องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน นิยาย บท 53

หลี่จุ่นและหยางจงเดินวนรอบภูเขาไปอย่างใจเย็น และได้เจอกับกวางเจ็ดแปดตัวอยู่รวมกันอีก แต่ว่าทั้งสองไม่ได้เอาหน้าไม้กลมาด้วย

หยางจงพูดขึ้นอย่างเสียดายว่า “องค์ชาย น่าเสียดายจริงๆ!”

หลี่จุ่นก็ขมวดคิ้วอยู่เหมือนกัน เมื่อมองดูกวางแปดตัวนั้นกำลังกินหญ้าอย่างสบายใจ ก็รู้สึกนึกเสียดายขึ้นมาเล็กน้อย

ถ้าหากว่าไม่มีหน้าไม้กล ก็ไม่มีวิธีอื่นที่จะทำให้กวางพวกนี้ตายได้ นอกเสียจากจะไล่ต้อนให้พวกมันไปอยู่รวมกันที่ใต้หน้าผา แล้วเอาหินทุบให้ตายอย่างวิธีเดิม

แต่ว่า บริเวณนี้ไม่มีหน้าผา

หลี่จุ่นคิดใคร่ครวญอยู่สักพัก ทันใดนั้นก็เอาพลุสัญญาณล้วงออกมาจากด้านในเสื้อ ชี้ไปที่ท้องฟ้าอันว่างเปล่าแล้วก็จุดมันขึ้นมา

ฟึ่บ!

พลุสัญญาณทะยานสู่ท้องฟ้า และแตกกระจายออกเป็นดอกไม้ไฟ

“องค์ชาย ท่านกำลังจะทำอะไร?” สีหน้าหยางจงเผยให้เห็นความตกตะลึง

หลี่จุ่นพูดตอบว่า “รอดูว่าพวกหลี่เหวินจวินจะเข้าใจสัญญาณนี้ไหม เรียบร้อยแล้ว พวกเราไปจากที่นี่กันเถอะ”

ตอนที่ใช้พลุสัญญาณในช่วงเช้าของเมื่อวานนี้ เขาสังเกตเห็นว่าองค์รักษ์บนภูเขาเพิ่มจำนวนมากขึ้น และคาดว่าน่าจะกำลังตามหาที่มาของจุดปล่อยพลุสัญญาณ

เหตุฉะนั้น ที่ตรงนี้จึงไม่ควรอยู่นาน

เพราะองค์รักษ์จะต้องมาตรวจสอบดูอย่างแน่นอน

“พ่ะย่ะค่ะ องค์ชาย” หยางจงเข้าใจแล้ว จึงเดินตามองค์ชายไปอย่างรวดเร็ว

อีกด้านหนึ่ง

หลี่เหวินจวินและคนในกลุ่มก็เงยหน้ามองดูพลุดอกไม้ไฟนั้น ต่างก็พากันประหลาดใจขึ้นมา

นี่คือของเล่นอะไร?

เมื่อวานก็ปรากฎให้เห็นตลอดครึ่งวัน ในวันนี้ก็ยังปรากฎขึ้นมาอีก

เจ้าเฟยเอ๋อร์และหวังเยียนหรันมองสบตากันทันที

พวกนางจำได้ว่าวันนี้หลี่จุ่นไม่ได้วางแผนจะล่าสัตว์ ฉะนั้นอาจจะไม่ได้เอาหน้าไม้กลติดตัวไปด้วย

จึงหมายความว่า พลุสัญญาณลูกนี้คงต้องเป็นการส่งสัญญาณให้พวกนางอย่างแน่นอน?

ทางนั้นมีกวาง!

เป็นไปได้อย่างสูง!

เจ้าเฟยเอ๋อร์จึงรีบพูดขึ้นว่า “องค์หญิงใหญ่เพคะ ไม่ทราบว่าสิ่งที่ปรากฎอยู่บนท้องฟ้านั่นคืออะไร มิสู้ให้หม่อมฉันและเยียนหรันลองไปสำรวจไหมเพคะ?”

หลี่เหวินจวินหันกลับมา และมองไปทางเจ้าเฟยเอ๋อร์ คิดใคร่ครวญอยู่สักพักก่อนจะพูดขึ้นว่า

“ไปพร้อมกันเลย เมื่อวานข้าทอดพระเนตรสิ่งนี้ปรากฎขึ้นบนท้องฟ้าอยู่หลายครั้ง จึงอยากไปทอดพระเนตรด้วยตนเอง”

เจ้าเฟยเอ๋อร์และหวังเยียนหรันมองสบตากัน และมีความอัดอั้นใจอยู่เล็กน้อย

แต่ว่า น่าจะไม่มีพิรุธอะไรหลุดออกมา จึงได้พยักหน้าตอบกลับทันที

หลี่เหวินจวินและคนทั้งกลุ่มก็ได้เดินทางไปยังสถานที่ปล่อยพลุสัญญาณนั้นกันอย่างพร้อมหน้า

“องค์หญิง มีกวางเพคะ!”

เจ้าเฟยเอ๋อร์เข้าใจความหมายของพลุสัญญาณลูกนี้ ฉะนั้นหลังจากที่ได้เห็นพลุสัญญาณนั้นก็ได้ทำการสำรวจอย่างรวดเร็ว สุดท้ายก็ได้พบกับกวางแปดตัวที่กำลังกินหญ้ากันอย่างสบายใจ

“ตามไล่ล่า!”

หลี่เหวินจวินสั่งการโดยทันที!

คนกลุ่มหนึ่งได้ล้อมรอบอยู่ทั่วสี่ด้าน และได้ไล่ล่ากวางแปดตัวนั้นไว้ได้อย่างรวดเร็ว

เจ้าเฟยเอ๋อร์และหวังเยียนหรันมองสบตากัน จากนั้นก็ยิ้มขึ้นมาอย่างดีใจ

ของเล่นชิ้นนี้ของหลี่จุ่นใช้ได้ผลดีจริงๆ!

บุตรชายของอวี่เหวินจิ้ง อวี่เหวินตูเงยหน้าสำรวจมองดูทั่วทุกด้าน และขี่ม้าวนดูอีกหนึ่งรอบ ผ่านไปสักระยะจึงค่อยหันไปส่ายหน้าให้กับหลี่เหวินจวินที่นั่งอยู่บนหลังม้า

หลี่เหวินจวินเงยหน้ามองดูบนท้องฟ้า ดวงตาอันสวยงามกระพริบอย่างช้าๆ

ช่างน่าแปลกจริงๆ?

เป็นสิ่งของอะไรกันแน่?

พวกนางเดินทางมาอย่างรีบเร่ง แต่ก็ไม่เห็นอะไรเลย เห็นแค่กวางแปดตัวเท่านั้น จึงรู้สึกไม่ชอบมาพากล

“องค์หญิง ดูนั่นพ่ะย่ะค่ะ!”

ทันใดนั้น อวี่เหวินตูก็ได้ชี้ไปยังบนท้องฟ้าที่อยู่ไม่ไกลนักและพูดขึ้นมาอย่างเสียงดัง

ทุกคนต่างพากันเงยหน้าขึ้น และแล้วก็มองเห็นพลุดอกไม้ไฟที่ปรากฎอยู่บนท้องฟ้า

เจ้าเฟยเอ๋อร์และหวังเยียนหรันต่างแสดงสีหน้าประหลาดใจขึ้นมา

เห็นทีหลี่จุ่นคงจะเจอกวางอีกแล้ว!

หลี่เหวินจวินพูดขึ้นทันทีว่า “ไป!”

คนกลุ่มหนึ่งกำลังเดินทางไปกันอย่างรวดเร็ว!

ผ่านไปไม่นาน พวกเขาก็มาถึงที่เกิดเหตุ และได้เจอกวางอีกสี่ตัว

หลังจากที่ไล่ล่ากวางสี่ตัวนั้นได้แล้ว

หลี่เหวินจวินก็ได้สงสัยขึ้นมา มองดูบนท้องฟ้า และพูดขึ้นว่า

“ทุกคนจงตั้งสติให้ดี เปิดตาให้สว่าง ที่ใดมีสิ่งของนี้ปรากฎขึ้นมา ก็ให้รีบไปที่นั่นโดยพลัน!”

“พ่ะย่ะค่ะ องค์หญิง!”

ทุกคนพากันพยักหน้าทันที!

เจ้าเฟยเอ๋อร์และหวังเยียนหรันกลับรู้สึกดีใจ ถ้าเป็นเช่นนี้ ก็จะทำงานได้ง่ายขึ้น

ผ่านไปไม่นานบนท้องฟ้าก็มีพลุดอกไม้ไฟปรากฎขึ้นอีก

ทุกคนรีบตามไป และล่ากวางได้สำเร็จอีกหกตัว

และเมื่อผ่านไปหลายครั้ง ทุกคนก็เริ่มเข้าใจขึ้นมา สิ่งของที่ปรากฎอยู่บนท้องฟ้า เกิดจากฝีมือของคน ซึ่งกำลังส่งสัญญาณบ่งบอกให้รู้ว่า “ที่นี่มีกวาง”

แต่ว่า เป็นฝีมือของใคร?

ช่างน่าแปลกจริงๆ!

ฝ่ายตรงข้ามเอาสิ่งของแปลกประหลาดแบบนี้มาจากที่ไหน?

หลี่เหวินจวินและคนในกลุ่มพากันเฝ้ารอสัญญาณบนท้องฟ้านั้นปรากฎขึ้น จากนั้นก็รีบเดินทางไป เมื่อผ่านไปแล้วเจ็ดแปดครั้ง สัตว์ที่ล่ามาได้ทั้งหมดมีประมาณสามสิบเอ็ดตัวแล้ว!

ทุกคนต่างก็รู้สึกดีใจกันอย่างมาก

แต่ว่า เมื่อท้องฟ้ามืดลง สัญญาณนั้นก็ไม่ปรากฎขึ้นมาอีก

ทุกคนเฝ้ารออยู่เนิ่นนาน หลี่เหวินจวินจึงพูดขึ้นว่า “พอแล้ว พวกเราเริ่มตามหากวางกันต่อ ไม่ต้องสนใจสิ่งของนั้นอีกแล้ว”

เจ้าเฟยเอ๋อร์และหวังเยียนหรันรู้เรื่องมากกว่า จึงคาดเดาว่าหลี่จุ่นคงจะเหนื่อยแล้ว และน่าจะลงจากภูเขาไปแล้ว จึงไม่ได้ใส่ใจอีก

ภายหลังจากนั้น!

เรื่องมันไม่เป็นอย่างที่คิด เวลานั้นตรงใต้หน้าผาแห่งหนึ่ง

หลี่จุ่นเริ่มมีเหงื่อเย็นไหลท่วมตัว และมองเห็นคนข้างกายหยางจงถูกตีจนหมดสติ จึงรู้สึกอ่อนแรงไปทั้งตัว

ตรงด้านหน้ามีคนสวมชุดดำสองคนปรากฎตัวขึ้น และปิดบังใบหน้าไว้ดั่งโจร อีกอย่างสองคนนั้นยังเป็นผู้หญิงอีกด้วย

หลี่จุ่นรู้สึกสันหลังเย็นวาบ ด้วยสีหน้าอ้อนวอนร้องขอชีวิต

“พี่ทั้งสอง จอมยุทธทั้งสอง ไว้ชีวิตด้วยเถอะ! ข้าน้อยไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น และสัญญาว่าจะไม่แพร่งพรายออกไปให้ใครรู้!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: องค์ชาย(ไม่)เอาถ่าน