชื่นชมที่เอ่ยอย่างไม่ลังเล
สำนักศึกษาสูงสุด สำนักราชบัณฑิต กระทั่งที่อโคจรบางแห่งในเมือง ทุกสถานที่ที่ปัญญาชนรวมตัวกัน ต่างวิพากษ์วิจารณ์กลอนใหม่ของหลี่จุ่นกันอย่างคึกคัก
“ช่างเป็นแบบอย่างแห่งกลอนต้นหลิว แพร่หลายไปหลายยุคสมัย!”
“อย่างไรข้าก็คิดว่า ‘ฝนดีรู้กาละ’ช่างเยี่ยมยอดจริงๆ เข้าใจได้ง่าย เรียกได้ว่าได้รับคำชื่นชมไปในหมู่ประชาชนในเมืองอย่างกว้างขวาง และต้องแพร่หลายไปหลายยุคสมัยอย่างแน่นอน!”
“จิ่งอ๋องช่างเป็นเทพแห่งบทกลอนของโลกใบนี้จริงๆ!”
“เทพแห่งบทกลอนอะไร? พื้นๆ ธรรมดา ข้าว่าควรเรียกว่าราชาแห่งบทกวีดีกว่า!”
“ราชาแห่งบทกวีไม่ธรรมดาหรือ?”
“ราชาแห่งบทกวีธรรมดาอย่างไร? พ่อหนุ่ม เจ้าอยากมีเรื่องหรือ!”
“เจ้าต่างหากที่อยากมีเรื่อง!”
“ให้ตายเถอะ ไม่นึกเลยว่าเจ้าจะกล้าลงมือจริงๆ ข้าจะสู้กับเจ้าจนถึงที่สุด...”
กระทั่งยังมีคนทะเลาะถึงขั้นลงไม้ลงมือเพราะฉายาของหลี่จุ่น ไม่มีใครยอมให้ใคร
คืนบูชาวสันตฤดู หลี่จุ่นผงาดขึ้นอีกครั้งด้วยแรงผลักดันอย่างล้นหลาม!
เข้าสู่ยามราตรี
จวนตระกูลเจียง
ปัญญาชนวัยกลางคนผู้หนึ่งนั่งอยู่ในห้องหนังสือ กำลังอ่านกลอนสองบทของหลี่จุ่นอย่างละเอียดภายใต้แสงเทียน ก่อนจะหัวเราะขึ้นมา “ไม่เลวๆ สมแล้วที่เป็นจิ่งอ๋อง ข้าผู้แซ่เจียงสู้ไม่ได้เลยจริงๆ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
หายเงียบเลยยยยรอตอนต่อไปนานแล้วนะะะะะเมื่อไหร่จะอัพเพิ่มมมมมมมมมมม...
มีชื่อภาษาอังกฤษของนิยายเรื่องนี้ไหมครับ...
อยากให้ อัพ ต่อครับ รอนะครับ...
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
ตอนที่203หาย...
ไม่ update มาหลายวันแล้วครับ...
เรื่องนี้สนุกมากครับ ติดตามแล้ว update ช้าและน้อยไปนะครับ แค่วันละ 2 chapter ขอแนะนำให้เพิ่เป็นวันละ 5 Chapter ครับ...
ตอน 203 หาย...
เรื่องนี้ก็ ok ครับ สนุกดี ขอบคุณadminครับ...
ขอบคุณแอดมินมากครับที่อัปเดทให้อ่าน...