หลี่จุ่นอยู่ในคุกหลวงไม่มีงานทำ เขาจึงให้ผู้คุมหลิวซานหาพู่กันและกระดาษมาให้ พร้อมยกโต๊ะมาให้เขาตัวหนึ่ง ถึงอย่างไรก็ว่างงาน อย่างนั้นก็เขียนตอนต่อไปของห้องสินแล้วกัน
ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะสถานการณ์จะเป็นอย่างไร อาจจะให้เขาขึ้นเหนือจริง ๆ ก็ได้ ถ้าจะทิ้งห้องสินคาเอาไว้แบบนี้ เช่นนั้นก็ไร้ความรับผิดชอบเกินไป
ดังนั้นเขาจึงอยากเขียนห้องสินให้จบแล้วมอบให้หวังเยียนหรันก่อนจะขึ้นเหนือ
ตอนแรกผู้คุมหลิวซานไม่รู้ว่าหลี่จุ่นกำลังเขียนอะไร ตอนหลังทำใจกล้าเข้าไปดูใกล้ ๆ ถึงรู้ว่าหลี่จุ่นกำลังเขียนห้องสินอยู่ เมื่อนั้นจึงตกตะลึงพรึงเพริด โพล่งปากออกมาว่า
“ท่านอ๋อง ท่าน ท่านก็คือหลู่ซู่เหรินหรือ!”
หลี่จุ่นคิดไม่ถึงว่าหลิวซานก็อ่านนิยายเหมือนกัน เหนือคาดเล็กน้อย แต่ก็พยักหน้าตอบอย่างสบาย ๆ ว่า
“ใช่ แต่...เจ้าจะรู้ก็ได้ อย่าพูดออกไปเล่า”
หลิวซานรู้สึกมหัศจรรย์ราวกับมีแต่เทพเซียนที่ทำได้ เหม่อลอยพักหนึ่ง ก่อนจะบอกข่าวเรื่องการวางขายห้องสินเล่มแรกกับเขาด้วยความตื่นเต้น
พอได้ยินหลิวซานบอกว่าขายแค่ครึ่งวันของขาดก็ประหลาดใจมาก คิดไม่ถึงว่าห้องสินจะได้รับความนิยมอย่างนี้
ก่อนจะเปิดขาย ร้านหนังสือจิงหงเตรียมเอาไว้อย่างน้อยสามหมื่นเล่ม แต่ครึ่งวันก็ของขาด จะเร็วไปหน่อยแล้ว
“ท่านอ๋อง ตอน ตอนนี้ท่านกำลังเขียนเล่มต่อไปอยู่หรือขอรับ”
หลิวซานมองบนโต๊ะของหลี่จุ่น มีต้นฉบับกองอยู่เป็นตั้ง กลืนน้ำลายลงอึก ถามแบบตื่นเต้นนิด ๆ
เขาอ่านเล่มหนึ่งจบแล้ว!
หลี่จุ่นรู้ว่าเขากำลังคิดอะไรจึงพยักหน้า และพูดทันทีว่า “เจ้าอ่านเถอะ ตรวจคำผิดให้ข้าด้วยแล้วกัน ถ้าเจ้ารู้หนังสือละนะ”
“ขอ ขอรับ!” หลิวซานหยิบต้นฉบับตั้งนั้นไปด้วยความดีใจทันที
หลี่จุ่นกลับนิ่งไปชั่วขณะ
เมื่อก่อนหยางจงเป็นคนทำงานตรวจทั้งหมด...
ตอนนี้เขาไม่อยู่แล้ว
พอนึกถึงศพของหยางจงถูกแขวนอยู่บนกำแพงเมือง หัวใจของเขาก็เหมือนกับมีมีดกรีด ลอบกัดฟันแน่น
หลี่เหวินจวิน ไม่ใช่สิ น่าหลันเหวินน่าจะหาทางฝังเขาให้ไปสู่สุคติแล้ว แต่พอนึกว่าเขาไม่อยู่บนโลกนี้แล้ว แถมศพยังถูกกระทำอย่างนั้นอีก เขาก็รู้สึกทรมานอย่างหาที่เปรียบมิได้!
“พ่อบ้าน ข้าผู้แซ่หลี่ต้องแก้แค้นให้เจ้าแน่...”
หลี่จุ่นแอบกัดฟันพูด
อยู่ในคุกหลวงหลายวัน ในที่สุดหลี่จุ่นก็เขียนห้องสินจบบริบูรณ์ มอบต้นฉบับทั้งหมดให้หลิวซานตรวจด้วยความพอใจ
เนื่องจากกินแล้วก็เขียน ตื่นมาก็เขียน แทบไม่มีอะไรทำ ทั้งยังเหมือนกับคัดลอกออกมาจากหัวสมอง ดังนั้นจึงเร็วมากชนิดที่แม้แต่หลี่จุ่นเองก็ยังตกใจ
หลิวซานอ่านทุกวัน อ่านจนติดงอมแงม และตรวจที่เขียนผิดได้ส่วนหนึ่ง
ที่เขาพูดมันไม่ใช่เรื่องนี้!
อีกอย่าง เจ้าสารเลวนี่ประทับนิ้วมือในหนังสือหย่าแล้วจริงหรือ!
“เอาล่ะ เสิ่นไท่ฟู่ไปได้แล้ว ข้าอยู่ที่นี่ไม่สะดวก ไม่รั้งไท่ฟู่ให้อยู่ต่อแล้วนะ” พอหลี่จุ่นมอบหนังสือหย่าแล้วก็เปลี่ยนน้ำเสียงทันที พร้อมเปลี่ยนการเรียกเสิ่นคั่วด้วย
เสิ่นคั่วพับหนังสือหย่าอย่างเป็นระเบียบแล้วเก็บในอก เอ่ยว่า “พูดอย่างนี้ เจ้าปฏิเสธจะขึ้นเหนือหรือ”
“ถูกต้อง!” หลี่จุ่นกล่าว
เสิ่นคั่วพยักหน้า ไม่แปลกใจ เขายืนเอามือไพล่หลังและพูดว่า “เช่นนั้นข้าจำเป็นต้องบอกบางเรื่องกับเจ้า”
หลี่จุ่นยิ้มพูด “เชิญไท่ฟู่กล่าวมาได้!”
เสิ่นคั่วพูด “เจ้าคงรู้แล้วว่าองค์หญิงใหญ่ไม่ใช่สายพระโลหิตของฝ่าบาทกระมัง”
หลี่จุ่นนอนกับนางมากแล้ว ก็ต้องรู้สิ จึงพยักหน้าแล้วถามต่อ “แล้วมันเกี่ยวอะไรด้วย”
เสิ่นคั่วพูดเรียบ “อ้อ เป็นเช่นนี้ องค์หญิงใหญ่ไปจากราชวงศ์อู่เมื่อสามวันก่อนแล้ว ไม่รู้ว่าไปแห่งหนตำบลใด ข้าว่าที่แท้แล้วนางจะไปที่ใดนั้น คงมีแต่ฝ่าบาทที่ทรงทราบ เพราะที่เจ้าจะตายไม่ได้ แล้วยังได้โอกาสทำคุณถ่ายโทษ ก็เป็นเพราะนางแลกเปลี่ยนกับฝ่าบาทนั่นแหละ”
หลี่จุ่นนัยน์ตาหดเล็กฉับพลัน จ้องเสิ่นคั่วเขม็งแล้วพูดเสียงหนัก
“ต่ำช้า!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
เชี่ยไรเนี่ย เติมเงินแต่อ่านไม่ได้สักบท...
กดปลดล็อคไม่ได้เติมเงินแล้ว แย่มาก...
737 ปลดล็อกแล้วอ่านไม่ได้...
736 ผมปลดล็อคแล้ว อ่านไม่ได้...
เขียนต่อเถอะครับ รอนานแล้ว...
ตอน 706 มีหรือยัง...
อยากอ่านต่อครับ ผู้เขียนไม่สบายหรือเปล่าครับ...
ขอบคุณมากนะคะ ที่ให้อ่านฟรี สนุกมากค่ะ สั่งซื้อกางเกงใน GQ ไป 3 ตัวแล้วค่ะ สนับสนุนโฆษณา ที่ได้อ่านค่ะ...
เดินเรื่องได้เต่ามากๆ...
หายเงียบเลยยยยรอตอนต่อไปนานแล้วนะะะะะเมื่อไหร่จะอัพเพิ่มมมมมมมมมมม...