เสิ่นจิงหงมองหลี่จุ่นอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงรีบเอ่ยด้วยท่าทีเขินอาย
“เจ้าค่ะท่านพี่”
“เอาละน้องหก พวกเจ้าควรจะไปดื่มคารวะให้แก่เสิ่นไท่ฟู่ได้แล้วละ” หลี่เหวินจวินชี้ไปยังโต๊ะที่เสิ่นคั่วนั่งอยู่ ท่าทีดูเปิดเผยผิดไปจากปกติ
ท่าทีเหล่านี้ โดยปกติแล้วจะเกิดขึ้นกับคนที่ฝืนทำทีเป็นมีความสุข
หลี่จุ่นนั้นรู้สึกแปลกขึ้นมาจึงเหลือบมองหลี่เหวินจวินในทันที ภายในใจนั้นรู้สึกได้ถึงความแปลกประหลาดยิ่งนัก
เขาจับมือเสิ่นจิงหงแล้วพาไปยังโต๊ะที่เสิ่นคั่วนั่งอยู่ทันที โต๊ะที่เสิ่นคั่วนั่งเป็นโต๊ะหลัก ผุ้ที่นั่งร่วมโต๊ะยังมีขุนนางคนสำคัยในราชสำนัก อย่างน้อยตำแหน่งต่ำสุดก็ต้องมีระดับรองเจ้ากรมทั้งหก
ทว่า เห็นได้ชัดว่าคนพวกนี้มาร่วมงานเพราะเห็นแก่หน้าของเสิ่นคั่ว ส่วนหลี่จุ่นนั้น พวกเขาเคยพบแค่ในงานประลองวการล่าสัตว์เมื่อคราวก่อนก็เท่านั้น
ส่วนภาพจำที่มีต่อหลี่จุ่นนั้นมีเพียงไม่กี่ประการ นั่นก็คือฝีมือแต่งกลอนเป็นเลิศ อดทนเก็บความสามารถได้เก่งและหน้าตาดี
หลี่จุ่นและเสิ่นจิ่งหงเพียงแต่ทำตามธรรมเนียมเพียงเล็กน้อยคารวะแก่ทางโต๊ะของเสิ่นคั่วไปสองจอก ก็เดินไปยังโต๊ะอื่นต่อทันที
กับเหตุที่จะเกิดขึ้นต่อไปนั้น หลี่จุ่นเพียงแต่ให้ความร่วมมือกับเสิ่นจิ่งหง เพราะเขาไม่รู้จักแขกที่มาร่วมงานส่วนใหญ่ แต่เสิ่นจิ่งหงกลับรู้จักจนเกือบหมด
ที่คนเขามาก็มาเพราะเห็นแก่หน้าของเสิ่นจิงหงมิใช่หลี่จุ่น ชายหนุ่มย่อมต้องรู้ดีว่าควรทำเช่นไร
แต่เมื่อหลี่จุ่นเดินจนทั่วแล้วไม่เห็นพี่น้องของตนเอง ภายในใจก็ยังคงรู้สึกไม่สบายใจอยู่ดี
ถึงแม้เขาจะเข้ากับพวกบรรดาพี่น้องของตนเองได้ไม่ดี แต่อย่างน้อยน้องเจ็ดน่าจะมาถึงจะถูก แต่นี่กลับไม่พบเลยแม้แต่คนเดียว แม้แต่องค์ชายรัชทายาทที่ควรจะมาร่วมงานเพื่อไว้หน้ากันก็ยังไม่เห็นแม้แต่เงา ไม่รู้ว่ายังมาไม่ถึงหรือไม่คิดจะมาร่วมงานกันแน่
เดิมทีคิดว่าองค์ชายสี่ก็น่าจะมา แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเขาเช่นกัน
ส่วนองค์ชายสามและองค์ชายห้านั้นยิ่งไม่ต้องพูดถึง สองคนนี้ไม่ถูกกับเขาอยู่แล้ว ในระดับที่คิดร้ายกับเชาเสียด้วยซ้ำ
ถึงแม้หลี่จุ่นจะไม่สนใจเรื่องความผูกพันระหว่างพี่น้องเหล่านี้ แต่สุดท้ายก็ยังอดเศร้าใจไม่ได้อยู่ดี
แล้วยังมีน้องแปดหลี่เซียงจู๋ที่ยังมาไม่ถึงเช่นกัน ขณะที่บรรดาสนมในวังหลังต่างก็ส่งของขวัญกันมาบางส่วน ที่ทำให้หลี่จุ่นคิดไม่ถึงก็คือแม้แต่ฮองเฮาก็ส่งของขวัญชุดใหญ่มาให้เช่นกัน
เรื่องเหล่านี้อยู่นอกเหนือจากที่เขาคาดคิดไว้
เมื่อทักทายทุกคนเสร็จแล้ว หลี่จุ่นและเสิ่นจิงหงก็แยกย้ายกันชั่วคราว ขณะที่แขกเหรื่อก็พากันสุขสำราญกับสุราและอาหารชั้นดีภายในงาน
สุราที่ใช้ในงานนั้นเป็นสุราหลงไถ หากวันนี้ต้องมีคนเมากันเกือบหมดงานหลี่จุ่นก็ไม่นึกแปลกใจ อาหารของจวนจิ่งอ๋องนั้นหลากหลายจนเป็นที่เลื่องชื่อจากในบรรดาจวนของเหล่าองค์ชาย วันนี้หลายคนจึงเพิ่งได้รู้ว่าอะไรคืออาหารรสเลิศ
ด้วยเหตุนี้จึงเกิดความครึกครื้นขึ้น
อีกทั้งยังไม่ใช่ความครึกครื้นเพียงระดับธรรมดา
มีคนไม่น้อยที่ดื่มไม่ทันไรก็เมาแล้ว เริ่มออกอาการคุยโม้โอ้อวด เสียงแต่ละโต๊ะราวกับแข่งกันส่งเสียงดัง
หลี่จุ่นเดินออกจากตัวเรือนหลัก เดินห่างออกมาจากความอึกทึกคึกโครมในงานเลี้ยง เดินมายังทางเดินตำหนักปีกเพียงลำพัง แล้วนั่งลงบนไม้กั้นด้วยอาการเหม่อลอย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...
เดินเรื่องได้เต่ามากๆ...
หายเงียบเลยยยยรอตอนต่อไปนานแล้วนะะะะะเมื่อไหร่จะอัพเพิ่มมมมมมมมมมม...
มีชื่อภาษาอังกฤษของนิยายเรื่องนี้ไหมครับ...
อยากให้ อัพ ต่อครับ รอนะครับ...
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
ตอนที่203หาย...
ไม่ update มาหลายวันแล้วครับ...
เรื่องนี้สนุกมากครับ ติดตามแล้ว update ช้าและน้อยไปนะครับ แค่วันละ 2 chapter ขอแนะนำให้เพิ่เป็นวันละ 5 Chapter ครับ...