องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 50

วันต่อมา

ยามเว่ย เวลาประมาณบ่ายสอง

หลี่จุ่นและคนอื่นรวมตัวกันในสนามประลองอีกครั้ง หลี่เจิ้งนั่งอยู่บนบัลลังก์ทองคำ มองเหล่าผู้คนด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

หลี่จุ่นพบว่าองครักษ์ข้างกายหลี่เจิ้งมากกว่าวันก่อนๆ อยู่หลายเท่า ไม่เพียงแค่นี้ ทหารรักษาพระองค์รอบๆ ก็เพิ่มขึ้นหลายเท่าเช่นกัน

ในใจของเขาพลันตกตะลึง

นี่เกิดเรื่องอะไรขึ้นงั้นเหรอ

ทำไมจู่ๆ ถึงเพิ่มองครักษ์มากมายขนาดนี้

“ขอแสดงความยินดีกับชายทั้งสามพระองค์และทุกคน ขอแสดงความยินดีที่ทุกคนเลื่อนขั้นได้สำเร็จ”

หวังเหลียนในนามของหลี่เจิ้ง เริ่มเดินหน้าขึ้นมาเอ่ย “กฎของการล่าสัตว์ทุกคนย่อมรู้ดีกันอยู่แล้ว เช่นนั้นข้าจะไม่พูดให้มากความ...”

เขาพูดไปรอบหนึ่ง ไม่มีถ้อยคำที่มีประโยชน์อะไร หลี่จุ่นฟังไปสักพักก็ไม่ฟังอีก

หวังเยียนหรันขยับเข้ามาข้างกายเขา แล้วกระซิบถามว่า “องค์ชาย เมื่อคืนท่านบอกว่าติดตั้งบางอย่างที่สามารถล่าเหยื่อได้เป็นจำนวนมากอีกครั้ง ตกลงท่านทำอะไรกันแน่เพคะ”

บนดวงหน้าอันประณีตของหวังเยียนหรันเต็มไปด้วยสีหน้าของความสงสัย

หลี่จุ่นหรี่ตาพลางยิ้ม ส่ายหน้าแล้วเอ่ยขึ้นว่า “ไม่ได้ บอกเจ้าตอนนี้ไม่ได้ ถึงเวลาเจ้าก็จะรู้เอง”

“หืม!”

หวังเยียนหรันรีบหืมอย่างอ่อนโยนทีหนึ่ง “องค์ชายเพคะ ท่านร้ายกาจขนาดนี้ได้อย่างไร จงใจทำให้ผู้อื่นอยากรู้!”

หลี่จุ่นชำเลืองมองแม่คุณคนนี้ทีหนึ่ง ครั้งนี้แม่คุณคนนี้ราวกับมีเสน่ห์ขึ้นมา ดูน่ารักและมีเสน่ห์อย่างเห็นได้ชัด

แต่ทว่า หลี่จุ่นทำทีท่าไม่สะทกสะท้าน เอ่ยขึ้นเรียบๆ ว่า “จนปัญญา ข้าเป็นของข้าเช่นนี้มาตั้งนานแล้ว”

“ข้าเองก็อยากรู้เช่นกัน”

ไม่รู้ว่าจ้าวเฟยเอ๋อร์เดินมาตั้งแต่เมื่อไร สีหน้าดูเรียบเฉยเล็กน้อย

หลี่จุ่นพลันเอ่ยขึ้นอย่างหมดคำพูด “เดี๋ยวถึงเวลาเปิดคอกแล้ว พวกเจ้าก็จะรู้แล้วไม่ใช่หรือ บอกพวกเจ้าตอนนี้ก็ไม่สนุกสิ”

หวังเยียนหรันรีบแสร้งทำเป็นจะร้องไห้ สีหน้าอย่างจะเลิกก็ไม่ได้จะหยุดก็ไม่ได้ “องค์ชาย ทำไมท่านถึงได้ร้ายกาจถึงเพียงนี้...”

จ้าวเฟยเอ๋อร์มองหลี่จุ่นทีหนึ่ง แววตามีความเย็นชาอยู่เล็กน้อย

หลี่จุ่นไม่สะทกสะท้าน สีหน้ามีความหมายลึกซึ้ง

เมื่อหวังเหลียนพูดจบ ก็แจ้งให้พื้นที่เลี้ยงสัตว์ที่อยู่ไกลๆ ปล่อยสัตว์ออกมา

ทุกคนยืนอยู่ในสนามประลอง เห็นฝูงกวางออกมาจากคอก ก็รีบบึ่งขึ้นไปบนเขากันทันที กวางเหล่านี้หิวโซจะตายอยู่แล้ว ย่อมวิ่งขึ้นไปบนเขาอย่างสุดชีวิต

หวังเยียนหรันพูดขึ้นด้วยความตื่นเต้นป่นคาดหวัง “องค์ชายเพคะ ปล่อยกวางออกมาแล้ว! ตกลงท่านติดตั้งอะไรเอาไว้กันแน่”

“ไม่ต้องร้อนใจไป รอดูการละเล่นดีๆ เถอะ” หลี่จุ่นพูดขึ้นพลางหัวเราะ

“เชอะ! ไม่อยากจะสนใจท่านแล้ว!” ดวงหน้าของหวังเยียนหรันมีความโกรธอยู่เล็กน้อย แก้มป่องน้อยๆ ดูแล้วน่ารักทีเดียว

หลี่จุ่นเอ่ย “ไม่ต้องร้อนใจไป รอขึ้นเขาไปในยามเซิน ก็จะรู้แล้ว”

จ้าวเฟยเอ๋อร์มองเขาทีหนึ่ง จากนั้นเอ่ยขึ้นว่า “เกรงว่าองค์รัชทายาทจะรู้แล้วว่าเราร่วมมือกับองค์หญิงใหญ่ต่อ เขาคงไม่ปล่อยให้เราชนะง่ายๆ แน่ โดยเฉพาะจะบอกว่าครั้งนี้เป็นครั้งที่สอง ไม่สู้บอกว่าเป็นครั้งสุดท้าย”

สีหน้าของหวังเยียนหรันเองก็จริงจังขึ้นมาเช่นกัน บนหน้าเผยให้เห็นสีหน้าแห่งความกังวล นางเอ่ยขึ้นว่า

“ข้าได้ยินท่านพ่อบอกว่าองค์รัชทายาทเก่งกาจมาก ท่านพ่อบอกว่าสองวันก่อนไม่ใช่ความสามารถที่แท้จริงของเขา องค์รัชทายาทซ่อนเร้นความสามารถที่แท้จริงเอาไว้”

หลี่จุ่นมองสตรีทั้งสองนางทีหนึ่ง จากนั้นก็พยักหน้าแล้วเอ่ยขึ้นว่า “ไม่เป็นไรหรอก เราไม่จำเป็นต้องกังวลไปขนาดนั้น ข้ามีแผนรับมืออยู่แล้ว”

สตรีทั้งสองนางกังวลไปก็ไร้ประโยชน์ จึงได้แต่พยักหน้าช้าๆ

แต่ทว่า

หลี่จุ่นมองเหล่าองครักษ์ที่นัยน์ตาแหลมคมรอบๆ หลี่เจิ้ง แล้วเอ่ยเตือนขึ้นมา

“จริงสิ เดี๋ยวขึ้นเขาต้องระวังตัวหน่อยนะ ห้ามประมาทไม่ได้เป็นอันขาด ข้าสัมผัสได้ถึงความไม่ชอบมาพากลบางอย่าง”

สตรีทั้งสองนางมองมา หวังเยียนหรันรีบเอ่ยถามขึ้น “องค์ชาย มีอะไรหรือเพคะ มีตรงไหนไม่ชอบมาพากลอย่างนั้นหรือ”

หลี่จุ่นส่ายหน้า “ข้าไม่แน่ใจ แต่ก็ระวังไว้หน่อยก็แล้วกัน อาจจะมีอันตรายหรือสิ่งที่คาดไม่ถึงอะไร”

จ้าวเฟยเอ๋อร์พยักหน้า

หวังเยียนหรันยังคงทำปากจู๋ ทำท่าเหมือนคิดอะไรอยู่

“พวกเจ้ากลับไปพักผ่อนที่ตำหนักกันก่อนเถอะ ข้าจะไปหารือกับพี่หญิงสักหน่อย”

หลี่จุ่นเดินจากไปทางกลุ่มของหลี่เหวินจวิน

หลี่เหวินจวินเห็นหลี่จุ่นเดินมา จึงรีบเอ่ยขึ้นด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน

“น้องหก เจ้ามาแล้วหรือ”

ราวกับนางรู้ว่าหลี่จุ่นจะมา

หลี่จุ่นพยักหน้าแล้วเอ่ยถามขึ้นไปเลย “พี่หญิง คิดเห็นอย่างไรกับการล่าสัตว์ในวันนี้หรือ”

หลี่เหวินจวินมองไปทางกลุ่มขององค์รัชทายาท แล้วเอ่ยขึ้นพลางหัวเราะ

“วันนี้กวางยังหนีไปไม่ไกล และไม่แน่ว่าวันนี้องค์รัชทายาทอาจจะเผยความสามารถที่แท้จริงออกมา ฉะนั้นครึ่งวันนี้จะเป็นโอกาสทองของเรา”

หลี่จุ่นรีบหัวเราะพลางเอ่ยว่า “ดูท่าพี่หญิงคงจะคิดเห็นเหมือนข้าทีเดียว เช่นนั้นวันนี้เรามาล่าสัตว์อย่างเต็มกำลังกันเถอะ ล่าได้เท่าไรก็เท่านั้น”

หลี่เหวินจวินมองเขาด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความอ่อนโยน พยักหน้าเบาๆ จากนั้นก็เอ่ยเตือนอย่างตั้งใจและไม่ตั้งใจ

“จริงสิ น้องหก วันนี้บนเขาต้องระวังตัวเอาไว้หน่อยนะ หากเป็นไปได้...ก็ตามข้าเอาไว้”

นัยน์ตาของหลี่จุ่นประกายความสงสัยขึ้นมาโดยพลัน!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน