องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 371

น้องสี่กับเฉินกุ้ยเฟยต่อกรด้วยไม่ได้ง่ายหรือ

นี่พี่หญิงคิดว่าเขาสู้อีกฝ่ายไม่ได้หรือ

รัชทายาทรู้สึกไม่ยอมนิด ๆ เอ่ย “ต้องให้พี่หญิงเป็นห่วงแล้ว แต่เรื่องนี้ข้าย่อมมีแผนการ ข้ารู้ว่าเมื่อก่อนพี่หญิงแอบช่วยทางลับหลายครั้ง แต่ไม่ต้องห่วงเรื่องในอนาคตหรอก อย่างไรข้าก็เป็นรัชทายาท รู้จักความพอดี”

หลี่เหวินจวินหัวเราะเสียงเย็นทันที มองน้องชายของตัวเองและเอ่ยว่า

“ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่ค่อยยอมรับนะ”

รัชทายาทกัดฟันไม่ตอบ

หลี่เหวินจวินจึงพูดทันทีว่า “เช่นนั้นเจ้ารู้หรือไม่ หลินกงกงที่เจ้าเชื่อถือมาตลอด แท้จริงแล้วเป็นคนของข้า”

อะไรนะ!

รัชทายาทตกตะลึง ไม่อยากจะเชื่อหูของตัวเอง

ขันทีข้างตัวเขาเป็นคนของหลี่เหวินจวินหรือนี่!

เป็นไปไม่ได้!

“หลินกงกง!”

พอหลี่เหวินจวินเห็นรัชทายาทเปลี่ยนสีหน้าไปเล็กน้อยก็หัวเราะเบา ๆ ทันที ร้องเรียกหลินกงกง

“องค์หญิง!”

หลินกงกงเข้ามาจากข้างนอก คำนับทั้งสองด้วยความเคารพ

หลี่เหวินจวินพูดเรียบ “เจ้าไปกับข้าเสียแต่วันนี้ ต่อไปเจ้าติดตามข้า”

“ขอรับ องค์หญิง!” หลินกงกงรับคำด้วยความเคารพทันที

สีหน้ารัชทายาทปั้นยากถึงขีดสุด!

จ้องหลินกงกงเขม็ง ไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ บ่าวที่ตัวเองไว้ใจมากที่สุด กลับเป็นสายลับของคนอื่น!

ดังนั้น ทุกเรื่องของเขาอยู่ในการควบคุมของหลี่เหวินจวินจริง ๆ หรือ!

ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ไปได้!

รัชทายาทสะเทือนใจอย่างหนัก!

หลี่เหวินจวินโบกมือ ให้หลินกงกงออกไป จากนั้นก็พูดเรียบ “ตอนนี้เจ้าเข้าใจที่ข้าพูดแล้วกระมัง แม้แต่คนที่ข้าแอบส่งมานานขนาดนี้ เจ้ายังเห็นเป็นคนสนิทได้ แล้วจะต่อกรกับพวกเฉินกุ้ยเฟยได้อย่างไร”

รัชทายาทตกตะลึงพรึงเพริด กัดฟันแน่น ความเชื่อมั่นถูกโจมตีอย่างหนัก

หลี่เหวินจวินเอ่ยต่อด้วยแววตาเย็นชาเล็กน้อย “ถึงครั้งนี้เจ้าจะวางแผนซ้อนแผน แต่ความจริงก็ตกหลุมพรางเปิดเผยของน้องสี่ น้องสี่มั่นใจว่าเจ้าต้องทำแน่ ดังนั้นเจ้าก็เลยไปทำจริง ๆ กระทั่งเจ้ายังไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วเบื้องหลังมีเงื่อนงำอะไรอยู่ เจ้าแค่ทำไปเพราะเห็นว่ามีประโยชน์กับตัวเองเท่านั้น…”

“น้องพี่ บางเรื่องไม่ได้เรียบง่ายธรรมดาอย่างที่เจ้าคิด มีประโยชน์กับเจ้า แต่มีประโยชน์กับคนอื่นยิ่งกว่า ต่อไปเจ้าต้องรอบคอบมากกว่านี้!”

หลี่เหวินจวินย่อมต้องโทษรัชทายาท หากไม่ใช่เขารีบร้อนจะสร้างผลงาน เห็นแก่ประโยชน์ตรงหน้า ยอมถูกคนใช้เป็นเครื่องมือ หลี่หลางก็คงไม่ต้องตกอยู่ในสภาพอย่างนี้ ตกหลุมพรางเสด็จพ่อ

ดังนั้นนางต้องสั่งสอนรัชทายาทก่อนจากไปอยู่แล้ว หนึ่งเพื่อระบายโทสะ สองเพราะไม่อยากเห็นเขามีจุดจบอนาถในอนาคต

เพราะถึงจะไม่มีสายสัมพันธ์ทางสายเลือด แต่อย่างไรก็มีมิตรภาพพี่น้องลึกซึ้ง ไม่อย่างนั้นหลายปีนี้นางคงไม่ช่วยเขากำจัดภัยที่จะเกิดขึ้นในอนาคตจำนวนหนึ่ง และจะไม่ปกป้องเขาให้ครองตำหนักบูรพาอย่างมั่นคงมาตลอดหรอก

องค์ชายสี่ลงจากเตียงได้สักที แต่ริมฝีปากยังซีดขาวปราศจากสีเลือด ร่างกายของเขาอ่อนแออย่างหนัก มีเพียงแววตาที่คมกริบอย่างหาที่เปรียบมิได้

ร่างกายสูงใหญ่กำยำผ่ายผอมไปเล็กน้อย แต่ความจริงแล้ว มันไม่ส่งผลต่อสุขภาพเลย

องค์ชายสี่นั่งอยู่ที่สวนดอกไม้ด้านหลัง ชมมัจฉาที่แหวกว่ายท่ามกลางทะเลสาบ โยนเหยื่อปลาลงไปเป็นครั้งคราว ให้มัจฉาในนั้นมาแย่งชิงอาหาร เมื่อเห็นอย่างนั้นแล้ว เขารู้สึกพึงพอใจมาก

ผ่อนคลายสบายใจมาก

“เหยียนอ๋องช่างอารมณ์สุนทรีย์นัก”

เมื่อนั้น บุรุษคนหนึ่งที่มีรูปร่างผอมบาง ใบหน้าผอมตอบก็เดินเข้ามา

เขาสวมหมวกหรูเม่า1 พันผ้าโพกศีรษะ เห็นว่านี่เป็นแต่งกายที่นักเรียนของสำนักศึกษาหนึ่งที่เรียกว่าสำนักศึกษาขงจื๊อในสมัยโบราณใช้เป็นประจำ

สำนักศึกษาสูญหายไปหลายปีแล้ว แต่จะปรากฏคนที่เรียกตัวเองว่านักเรียนขงจื๊อสองสามคนเป็นประจำ หรือก็คือบุรุษวัยกลางคนตรงหน้านี้นั่นเอง

องค์ชายสี่มองเขาทีหนึ่ง ไม่ได้ขยับ บุรุษที่สวมหมวกหรูเม่านั่งด้านข้างของเขา มือถือนิยายออกใหม่ของร้านหนังสือจิงหงเล่มหนึ่ง

อีกฝ่ายยิ้มพูดก่อน “จริง ๆ เลย ห้องสินนี่น่าสนใจจริง ๆ หลู่ซู่เหรินผู้นั้นเป็นคนอัศจรรย์โดยแท้ เห็นว่าพอเปิดขาย ครึ่งวันร้านหนังสือก็ของขาดแล้ว”

องค์ชายสี่ดวงตาเพ่งเล็ง ตอบ “วันนี้ที่ท่านเมิ่งมา คงไม่ได้มาเพื่อให้ข้าอ่านห้องสินกระมัง”

แต่ไหนมาเขาก็ไม่ชอบนิยาย

-------------------------------------

1 หรือหมวกขงจื๊อ หมวกสี่เหลี่ยมทรงสูงที่ผู้มีการศึกษาเต็มวัยสวมใส่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน