หวังเยียนหรันรู้ว่าหลี่จุ่นได้รับพระราชโองการอภิเษกสมรส และคนที่อภิเษกสมรสด้วยคือเสิ่นจิงหง ในใจนางอารมณ์เสียเป็นอย่างมาก
“ทำไมถึงเป็นเสิ่นจิงหงล่ะ”
หวังเยียนหรันไม่ได้นอนทั้งคืน พอตื่นเช้ามาก็นั่งกลัดกลุ้มอมทุกข์เหม่อลอยอยู่ริมสระน้ำที่ลานหลังบ้าน
ดูปลาว่ายวนไปมาในบ่ออย่างสบายใจ แต่จริง ๆ แล้วนางไม่ได้สนใจมันเลยสักนิด
“ท่านพี่ หรันเอ๋อร์เป็นอะไร นางเป็นเช่นนี้ตั้งแต่กลับมาเมื่อวาน นางไม่ได้แตะอาหารที่ส่งไปที่ห้องเลย ถามนางนางก็ไม่พูดอะไรเลย ยัยเด็กคนนี้ทำให้ข้ากังวลจะตายอยู่แล้วนะ...”
หวังฮูหยินยืนอยู่ใต้ทางเดินชายคา เมื่อนางเห็นหวังโส่วหนิงที่เพิ่งกลับมาจากประชุมขุนนางก็รีบถามทันที
หวังโส่วหนิงเหลือบมองฮูหยินของเขา ถอนหายใจมองดูลูกสาวที่ดูเดียวดายแล้วพูดว่า
“ฝ่าบาทได้มีพระราชโองการอภิเษกสมรสให้กับท่านอ๋องจิ่งเป็นลูกสาวของตระกูลเสิ่นไท่ฟู่”
“อะไรนะ” สีหน้าของหวังฮูหยินเปลี่ยนไป “ทำไมเป็นเช่นนี้”
หวังโส่วหนิงส่ายหน้า “ใครจะรู้ว่าฝ่าบาทกำลังคิดอะไรอยู่”
ได้ยินมาว่าเสิ่นคั่วเข้าพบหลี่เจิ้งเมื่อวานนี้ อาจเป็นเพราะเขาไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานนี้ แต่หลี่เจิ้งถามเสิ่นคั่วกลับไปว่า หรือว่าลูกชายข้าไม่เหมาะสมกับลูกสาวของเจ้างั้นหรือ
เสิ่นคั่วก็ไม่กล้าจะพูดอะไรอีก ไม่กล้าคัดค้านทำได้แต่ยอมรับมันไป
ดังนั้นไม่มีใครสามารถเปลี่ยนแปลงการอภิเษกสมรสครั้งนี้ได้ยกเว้นตัวหลี่จุ่นเอง
แต่หลี่จุ่นจะคัดค้านการอภิเษกสมรสเช่นนี้ได้อย่างไร
เด็กคนนั้นมีชีวิตที่ยากลำบากมากแล้ว และการที่สามารถเอาชีวิตรอดมาได้จนถึงตอนนี้ก็เป็นสิ่งที่เหลือเชื่ออย่างยิ่ง
มีสายตาจำนวนนับไม่ถ้วนในวังที่จ้องมองมาที่เขา หวังว่าเขาจะตายในไม่ช้า
ดูเหมือนว่าจะรวมถึงฮ่องเต้ด้วย
หวังฮูหยินมองดูแผ่นหลังอันโดดเดี่ยวของลูกสาวและร้องไห้ ก่อนจะพูดพร้อมกับสะอื้นไปว่า “หรันเอ๋อร์ผู้น่าสงสาร หากรู้เรื่องนี้ตั้งแต่แรกควรจะตัดขาดการติดต่อของพวกเขา... ท่านพี่ ช่วยคิดหาทางหน่อยได้ไหม”
“จะให้ข้าทำอย่างไรล่ะฮูหยิน ในฐานะสามีข้าเองก็ทำอะไรไม่ถูก เรื่องนี้มันไม่ง่ายเลย”
“ท่านเป็นถึงอัครมหาเสนาบดี ท่านจะไม่มีวิธีอะไรเลยหรือ ท่านจัดการเรื่องราชสำนักเก่งนักไม่ใช่หรือ ทำไมพอเป็นเรื่องของลูกสาวท่านไม่มีวิธีล่ะ” ฮูหยินเหลือจะอดทนหาเรื่องสามีตัวเอง
หวังโส่วหนิงเกาหัวด้วยความกังวล เรื่องของแผ่นดินจะเหมือนกับเรื่องของผู้หญิงได้อย่างไร เรื่องของผู้หญิงเมื่อเทียบกับเรื่องแผ่นดินแล้วมันเป็นเรื่องใหญ่กว่า บางครั้งสามารถทำให้คนพิศวงงงงวยได้เลยนะ...
“ข้าไม่สนหรอก ท่านต้องหาทาง ถ้าเป็นอย่างนี้ต่อไปท่านไม่สงสารเหรอ”
หวังโส่วหนิงลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า “อย่างไรเขาก็เป็นถึงอ๋องขั้นหนึ่ง อีกทั้งเขาก็มากความสามารถ เขาจะกลายเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงในอนาคต การจะให้หรันเอ๋อร์เป็นนางสนมของเขาดูเหมือนจะไม่ทำให้ตระกูลหวังของข้าอับอาย บางทีมันอาจจะถูกบันทึกไว้บนประวัติศาสตร์... ใช่ไหม ไม่ใช่เรื่องน่าอายหรอก”
ฮูหยินมองดูสามีด้วยดวงตาเบิกกว้างและอุทานด้วยความไม่น่าเชื่อว่า
“ท่านพี่บ้าไปแล้ว!”
เจียงเยว่ฉานเดินมานั่งลงด้านหน้าไม่มีท่าทีเขินอายเลยแม้แต่น้อย ก่อนจะพูดว่า
“ข้ารู้สึกเบื่อนิดหน่อย จึงปีนข้ามกำแพงมาพบท่านอ๋อง เข้าเรื่องเลยละกัน ท่านอ๋องสัญญากับข้าว่าจะเขียนบทกวีให้กับข้า มิทราบว่าเมื่อใดท่านอ๋องจะเขียนเสร็จ…”
ในขณะพูดดวงตามีความขุ่นเคืองปะปนอยู่
“เอ่อ…”
หลี่จุ่นตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง และจำได้ทันทีว่าครั้งหนึ่งเขาตกลงที่จะเขียนบทกวีให้นางตอนอยู่ที่หอเล่าเรื่อง แต่ต่อมาเขาก็ลืมมันไป
หลี่จุ่นรู้สึกเขินอายเล็กน้อยทันทีแล้วพูดว่า “ขอโทษที ช่วงนี้งานยุ่งมากเลยลืมเรื่องนี้ไป เมื่อข้าว่างข้าจะเขียนบทกวีให้แม่นางเยว่ฉานอย่างแน่นอน”
“งั้นสาวน้อยคนนี้ก็ขอขอบพระทัยท่านอ๋องไว้ก่อนเจ้าค่ะ!”
เจียงเยว่ฉานยิ้มด้วยความพึงพอใจ โค้งคำนับเล็กน้อย จากนั้นมุ่งความสนใจไปที่ตัวหมากรุกที่อยู่ตรงหน้า แล้วถามอย่างสงสัยว่า
“ท่านอ๋อง นี่คืออะไรกัน”
“หมากรุก” หลี่จุ่นตอบ
“หมากรุกเหรอ ดูน่าสนุกจังเลย”
เจียงเยว่ฉานรู้สึกประหลาดใจ จากนั้นดวงตาคู่สวยก็มองไปยังหลี่จุ่น ก่อนจะพูดว่า “ท่านอ๋องสอนข้าได้ไหม”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...
เดินเรื่องได้เต่ามากๆ...
หายเงียบเลยยยยรอตอนต่อไปนานแล้วนะะะะะเมื่อไหร่จะอัพเพิ่มมมมมมมมมมม...