องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 213

“ฝ่าบาท นี่จะเริ่มพูดจากตรงไหนดี ฝ่าบาททรงมองทุกสิ่งทุกอย่างทะลุปรุโปร่ง ไม่ว่าจิ่งอ๋องจะคิดอย่างไร แต่จะคิดบัญชีสู้พระองค์ได้หรือ?”

หวังเหลียนไม่กล้าเชื่อ ทว่าในรอยยิ้มมีความฝืนเล็กน้อย

หลี่เจิ้งหัวเราะ หันหน้าไปมองเขาแล้วเอ่ยว่า

“เจ้าน่ะ ก็ถูกลูกชายคนนี้ปิดบังเอาไว้เช่นเดียวกันกับข้า ตอนนั้นข้าเองก็ไม่ได้ตอบสนองกลับมา แต่พอมาคิดๆ ดูตอนนี้แล้ว ก็หลงกลของลูกชายคนนี้ไปแล้ว”

“ฝ่าบาท ฝ่าบาททรงหมายถึง...” ในใจของหวังเหลียนประหลาดใจ

หรือว่าจิ่งอ๋องจะคิดบัญชีฝ่าบาทจริงๆ?

แต่ว่าจะเป็นไปได้อย่างไง?

แม้จิ่งอ๋องจะมีพรสวรรค์ด้านโคลงกลอนเลิศล้ำ มีพรสวรรค์ยากจะพบพาน แต่ก็เพิ่งจะอายุสิบเจ็ด จะเทียบกับฝ่าบาทได้อย่างไร? ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องคิดบัญชีฝ่าบาท

หลี่เจิ้งหัวเราะเยาะกับตัวเอง ก่อนจะเอ่ยขึ้นว่า “หัวหน้าขันทีหวัง เจ้าคิดว่าที่วันนี้เจ้าหกยั่วโมโหรัชทายาทอย่างโจ่งแจ้ง คิดว่าข้ารู้สึกอย่างไรเล่า?”

หวังเหลียนครุ่นคิดแล้วเอ่ยขึ้นว่า “องค์รัชทายาทเป็นฮ่องเต้องค์ต่อไป ฐานะต่างจากองค์ชายองค์อื่นๆ ต้องให้ความเคารพมากกว่า วันนี้จิ่งอ๋องทำให้องค์รัชทายาทอึดอัดคับแค้นใจอย่างเปิดเผย ทำให้เสื่อมเสียอำนาจของฮ่องเต้ คิดว่าฝ่าบาทต้องทรงกริ้วเป็นแน่แท้”

หลี่เจิ้งพยักหน้าแล้วเอ่ยว่า “เกรงว่าเจ้าหกจะคิดเช่นนี้ รู้ว่าข้าจะโกรธ จึงทำให้รัชทายาทแค้นใจอย่างโจ่งแจ้ง เขาเดาความคิดของข้าถูก”

“แต่ว่า เหตุใดจิ่งอ๋องจึงทำเช่นนี้เล่า?” หวังเหลียนประหลาดใจ ในใจตกตะลึง

หลี่เจิ้งถามขึ้นว่า “ด้วยสถานการณ์ในวันนี้ หากข้าโกรธ เจ้าคิดว่าข้าจะทำเช่นไร?”

หวังเหลียนรีบครุ่นคิด แล้วเอ่ยขึ้นว่า “วันนี้เป็นวันแต่งตั้งบรรดาศักดิ์และแต่งตั้งตำแหน่ง พระราชทานรางวัลศักดินาที่ดินให้แก่องค์ชายและองค์หญิงทุกพระองค์ แต่ศักดินาที่ดินของจิ่งอ๋อง ก่อนหน้านี้ฝ่าบาทยังมิเคยพระราชทานรางวัลให้ คิดว่าฝ่าบาทจะทบทวนเรื่องศักดินาของจิ่งอ๋องอีกครั้ง...”

ด้วยสิ่งนี้เห็นได้ชัดว่าฝ่าบาททรงกริ้ว!

หลี่เจิ้งถอนหายใจเฮือกหนึ่ง ก่อนจะเอ่ยว่า “ใช่แล้ว เขาเองก็คงเล็งเห็นแล้วว่าหากข้าโกรธ จะพิจารณา...เรื่องศักดินาที่ดินของเขาอีกครั้ง จึงทำเช่นนี้”

อะไรนะ?!

เมื่อพูดมาแบบนี้ ในใจของหวังเหลียนก็ตกตะลึงพรึงเพริดไร้ที่เปรียบ!

เมื่อดูจากผลลัพธ์ ไม่ต่างกับที่ฝ่าบาทเอ่ยเลยแม้แต่น้อย!

แต่ว่าฝ่าบาทเลื่อนเรื่องศักดินาของเขาออกไปครั้งแล้วครั้งเล่า สำหรับเขาแล้วมีประโยชน์อะไร?

หวังเหลียนกัดฟัน กำลังจะถามออกไปทว่ากลับได้ยินหลี่เจิ้งเอ่ยขึ้นอย่างทอดถอนใจว่า

“ข้าประเมินเขาต่ำไปจริงๆ ตอนนี้มาคิดๆ ดูแล้ว เกรงว่าเขาคงเดาถูกแล้วว่าข้าจะทำอะไรกับเขา ฉะนั้นวันนี้จึงขวางไม่ให้ข้ามอบศักดินาที่ดินให้เขา”

ทันใดนั้นนัยน์ตาของหลี่เจิ้งก็ลึกซึ้ง เขายิ้มแล้วเอ่ยขึ้นว่า

“ไม่พูดไม่ได้ เจ้าหกนี่อดกลั้นมาหลายปีขนาดนี้ แต่ไหนแต่ไรมาแสดงออกราวกับว่าเป็นคนไม่เอาถ่านเช่นนี้ วางแผนลึกซึ้ง ช่างทำให้ข้าตกตะลึงจริงๆ และไม่รู้ว่าได้ข้าหรือแม่ของเขามา แต่ว่า แม่ของเขาเป็นคนอ่อนแอ ไม่มีเล่ห์เหลี่ยมใดๆ คิดแล้วก็คงจะเหมือนข้ากระมัง แต่ว่า”

หลี่เจิ้งชะงัก มุมปากยิ่งกระตุกรอยยิ้มมากขึ้น

ไม่ได้พูดประโยคสุดท้ายออกมา แต่พูดในใจว่า “ถึงยังไงก็ยังไม่เข้าใจความคิดของข้า กลับกันความฉลาดดันถูกความฉลาดทำให้เสีย ทว่าแผนของข้าก็ถูกเจ้าตัดขาดไปแล้วจริงๆ ดูท่าต้องวางแผนใหม่แล้ว ข้าชักอยากจะเห็นว่าเจ้าจะทำอย่างไรแล้วสิ เจ้าหก”

หวังเหลียนฟังจนอึ้ง รอให้ฝ่าบาทพูดประโยคถัดไปออกมาตลอด ทว่าผ่านไปนานสองนานก็ยังไม่เห็นพูดประโยคถัดไปออกมา ในใจก็เกิดความกลัดกลุ้มขึ้นมาเล็กน้อย

ฝ่าบาทเอาแต่พูดครึ่งหนึ่งละครึ่งหนึ่ง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน