องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 263

ช่วงเวลาหนึ่งวัน ตระกูลโจวสะเทือนราวกับประสบภัยพิบัติจากสวรรค์ ไม่ยอมเลิกราคือเรื่องธรรมดา ที่ยอมอยู่เงียบ ๆ ต้องมีปฏิกิริยาความเคลื่อนไหวอะไรแน่

หลี่เหวินจวินส่ายหน้าเอ่ย “เมื่อวานหลังจากเจ้าเตือน ข้าก็ให้องครักษ์ในจวนแอบคุ้มครองโรงสุรากับหอสุรา แล้วยังส่งคนแอบจับตาดูตระกูลโจวด้วย แต่จนถึงตอนนี้ตระกูลโจวยังไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรเลย”

พอได้ยินอย่างนั้น หลี่จุ่นพยักหน้าน้อย ๆ

ด้วยพฤติกรรมที่แล้วมาของตระกูลโจว ต้องมีความเคลื่อนไหวแน่ แต่จะไม่วู่วามอย่างนั้น อย่างน้อยต้องสังเกตก่อนระยะหนึ่ง

หลี่เหวินจวินมองสีหน้าของหลี่จุ่นทีหนึ่ง แล้วจู่ ๆ ก็ถามว่า

“น้องหก ข้าขอพูดตามตรง ถึงพ่อค้าแสวงหาผลประโยชน์ ไม่เจ้าเล่ห์ไม่มีการค้า แต่ที่เราทำคือการตัดช่องทางทำมาหากินของพวกเขา ใช้อำนาจเกินไปหน่อยจริง ๆ”

ถ้าหลี่เหวินจวินเป็นพ่อค้าทั่วไปยังพอว่า แต่นี่ไม่ใช่ หลี่เหวินจวินคือองค์หญิงในรัชกาลปัจจุบัน คือราชวงศ์ในรัชกาลปัจจุบัน!

ถ้าแพร่ออกไป ย่อมต้องตกเป็นขี้ปากว่าหลี่เหวินจวินใช้ฐานะรังแกประชาชน แล้วยังจะถูกผู้ไม่ประสงค์ดีหลอกใช้ น่ากลัวว่าจะมีผลกระทบไม่น้อย

โชคดีที่พื้นเพตระกูลโจวก็ไม่ได้สะอาดอะไร อีกทั้งเบื้องหลังยังมีบุคคลอย่างกั๋วจิ้วยืนอยู่ ด้วยเหตุนี้ ตอนนี้จึงใช้เหตุผลนี้โจมตีนางไม่ได้

หลี่จุ่นหัวเราะน้อย ๆ เอ่ย “พี่หญิง ความจริงร่วมมือจึงจะร่วมชนะ ระยะแรกพวกเรายึดครองตลาดของสลักดอกไม้ก็จริง แต่นี่แค่ชั่วคราวเท่านั้น ไม่ว่าอย่างไรสลักดอกไม้มีรากฐานล้ำลึก ไม่เพียงแต่ในเมืองหลวง แต่เมืองอื่น ๆ ก็ผูกมัดครองตลาดหลักเหมือนเดิม ถ้าพวกเราอยากพัฒนาในที่ต่าง ๆ ทางที่ดีที่สุดก็คือใช้พลังของสลักดอกไม้”

หลี่เหวินจวินอึ้ง มองหลี่จุ่นด้วยความตะลึงเล็กน้อย ถาม “ความหมายของเจ้าคือ พวกเราจะร่วมมือกับสลักดอกไม้หรือ”

หลี่จุ่นพยักหน้า แววตาล้ำลึกประมาณหนึ่ง เอ่ย “ก็ไม่ใช่ว่าต้องร่วมให้ได้ ถ้าตระกูลโจวรู้จักยืดหยุ่น ข้าย่อมร่วมมือกับพวกเขา นำเสนอสุราหลงไถไปต่างเมือง แต่ถ้าตระกูลโจวไม่รู้จักยืดหยุ่น เช่นนั้นข้าก็แค่ยอมละทิ้งผลประโยชน์เมืองอื่นชั่วคราว

ขอแค่พวกเรามั่นคงอยู่ในเมืองหลวง สุราหลงไถย่อมมีชื่อเสียงไปทั่วแผ่นดิน ถึงตอนนั้นตลาดหลักของสลักดอกไม้ก็จะถล่มทลายโดยมิต้องโจมตี อย่างมากแค่เสียเวลาและเปลืองแรงหน่อยเท่านั้น”

หลี่เหวินจวินขบคิดคำพูดของหลี่จุ่นอย่างละเอียด ก่อนจะพยักหน้าช้า ๆ “ข้าเข้าใจความหมายของน้องหกแล้ว”

ขณะเดียวกัน หลี่เหวินจวินเห็นแววตาของหลี่จุ่นมีความหมายเชิงลึกเล็กน้อย

หลี่จุ่นมีความสามารถในการควบคุมบางเรื่องมากอย่างที่คนธรรมดาจินตนาการไม่ถึงโดยแท้ หลี่เหวินจวินรู้สึกทึ่งอย่างหาที่เปรียบมิได้

หลี่จุ่นพยักหน้ายิ้มน้อย ๆ

ถ้าตระกูลโจวรู้จักก้มหัว รู้จักยืดหยุ่น ไม่ดื้อดึงเฝ้าสลักดอกไม้ของตัวเองที่ตกอันดับไปแล้ว เช่นนั้นสุราหลงไถก็จะใช้รูปแบบกระจายสินค้าซื้อช่องทางของสลักดอกไม้ เมื่อนั้นจะชนะด้วยกันทั้งคู่!

ร่วมมือกันกระจายสินค้า หรือก็คือตัวแทนจำหน่ายในยุคปัจจุบันนั่นเอง

ความคิดของหลี่จุ่น คือใช้ช่องทางของสลักดอกไม้เป็นตัวแทนจัดจำหน่ายของเขา ช่วยเขาขายสุราหลงไถไปยังที่ต่าง ๆ เพราะสลักดอกไม้อยู่มานานหลายปีอย่างนี้ มีช่องทางมากมาย รากฐานล้ำลึกกว่าสุราหลงไถที่เพิ่งเกิดในตอนนี้มาก

อูฐหิวตายตัวใหญ่กว่าม้า1 การให้สลักดอกไม้เป็นตัวแทนจำหน่ายสุราหลงไถคือทางเลือกที่ดีที่สุด และจะได้ชัยชนะร่วมด้วยกันในเวลาอันสั้นที่ดีที่สุด

แต่ต้องดูว่าตระกูลโจวจะรู้จักยืดหยุ่นหรือไม่!

สองพี่น้องนึกสนุกขึ้นมา เดินหมากด้วยกันกระดานหนึ่ง หลี่จุ่นใช้วิธีของเจียงเยว่ฉาน เอาชนะหลี่เหวินจวินสองตาแบบดื้อ ๆ ทำให้หลี่เหวินจวินสงสัยในชีวิต

จากนั้นหลี่เหวินจวินก็เกาศีรษะแบบยากจะพบเห็น หงุดหงิดเล็กน้อยอย่างเห็นได้ชัด จ้องหลี่จุ่นครู่หนึ่งก่อนจะโยนหมากในมือทิ้งและไปเสีย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน