องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 234

เมื่อเรื่องภาคต่อของ《ไซอิ๋ว》ถูกปล่อยข่าวออกไป เรื่องอื่นๆก็ถูกกลบจนหมด เสิ่นอวี้หมิงเจ้าของร้านหนังสือจิงหงมีความรู้สึกกดดันอย่างมาก

เวลานี้ร้านหนังสือลู่หมิงใหญ่โตที่สุด การค้าขายส่วนใหญ่ก็ถูกแย่งไปหมดแล้ว แม้ว่าลูกค้าส่วนใหญ่ที่หายไปคือคนที่ติดตามอ่าน《ไซอิ๋ว》 แต่ว่า《ไซอิ๋ว》มีจำนวนคนอ่านเยอะมาก คนที่ไม่สนใจในตอนแรกก็หันมาสนใจเพิ่มมากขึ้น

ลูกค้าของร้านหนังสือลู่หมิงยิ่งอยู่ยิ่งเพิ่มมากขึ้น แต่ร้านหนังสือจิงหงกลับมีคนเข้ามาน้อยมาก พูดเกินจริงไปหน่อยก็คือสามารถให้นกมาทำรังที่ประตูได้แล้ว

“ถ้าหากว่าตอนแรกยอมสละอีกนิดเดียว ไม่แน่ว่าภาคต่ออาจจะเป็นของพวกเราแล้ว!”

เสิ่นอวี้หมิงนั่งดื่มสุราแก้เครียดอยู่บนร้าน มองดูหน้าร้านที่ไร้คนเดินเข้ามาเป็นเวลาครึ่งวันแล้ว จิตใจรู้สึกว้าวุ่นอย่างสุดขีด

เขารู้สึกเสียใจกับสิ่งที่ผ่านไปอย่างมาก

วันนั้นเขาไปขอร้องต่อหน้าหวังเยียนหรัน และเสนออัตราส่วนแบ่งสี่ต่อหก แต่ว่าหวังเยียนหรันกลับไม่ตกลง เขาจึงเกิดความโมโห รู้สึกว่าหวังเยียนหรันไม่ยอมรับความหวังดีของเขา!

ในใจคิดว่า《ไซอิ๋ว》แม้จะได้รับความนิยมอย่างร้อนแรง ก็คงจะทำรายได้ไม่มากเท่าไหร่? และคิดว่าร้านหนังสือร้านไหนจะรับไว้ก็คงไม่สามารถช่วยสร้างรายได้มากมาย!

ตอนนี้ถึงได้รู้ว่า สายตาของตนเองตื้นเขินเกินไป!

《ไซอิ๋ว》ร้อนแรงอย่างสุดขีด จนไม่มีทางหยุดยั้งกระแสนี้ได้ อีกอย่างเขายังรู้มาว่าตงซานว่านเสนอส่วนแบ่งคือสามต่อเจ็ด การแบ่งอัตรากำไรเช่นนี้ยิ่งทำให้เหนือความคาดหมาย ถึงแม้ว่าจะเป็นเช่นนี้ ตงซานว่านก็ยังกอบโกยรายได้ไปอย่างล้นหลาม!

แต่นี่คือสามต่อเจ็ดเชียวนะ แค่สามส่วนก็สามารถทำรายได้มากขนาดนี้ เห็นได้อย่างชัดเจนว่า《ไซอิ๋ว》มีศักยภาพอย่างแข็งแกร่ง!

แต่ว่า ตนเองก็ทำพลาดไปแล้ว!

ยึดมั่นแต่ข้อกำหนดเดิมๆ ไม่รู้จักยืดหยุ่น ไม่รู้จักถอยหนึ่งก้าว จึงทำให้เสียโอกาสนี้ 《ไซอิ๋ว》ได้สร้างปรากฎการณ์ยอดขายอันถล่มถลาย!

เสิ่นอวี้หมิงเสียดายอย่างที่สุด

“เถ้าแก่ ยุคสมัยได้เปลี่ยนไปแล้ว” ผู้ดูแลสวีจือชูเดินขึ้นบนร้าน และเห็นเสิ่นอวี้หมิงกำลังนั่งดื่มสุราอย่างกลัดกลุ้มใจ จึงนั่งอยู่ข้างๆ และเอ่ยปากพูดเบาๆ

สวีจือชูถือว่าเป็นคนที่มีความทะเยอทะยานสูงคนหนึ่ง แต่ก็ไม่มีโอกาสได้แสดงความสามารถ มีแค่ความคิดเท่านั้น คล้ายดั่งหญิงสาวที่อยากจะหุงข้าวแต่ไม่มีข้าวสารให้หุง

สายตาของเสิ่นอวี้หมิงเคลื่อนไหวไปมา ก่อนที่จะดื่มเข้าไปอีกหนึ่งแก้วอย่างดุดัน จากนั้นก็กัดฟันพูดว่า

“ผู้ดูแลสวี วางใจเถอะ ข้าจะไปเจรจาขอร้องหวังเยียนหรันอีกครั้ง ครั้งนี้ถ้านางต้องการแปดส่วน ขอแค่ได้ซดน้ำแกง ข้าก็จะยอมตกลง ”

“เถ้าแก่ นี่ท่าน…” สวีจือชูมีสีหน้าที่ตกตะลึง

เถ้าแก่ยอมรับส่วนแบ่งสองต่อแปดที่ไม่เป็นยุติธรรมเช่นนี้ด้วยหรือ?!

เสิ่นอวี้หมิงหัวเราะเยาะตนเองและพูดว่า “นึกถึงเมื่อก่อน จิงหงที่เป็นแค่ร้านหนังสือเล็กๆ ข้าทุ่มเทและอดทนจนมาถึงวันนี้ คิดไม่ถึงว่ายิ่งอยู่ยิ่งขี้ขลาด แค่ผลประโยชน์นิดเดียวก็ไม่ยอมถอย เมื่อเปรียบเทียบกับตอนหนุ่มๆ เหมือนยิ่งอยู่ก็ยิ่งไม่มีเรี่ยวแรง สมัยยังหนุ่มทั้งกล้าลุยกล้าทำทุกอย่าง!”

ผู้ดูแลสวีมีสีหน้าเต็มไปด้วยความตะลึง ตนเองได้ติดตามเถ้าแก่มาก็หลายปีแล้ว แต่เวลานี้กลับพูดอะไรไม่ออกแม้แต่คำเดียว สุดท้ายก็กลายเป็นเสียงถอนหายใจอย่างหดหู่

เถ้าแก่ ความกล้าหาญที่ควรจะมีก็ยังต้องมี เขาไม่ได้เดินตามคนผิด ต้องคอยดูว่าร้านหนังสือจะสามารถผ่านอุปสรรคครั้งนี้ไปได้หรือไม่

ถ้าผ่านไปไม่ได้ แม้เขาจะเดินตามคนถูกต้องแล้วก็ทำอะไรไม่ได้?

ยังไงก็ต้องแยกย้ายกันไป?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน