จวนอัครมหาเสนาบดี
หวังเยียนหรันแต่งเนื้อแต่งตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าเครื่องประดับวิจิตรหรูหราทั้งตัว พาสาวใช้เสี่ยวจูเข้าวังแต่เช้า
หวังเยียนหรันคือบุตรีของอัครมหาเสนาบดีหวังโส่วหนิง ได้รับสมญานามว่าเป็นยอดหญิงแห่งเมืองหลวง ได้รับความเมตตาจากฮ่องเต้มาก ดังนั้นจึงประทานป้ายให้ ให้นางไม่ต้องเชิญก็เข้าวังได้ตามสบาย
“คุณหนู นี่พวกเราจะไปทำอะไรกันหรือเจ้าคะ”
สาวใช้เสี่ยวจูงุนงงเล็กน้อย ตามอยู่ข้างหลังคุณหนูบ้านตัวเอง ใบหน้าเล็ก ๆ เต็มไปด้วยความสับสน
หวังเยียนหรันตอบ “เสี่ยวจู วันนี้องค์หญิงใหญ่เชิญข้าไปเป็นแขกที่ตำหนักของนาง จะชักช้าไม่ได้นะ”
“หา!”
เสี่ยวจูตกใจทันที “องค์หญิงใหญ่หรือเจ้าคะ”
องค์หญิงใหญ่คือทายาทคนแรกของฮ่องเต้คนปัจจุบัน มีพระมารดาคนเดียวกับรัชทายาท
หลังจากได้รับการแต่งตั้ง องค์ชายและองค์หญิงที่เจริญวัยจะย้ายออกจากวังหลวง แต่เพราะองค์หญิงใหญ่มีพระมารดาองค์เดียวกับรัชทายาท ดังนั้นจึงอยู่ในวังมาตลอด พำนักอยู่ที่ตำหนักชิ่งหนิง
แน่นอนว่ายังมีองค์ชายอีกองค์หนึ่งที่ยังอยู่ในวังหลวง นั่นก็คือองค์ชายหกหลี่จุ่นนั่นเอง
กล่าวถึงองค์หญิงใหญ่ ใต้หล้านี้ไม่มีใครไม่พูดให้สนุกปาก
องค์หญิงใหญ่หลี่เหวินจวินแห่งราชวงศ์อู่ ไม่เพียงแต่สิริโฉมงดงามไม่เป็นสอง ยังเป็นหญิงงามอันดับหนึ่งในหล้า ความสามารถโดดเด่น บทเพลงแห่งบริสุทธิ์สันติสะเทือนเลือนลั่นไปทั่วปฐพี แต่ที่สำคัญที่สุดคือ องค์หญิงใหญ่หลี่เหวินจวินถูกยกย่องว่าเป็นผู้มีสติปัญญาล้ำเลิศที่สุดในหล้า!
เรียกได้ว่าฉลาดล้ำแบบสุด ๆ!
ถ้าไม่ใช่เพราะนางเป็นอิสตรี เกรงว่าคนอื่นคงไม่ต้องนั่งตำแหน่งรัชทายาทกันแล้ว
ด้วยเหตุนี้
หลี่เหวินจวินจึงเป็นบุคคลที่บรรดาผู้หญิงใต้หล้าเลื่อมใส
แน่นอน...
หวังเยียนหรันก็มากด้วยความสามารถเช่นกัน โชคดีองค์หญิงใหญ่ชื่นชม เชื้อเชิญให้นางเข้าวังบ่อยครั้ง นานวันเข้า พวกนางจึงกลายเป็นสหายสนิทที่พูดได้ทุกเรื่อง
หวังเยียนหรันมองสาวใช้ที่มองตัวเองด้วยดวงตาเป็นประกายทีหนึ่ง ปิดปากหัวเราะแล้วตำหนิว่า
“เสี่ยวจู คราวนี้เจ้าอย่าได้เสียกิริยาอีกเล่า คราวก่อนพาเจ้าไปเข้าเฝ้าองค์หญิงใหญ่ เจ้าเนี่ย ตาโตเชียว ถ้าไม่ใช่เพราะองค์หญิงใหญ่พระทัยกว้างไม่เอาความ ต้องลงโทษเจ้าที่เสียมารยาทแล้ว”
“ไอ้หยา คุณหนู เสี่ยวจูทราบแล้ว...” สาวใช้หน้าแดงทันที ใบหน้าเล็ก ๆ แดงก่ำน่ารักมากทีเดียว
ครั้งก่อนไปพบองค์หญิงใหญ่ เพราะเลื่อมใสมานานหลายปี ดังนั้นขณะที่เจอเป็นครั้งแรกจึงควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่ ทำเรื่องน่าอายขึ้น
“เอาล่ะ พวกเรารีบไปกันเถอะ”
พวกนางเข้าไปในวัง พอมาถึงตำหนักชิ่งหนิงก็เจอกับองค์หญิงใหญ่หลี่เหวินจวินพอดี นางอยู่ในชุดกระโปรงยาวสีเหลืองอ่อน เกี้ยวหงส์สายสะพาย วิจิตรตระการตาไม่เป็นหนึ่ง ดูคล้ายกำลังจะเคลื่อนขบวนไปที่ไหน
“หม่อมฉันหวังเยียนหรันถวายพระพรองค์หญิงใหญ่”
“เสี่ยวจูถวายพระพรองค์หญิงใหญ่”
หวังเยียนหรันกับเสี่ยวจูทำความเคารพทันที
หลี่เหวินจวินมีบุคลิกสง่างามเหนือคน พอเห็นหวังเยียนหรันแล้วก็แย้มยิ้มพูดด้วยความดีใจทันที
“อ้าว ลุกขึ้น ๆ น้องเยียนหรันมาแล้ว พอดีเลย ข้ากำลังจะไปตำหนักฉีหลิน เยียนหรันก็ไปกับข้าด้วยกันเถอะ”
หวังเยียนหรันงงงัน
ตำหนักฉีหลิน?
ปกติแล้วตำหนักฉีหลินจะเป็นสถานที่ในการสอนและสอบด้านการปกครองและการทหารของเหล่าองค์ชาย องค์หญิงใหญ่จะไปทำไมกันนะ
แต่หวังเยียนหรันก็ไม่บอกปัด ขึ้นเกี้ยวทันที ไปตำหนักฉีหลินพร้อมกับหลี่เหวินจวิน
ระหว่างทางจู่ ๆ หลี่เหวินจวินก็พูดถึงหิมะพิทักษ์เมือง
“เยียนหรัน เจ้ามีความเห็นยังไงกับกลอนบทนี้ วันนี้ที่เชิญเจ้ามาก็เพราะจะถามความเห็นเจ้าเกี่ยวกับเรื่องนี้นี่แหละ”
พอหวังเยียนหรันได้ยินดังนั้น ดวงหน้างดงามก็แย้มยิ้ม ก่อนจะตอบทันทีว่า
“หิมะพิทักษ์เมืองนี้เป็นกลอนดีที่ยากจะพบพานในหลายปีนี้จริง ๆ เพคะ เป็นยอดกวีในยอดกวี แม้แต่เสิ่นไท่ฟู่ก็ยังชื่นชมยกเป็นสุดยอดกวีพันปี โดยเฉพาะท่อนที่ว่า ‘ตกปลาเดียวดายในแม่น้ำเย็นเยือกยามหิมะโปรย’ หม่อมฉันประทับใจยิ่งนัก”
เมื่อวานนางเจาะจงขอคำชี้แนะจากหลี่จุ่น
เรือน้อยโดดเดี่ยว ชายชราสวมเสื้อหญ้าแฝกหมวกกุ้ยเล้ย ตกปลาเดียวดายในแม่น้ำเย็นเยือกยามหิมะโปรย
หนึ่งโดดเดี่ยว หนึ่งเดียวดาย แฝงความคิดและอารมณ์ของหลี่จุ่น ทำให้คนประทับใจยิ่งนัก
หลังจากได้ยินคำอธิบายของหลี่จุ่น หวังเยียนหรันก็เข้าใจกลอนบทนี้มากขึ้น และเปลี่ยนทัศนคติที่มีต่อหลี่จุ่นอย่างไม่เป็นรูปเป็นร่างด้วย
หลี่เหวินจวินหัวเราะ รอยยิ้มอ่อนโยน แต่ในแววตากลับปรากฏอารมณ์ซับซ้อนเล็กน้อย จากนั้นจึงพูดขึ้น
“ก็ไม่รู้ว่าน้องหกไปเอากลอนดี ๆ มาจากไหนสิน่า คนที่แต่งกลอนบทนี้มีความสามารถที่ไม่เคยพบเจอในพันปีจริง ๆ”
หวังเยียนหรันทำหน้าประหลาดใจ “หรือว่าองค์หญิงมิทรงเชื่อว่าองค์ชายหกทรงแต่งขึ้นเองหรือเพคะ”
“หืม”
หลี่เหวินจวินทำหน้าประหลาดใจยิ่งกว่าหวังเยียนหรันทันที “เจ้าคิดว่า น้องหกแต่งกลอนเองหรือ”
ขณะเดียวกัน
ตำหนักฉีหลิน
หลี่จุ่นสั่งให้องครักษ์ในตำหนักเอาท่อนไม้มาจำนวนหนึ่ง จากนั้นก็มัดขึ้นรูป ตั้งโครงที่สูงกว่ากระถางยักษ์อยู่หน้าตำหนัก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
ตอนที่203หาย...
ไม่ update มาหลายวันแล้วครับ...
เรื่องนี้สนุกมากครับ ติดตามแล้ว update ช้าและน้อยไปนะครับ แค่วันละ 2 chapter ขอแนะนำให้เพิ่เป็นวันละ 5 Chapter ครับ...
ตอน 203 หาย...
เรื่องนี้ก็ ok ครับ สนุกดี ขอบคุณadminครับ...
ขอบคุณแอดมินมากครับที่อัปเดทให้อ่าน...
ปกติจะอัพ เพิ่มวันไหนครับ รึ ไม่มีอัพให้แล้ว...
ไม่อัปเดทแล้วเหรอครับ กำลังสนุก...
ขอบคุณครับที่ลงให้อ่าน...