องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 372

บุรุษหมวกหรูเม่าหัวเราะและพูดว่า “มิกล้าอยู่แล้ว”

เว้นระยะช่วงหนึ่ง บุรุษหมวกหรูเม่าวางนิยายในมือลง สีหน้าจริงจังมากขึ้นทุกที ก่อนจะเอ่ยว่า

“จิ่งอ๋องถูกจองจำอยู่ในคุกหลวงหลายวันแล้ว แต่ฝ่าบาทก็ไม่ประหารเขา ข้าว่าฝ่าบาทคงไม่ประสงค์จะประหารเขา”

องค์ชายสี่ส่ายหน้า “เดิมทีเสด็จพ่อก็ไม่ประหารเขาอยู่แล้ว”

บุรุษหมวกหรูเม่าหันมามองด้วยความประหลาดใจ “จิ่งอ๋องคือลูกชายของอ๋องสามในตอนนั้น แล้วทำไมไม่กำจัดไปเสียเล่า”

องค์ชายสี่หัวเราะเสียงเย็นอย่างยากจะเห็น พูดชืด ๆ “ท่านเมิ่งมิใช่คนฉลาดหรือ ไยจึงมองไม่ออก”

“ความหมายของท่านคือ...”

องค์ชายสี่พูดต่อ “ท่านไม่รู้สึกว่าเรื่องนี้มีเงื่อนงำหรือ เหตุใดจู่ ๆ ท่านแม่จึงได้ยินเสด็จพ่อเผยความลับเช่นนี้ตอนที่ทรงเมาน้ำจัณฑ์ แล้วยังบอกว่าฮองเฮาก็รู้เรื่องนี้ด้วย สุดท้ายพอรัชทายาทสืบข่าวก็คือจิ่งอ๋องพอดี ท่านน่าจะรู้ แต่ไหนมาเสด็จพ่อก็ไม่โปรดเขา แล้วทำไมเสด็จพ่อต้องสร้างเรื่องขึ้นมาด้วย”

บุรุษหมวกหรูเม่าที่ถูกเรียกว่าท่านเมิ่งขมวดคิ้ว ยังไม่ค่อยเข้าใจความหมายขององค์ชายสี่ เอ่ย

“อาจเป็นเพราะจิ่งอ๋องไม่ใช่สายพระโลหิต จึงไม่โปรด”

องค์ชายสี่ส่ายหน้า กลับพูดว่า

“ถ้าเป็นเพราะเหตุผลนี้ เกรงว่าจิ่งอ๋องยังไม่ทันลืมตาดูโลกก็ต้องตายแล้ว วิธีการสับเปลี่ยนที่รัชทายาทกล่าวชัดเจนอย่างนี้ ด้วยความขี้ระแวงของเสด็จพ่อ จะทรงคิดไม่ได้เชียวหรือ จะต้องหาเครื่องพิสูจน์หลายด้านแน่ ด้วยเหตุนี้ หากไม่ใช่สายพระโลหิต เช่นนั้นก็คือเสด็จพ่อทรงจงใจให้เขามีชีวิต”

“ดังนั้นการที่จิ่งอ๋องถูกจองจำอยู่ในคุกหลวง เกรงว่าเสด็จพ่อทรงวางแผนอยู่ก่อนแล้ว การปล่อยข่าวที่เขาไม่ใช่สายพระโลหิต ความเป็นจริงอาจเป็นเสด็จพ่อที่ชักใยอยู่เบื้องหลังก็ได้”

ท่านเมิ่งตกตะลึง คิ้วที่ขวดอยู่มัดปมแน่นยิ่งขึ้น

องค์ชายสี่กล่าวต่อ

“แต่ เรื่องที่รัชทายาทพูดก็ต้องวิเคราะห์ให้ดีเหมือนกัน ไปสืบดู ฉายเหรินในวังปีขึ้น กับพระชายาของเสด็จอาสาม พวกนางสองพี่น้องอาจทำอย่างนั้นจริงหรือไม่ ถ้าหลี่จุ่นไม่ใช่สายพระโลหิต แล้วทำไมเสด็จพ่อถึงเก็บเขาไว้”

บุรุษหมวกหรูเม่าทึ่ง จากนั้นก็หัวเราะและพูดว่า

“ดังคาด องค์ชายสี่เก็บงำความสามารถมานานหลายปีอย่างนี้ ความคิดละเอียดลออ ข้าผู้แซ่เมิ่งเลื่อมใสยิ่งนัก”

องค์ชายสี่ไม่ได้ตอบ แต่เสริมต่อ “จิ่งอ๋องจะใช่สายพระโลหิตหรือไม่ไม่สำคัญ ที่สำคัญคือเสด็จพ่อทรงคิดจะทำอะไรต่างหาก ทรงทำให้จิ่งอ๋องตกอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ย่อมต้องมีแผนการ”

ท่านเมิ่งพยักหน้ายิ้ม “เหยียนอ๋องกล่าวเช่นนี้ ข้าผู้แซ่เมิ่งพอจะเข้าใจแล้ว สมกับที่เป็นคนที่เซียนเซิง1หมายตา”

ท่านเมิ่งพูดต่อ “องค์ชายเจ็ดสิ้นแล้ว จิ่งอ๋องเป็นภัยคุกคามไม่ได้อีก ต่อสู้กับรัชทายาทได้แล้ว สำหรับองค์ชายสามกับองค์ชายห้าที่เป็นคนไม่เอาไหนสองคนนี้ ไม่พอให้กังวล วันหน้าแผ่นดินราชวงศ์อู่ต้องตกเป็นของเหยียนอ๋องแน่นอน”

องค์ชายสี่สีหน้าเรียบเฉย พูดชืด ๆ “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ก็รบกวนท่านเมิ่งไปจากราชวงศ์อู่ชั่วคราวก่อนเถิด บางเรื่อง ข้าอยากจะรู้ด้วยตัวเอง”

ท่านเมิ่งผู้นั้นสีหน้าชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะพยักหน้าและหัวเราะแบบฝืน ๆ “ข้าเข้าใจ ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา”

องค์ชายสี่พยักหน้า พูดเรียบ “มิผิด ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา สัญญาที่ให้ไว้ต้องทำตามแน่นอน แต่ถ้าท่านเมิ่งยังอยู่ที่ราชวงศ์อู่ต่อ เกรงว่าข้าจะยังมือฆ่าคนปิดปากไม่ได้”

ท่านเมิ่งพยักหน้าไม่ได้โกรธ “เหยียนอ๋องวางใจเถอะ ข้าจะไม่แพร่งพรายเรื่องขององค์ชายเจ็ดเด็ดขาด ถ้าเหยียนอ๋องไม่วางใจ รอให้งานใหญ่สำเร็จ ก็มาเอาชีวิตของข้าได้เลย!”

องค์ชายสี่มองเขาทีหนึ่ง ตอบเรียบ ๆ

“ได้”

-----------------------------------

1 สรรพนามที่เรียกอย่างให้เกียรติ หรืออาจารย์

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน