ช่วงเวลานี้
หลี่เจิ้งตะลึงงัน
องค์ชายห้าหลี่จงตะลึงงัน
องค์หญิงแปดหลีเซียงจู๋ตะลึงงัน
องค์ชายเจ็ดหลี่จิ้นตะลึงงัน
ขันทีหวังเหลียนตะลึงงัน
หวังเยียนหรัน หลี่เหวินจวินและคนอื่น ๆ ก็ทำหน้าตะลึงงันกันไปหมด
แค่หลี่จุ่นกดลงไปเบา ๆ ก็ยกกระถางยักษ์พันชั่งได้แล้ว ตกตะลึงไปทั่วทั้งงานเดี๋ยวนั้น
กระถางยักษ์หลายพันชั่งใบนี้ หลี่จุ่นกลับยกมันขึ้นมาอย่างง่ายดายด้วยการกดเบา ๆ
เหลือเชื่อ!
ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์!
ทุกคนต่างมองหลี่จุ่นด้วยใบหน้าตกตะลึง ความทึ่งเปื้อนอยู่เต็มใบหน้า แล้วลำคอยังแห้งผากด้วย
คิดไม่ถึง หลี่จุ่นจะยกกระถางยักษ์เช่นนี้ขึ้นมาได้ด้วยการกดเบา ๆ
นี่มันเหลือเชื่อไปเลย!
ยังเป็นหลี่เหวินจวินที่ทำลายความเงียบก่อน เดินไปมองคานงัดที่หลี่จุ่นทำขึ้นอย่างละเอียด จากนั้นจึงพูดขึ้นช้า ๆ
“น้องหก เจ้าทำได้ยังไงน่ะ”
“คารวะพี่หญิงใหญ่!”
หลี่จุ่นคำนับเล็กน้อย ในใจดีใจมาก แต่สีหน้ายังเรียบเฉย พูดขึ้นพลัน
“พี่หญิง นี่เรียกว่าคานงัด แค่หาจุดที่ถูกต้องก็ใช้เล็กขยับใหญ่ ยกของหนักด้วยกำลังน้อยนิดได้แล้ว”
หลี่เหวินจวินกะพริบตา มองหลี่จุ่นแล้วก็วาบประกายแสงแปลกใจ
“ได้ยินว่าปีนี้น้องหกเปลี่ยนไปไม่น้อย ชอบทำของประหลาด ๆ นึกว่าน้องหกไม่ศึกษาเรียนวิชา ดูท่าข้าจะโทษเจ้าผิดไป” หลี่เหวินจวินพูดช้า ๆ แววตาอ่อนโยน เขย่งเท้าลูบศีรษะของหลี่จุ่นที่สูงกว่านางคืบหนึ่งเบา ๆ
ชั่วขณะ หลี่จุ่นตัวเกร็ง ดวงตาฉายแววประหลาดใจ
หลี่เหวินจวินกำลังจับตาดูเราอยู่เหรอ!
รู้ด้วยว่าปีนี้เราเปลี่ยนไป!
ไม่อยากจะเชื่อ!
นี่เป็นเรื่องที่แม้แต่คุณพ่อฮ่องเต้เผียนอีของเขาก็ยังไม่รู้เลย
หลี่เหวินจวินกลับรู้ หรือว่านางเจาะจงจับตาดูเราอยู่
แต่ถัดมา กับการกระทำที่สนิทสนมของหลี่เหวินจวินอย่างนี้ หลี่จุ่นเขินมาก รีบพูด
“ขอบคุณพี่หญิงที่ชม ข้าแค่ตระหนักได้จากตอนที่บังเอิญเห็นองครักษ์วังหลวงขนย้ายของหนักเท่านั้น ไม่ได้มีความรู้ล้ำลึกอะไร ถ้าท่านสนใจ ข้าจะอธิบายให้อย่างละเอียดแน่นอน”
แค่หลี่เหวินจวินและหวังเยียนหรันแย้มยิ้ม รอบ ๆ ก็ราวกับขาดสีสัน ดวงหน้างามล้ำสะเทือนโลกา “ได้ ข้าต้องไปขอคำชี้แนะจากน้องหกแน่นอน”
วันนี้หลี่เหวินจวินก็มาเพราะรู้ว่าเสด็จพ่อจะทดสอบวรยุทธ์ของหลี่จุ่นเหมือนกัน กลับไม่คิดว่าหลี่จุ่นจะแสดงพรสวรรค์ด้านบู๊ที่ยอดเยี่ยมเช่นนี้
แน่นอนว่านี่ไม่นับเป็นพรสวรรค์ด้านบู๊
แต่เป็นความชาญฉลาดต่างหาก!
ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ในใจของหลี่เหวินจวินกลับสงบลงได้
“เสด็จพ่อ หม่อมฉันยกกระถางใบนี้ได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ”
หลี่จุ่นค้อมตัวรอคำตัดสินของหลี่เจิ้งที่กำลังทึ่งอยู่
หลี่เจิ้งค่อย ๆ คืนสติ จ้องหลี่จุ่นเชิงลึก ราวกับจะมองเขาให้ทะลุ ครู่หนึ่งแล้วจึงเอ่ยปากช้า ๆ
“แม้เจ้าจะไม่ได้แสดงกำลังยุทธ์ของตัวเอง แต่ ข้าได้พูดไว้แต่แรก ขอเพียงเจ้ายกกระถางนี้ได้ก็ถือว่าเจ้าผ่านบททดสอบ ผ่าน!”
จะไม่ผ่านได้เหรอะ
หลี่จุ่นยิ้มเยาะอยู่ในใจ
คำนับแล้วพูด “ขอบพระทัยเสด็จพ่อ”
ทันใดนั้น องค์ชายห้าหลี่จงสีหน้าปั้นยาก
องค์หญิงแปดกับองค์ชายเจ็ดก็ไม่ได้ดีไปกว่ากันสักเท่าไร ทำหน้าอย่างกับถ่ายลำบาก
คิดไม่ถึง หลี่จุ่นตัวบางอย่างนี้ มือไม่มีแรงจับไก่ ดันผ่านการทดสอบของเสด็จพ่อได้ซะนี่
นี่ผ่านเพราะใช้มันสมองต่างหาก!
แต่...เสด็จพ่อประทานอนุญาตก่อน ตอนนี้กระดากพูด
แต่พอเห็นหลี่จุ่นกระหยิ่มยิ้มย่องอย่างนี้แล้ว พวกเขาก็เจ็บกระดองใจเหลือเกิน!
โดยเฉพาะหลี่จง เขามองหลี่จุ่นด้วยสายตาเย็นเฉียบ
ถ้าไอ้นี่ไม่ไปเมืองหลินซุ่น เขาก็ทำอะไรมันไม่ได้นะสิ บัดซบจริง ๆ!
พอหยางจงได้ยินหลี่เจิ้งเอ่ยปากทองคำ บอกนายบ้านตัวเองผ่านการทดสอบ แถมต่อไปจะไม่ทำให้นายบ้านตัวเองลำบากใจแล้วก็รื้นน้ำตาทันที
องค์ชาย ดีจริง ๆ เลยพ่ะย่ะค่ะ!
หลี่เจิ้งใบหน้าเฒ่าชราเคร่งขรึม โบกมือพลางพูดว่า “หัวหน้าขันทีหวัง ข้าเหนื่อยแล้ว กลับตำหนักเถอะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน
ไม่อัพแล้วเหรอคะ...
ตอนที่203หาย...
ไม่ update มาหลายวันแล้วครับ...
เรื่องนี้สนุกมากครับ ติดตามแล้ว update ช้าและน้อยไปนะครับ แค่วันละ 2 chapter ขอแนะนำให้เพิ่เป็นวันละ 5 Chapter ครับ...
ตอน 203 หาย...
เรื่องนี้ก็ ok ครับ สนุกดี ขอบคุณadminครับ...
ขอบคุณแอดมินมากครับที่อัปเดทให้อ่าน...
ปกติจะอัพ เพิ่มวันไหนครับ รึ ไม่มีอัพให้แล้ว...
ไม่อัปเดทแล้วเหรอครับ กำลังสนุก...
ขอบคุณครับที่ลงให้อ่าน...