องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 52

“เจ้าอยากรู้?”

หลี่จุ่นหรี่ตามองดูองค์รักษ์ที่เอ่ยปากถาม องค์รักษ์และขันทีที่ยืนอยู่รอบๆต่างเงี่ยหูตั้งใจรอฟัง

พวกเขาก็อยากรู้เหมือนกันว่าหลี่จุ่นทำได้อย่างไร นี่เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจริงๆ

“พ่ะย่ะค่ะ องค์ชาย!” องค์รักษ์มองหลี่จุ่นด้วยสีหน้าเอาใจ

แต่หลังจากนั้น!

หลี่จุ่นก็หัวเราะออกมา และส่ายหน้าอย่างจริงจังก่อนจะพูดขึ้นว่า “เรื่องนี้บอกให้รู้ไม่ได้ เพราะเป็นความลับขั้นสุดยอด จะบอกให้เจ้ารู้ได้อย่างไร?”

ทันใดนั้น

องค์รักษ์ก็ทำหน้าสิ้นหวัง และดูหดหู่เศร้าหมอง องค์รักษ์และขันทีคนอื่นๆต่างก็รู้สึกอัดอั้นตันใจ

เมื่อเห็นสีหน้าที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของพวกเขา ทันใดนั้นหลี่จุ่นก็หัวเราะออกมาอย่างได้ใจ แล้วเงยหน้ามองดูหน้าผาแห่งนั้น

เรื่องนี้ต้องเริ่มพูดจากเมื่อวาน

ในเมื่อวานระหว่างที่เขาพาหยางจงไปกลั่นแกล้งกลุ่มขององค์ชายสี่กับองค์รัชทายาท จึงได้กุเรื่องขึ้นว่าที่ใต้หน้าผามีกวางอาศัยอยู่

จากนั้นเขาและหยางจงก็สังเกตเห็นว่าใต้หน้าผาสามารถวางกับดักได้ แล้วทั้งสองจึงได้เริ่มจัดฉากสถานที่

ส่วนกวางที่มารวมตัวกันอยู่ที่นั่น เหตุผลก็ง่ายเพียงนิดเดียว

เพราะหลี่จุ่นได้วางหญ้าเลี้ยงสัตว์อย่างดีไว้ในป่า และใช้หญ้านั้นล่อให้กวางเข้าไปที่ใต้หน้าผา จากนั้นก็เอาหญ้าเลี้ยงสัตว์อย่างดีวางไว้ที่นั่นจำนวนมากกว่าเดิม

ก่อนที่กวางเหล่านั้นจะถูกปล่อยออกมาจากพื้นที่เลี้ยงสัตว์ เพื่อให้พวกมันสามารถวิ่งได้ไกลมากขึ้น จึงปล่อยให้มันหิวอยู่ก่อนแล้วล่วงหน้าสองสามวัน

เมื่อกวางเหล่านั้นได้เจอหญ้าอย่างดีก็จะแย่งกันกิน จึงทิ้งหญ้าไว้ตลอดเส้นทาง จนสุดท้ายก็ได้มารวมกันอยู่ที่ใต้หน้าผา

แต่ว่า

หลี่จุ่นก็คาดไม่ถึงว่าจะสามารถล่อให้กวางติดกับดักได้เยอะถึงเพียงนี้ ตอนแรกเขาคิดไว้ว่าถ้าสามารถล่อมาได้จำนวนยี่สิบตัวก็ถือว่ายอดเยี่ยมแล้ว และคาดไม่ถึงด้วยซ้ำว่าจะมากันมากจนถึงหกสิบสามตัว!

ช่างเป็นการเก็บเกี่ยวอย่างอุดมสมบูรณ์ที่อยู่เหนือความคาดหมาย?

เพื่อทำการขนย้ายสัตว์ที่ล่ามาได้เหล่านี้ องค์รักษ์ที่รับหน้าที่นี้ต้องใช้ม้าในการขนย้ายทั้งหมดยี่สิบกว่าตัว จึงจะสามารถขนกลับไปได้ทั้งหมด

หลี่จุ่นและหยางจงไม่ได้ลงมาจากภูเขา ทั้งสองยังคงล่าสัตว์อยู่ในป่าต่อไป

แต่ว่า เรื่องที่หลี่จุ่นได้ทุบกวางตายไปจำนวนหกสิบสามตัวนี้ ถูกแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว จนเรื่องนี้รู้ไปถึงตำหนักเฟิงหยาง

“อะไรนะ? ทุบตายหกสิบสามตัวงั้นหรือ?”

หลี่เจิ้งได้ฟังรายงานจากหวังเหลียน ก็พูดอย่างโมโหขึ้นมาทันที

“นึกว่าข้าเป็นคนหลอกง่ายหรือ?!”

เมื่อคืนเขาได้ส่งคนไปตรวจสอบกวางที่ตายไปแล้วเหล่านั้น แต่ก็ไม่ได้เบาะแสอะไรมาเลย ในรายงานแจ้งว่าร่องรอยบาดแผลสาหัสมาก จึงไม่สามารถทำการพิสูจน์แยกแยะได้

หลี่เจิ้งยังคงมีความสงสัยติดอยู่ในใจ และคิดว่ากวางเหล่านั้นไม่น่าจะถูกทุบจนตาย

ผ่านไปเพียงแค่ค่ำคืนเดียว หลี่จุ่นก็แสดงผลงานออกมาอีก หรือว่าเขากำลังท้าทายข้า!

หลี่เจิ้งโมโหขึ้นมาอย่างเดือดดาล!

หลังจากนั้น!

หวังเหลียนจึงพูดขึ้นมาอย่างรวดเร็วว่า “ฝ่าบาท เรื่องนี้เป็นความจริงแน่นอนพ่ะย่ะค่ะ องค์รักษ์ที่ติดตามองค์ชายหกไปด้วยต่างก็เห็นกับตาว่าองค์ชายหกใช้ก้อนหินทุบกวางให้ตายพ่ะย่ะค่ะ!”

“เป็นไปไม่ได้! ข้าไม่เชื่อ!”

หลี่เจิ้งขมวดคิ้วและทำหน้าไม่เชื่อ “ทุบตายไปสองสามตัวก็ยังพอเป็นไปได้ แต่นี่ทุบตายไปตั้งหกสิบสามตัว? หรือว่ากวางเหล่านั้นจะเป็นกวางโง่เขลา? ไม่รู้จักวิ่งหนี?”

หวังเหลียนยิ้มและพูดอธิบายทันทีว่า “ฝ่าบาท เรื่องมันเป็นเช่นนี้พ่ะย่ะค่ะ…”

เขาได้เล่าเรื่องที่หลี่จุ่นทุบกวางตายอยู่ใต้หน้าผา เมื่อฟังจบหลี่เจิ้งก็ทำหน้าตกใจ ผ่านไประยะหนึ่งถึงจะได้สติพูดขึ้นว่า

“ถ้าเป็นอย่างที่กล่าวมา แสดงว่าบุตรชายคนนี้ก็นับว่ามีสติปัญญาดีเหมือนกัน…แต่ว่า เขาทำยังไงเพื่อให้กวางจำนวนหลายตัวไปอยู่รวมกันที่ใต้หน้าผา? เป็นเรื่องที่ไม่น่าจะเป็นไปได้”

หวังเหลียนยิ้มและพูดขึ้นว่า “ทูลฝ่าบาท กระหม่อมให้คนไปสืบเสาะดูแล้ว ได้ความว่าใต้หน้าผานั้นมีเศษหญ้าชั้นเลิศหลงเหลือทิ้งไว้ คิดว่าองค์ชายหกคงจะใช้หญ้าพวกนั้นล่อให้กวางไปที่ใต้หน้าผาพ่ะย่ะค่ะ”

หลี่เจิ้งทำสีหน้าประหลาดใจ และไม่พูดไม่จาอยู่นาน

อีกฝากหนึ่ง

หลี่เหวินจวินพาเจ้าเฟยเอ๋อร์และคนอื่นๆกำลังขี่ม้าล่าสัตว์อยู่บนภูเขา ทันใดนั้นก็มีองค์รักษ์วิ่งมารายงานอย่างรีบร้อน

เมื่อหลี่เหวินจวินได้ฟังจนจบ ก็มีอาการตกตะลึง ทันใดนั้นใบหน้าที่งดงามหยดย้อยก็ได้หยุดนิ่งไปทันที

“น้องหกทุบกวางตายไปหกสิบสามตัวเชียวหรือ?” เธออ้าปากค้าง และเอ่ยปากถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่ประหลาดใจ

“พ่ะย่ะค่ะ องค์หญิง!” องค์รักษ์คนนั้นพูดตอบด้วยความเคารพ

เจ้าเฟยเอ๋อร์และคนอื่นๆต่างก็ได้ยินคำพูดที่ตกตะลึงของหลี่เหวินจวิน จึงมีสีหน้าตื่นตระหนกขึ้นมาทันที

หลี่จุ่นทุบกวางตายหกสิบสามตัว เป็นเรื่องจริงหรือ?

หรือเป็นการพูดโอ้อวดเกินจริง?

เป็นไปไม่ได้!

เจ้าเฟยเอ๋อร์และหวังเยียนหรันแสดงสีหน้าเหม่อลอย

ฝ่ายองค์รัชทายาทก็ได้รับข่าวสารนี้เช่นกัน

หลี่จงได้ยินเรื่องนี้ ก็แสดงสีหน้าไม่พอใจขึ้นมาทันที และด่าทอด้วยเสียงดังอย่างโมโหว่า “เป็นแบบนี้ได้อย่างไร? ทำไมคนไม่เอาถ่านเช่นนั้นถึงได้โชคดีอยู่บ่อยครั้ง?!”

สีหน้าของหลี่เฉียนก็ดูย่ำแย่สุดขีดเหมือนกัน

มันคือหน้าผาอะไรกันแน่ ถึงได้มีกวางไปรวมกันอยู่ตรงนั้นหลายหน ทำให้คนไม่เอาถ่านได้ลาภลอยก้อนใหญ่ นั้นมันกวางตั้งหกสิบสามตัวเชียวนะ!

ภายในคราวเดียวก็ล่าได้ถึงหกสิบสามตัว!

น่าโมโหจริงๆ!

ตรงด้านหน้าทั้งสอง บนหลังม้าพันธุ์ดีสีน้ำตาล รัชทายาทองค์ปัจจุบันในชุดเกราะสีทอง ท่าทางองอาจสง่าผ่าเผย

รัชทายาทที่รูปโฉมหล่อเหลา โครงหน้าสมส่วนชัดเจน ทั้งร่างกายที่เต็มไปด้วยพลังอันปราดเปรียว

ในเวลานี้

เมื่อได้ฟังรายงานจนจบ สายตาคู่นั้นที่คมกริบดั่งเหยี่ยวก็ค่อยๆหรี่ลงมา เมื่อมองเห็นกวางที่วิ่งหนีอยู่ตรงหน้า คันธนูเสียบลูกศร ทันใดนั้นก็ยิงทะลุหัวกวางตัวนั้นได้อย่างรวดเร็ว!

หลังจากนั้น!

สีหน้าที่ดูเย็นชาของเขา ได้พูดขึ้นว่า “ขนกลับไป!”

“พ่ะย่ะค่ะ!”

ทันใดนั้นก็มีองค์รักษ์วิ่งไปอย่างรวดเร็ว ขนย้ายกวางที่ถูกยิงตายคาดอกธนู

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน